QTC โชว์งบปี 64 กำไร 127 ล้าน แจกปันผล 0.20 บาท พร้อมกางแผนธุรกิจรับปีเสือ เดินเกมรุกสู่ Superior Long-term Performance ผ่าน 3 ธุรกิจทั้ง “หม้อแปลงไฟฟ้า-โซลาร์เซลล์- EV Charging” ตั้งเป้ารายได้ 1,200 ล้านบาท  
 

นายพูลพิพัฒน์ ตันธนสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คิวทีซี เอนเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ QTC ผู้ผลิตจัดจำหน่ายและให้บริการหม้อแปลงไฟฟ้า เปิดเผยผลประกอบปี 2564 มีกำไรสุทธิ 127.21 ล้านบาท ลดลง 19.26%เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไร 157.58 ล้านบาท

โดยในปี 2564 บริษัท มีรายได้รวม 1,185 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 13.94% แบ่งเป็นรายได้ธุรกิจหม้อแปลงไฟฟ้า 741 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อย เมื่อเทียบกับปีก่อน รายได้จากธุรกิจเทรดดิ้ง จากการเป็นตัวแทนจำหน่ายโซลาร์เซลล์ให้กับ LONGI Solar การจำหน่ายผลิตภัณฑ์ Huawei Solar Inverter  246  ล้านบาท เพิ่มขึ้น 197 % เมื่อเทียบกับปีก่อน ขณะเดียวกันรายได้จากการจำหน่ายกระแสไฟฟ้าของบริษัท คิวโซลาร์ 1 จำกัด ขนาด 8.6 MW ในปี 2564 จำนวน  134  ล้านบาท 

จากผลการดำเนินงานที่มีกำไร คณะกรรมการบริษัทฯ จึงมีมติอนุมัติจ่ายปันผลงวดปี 2564 ในอัตราหุ้นละ 0.20  บาท วันกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record date) วันที่ 12 เม.ย.2565 และจะจ่ายเงินปันผลในวันที่  27 เม.ย.2565

สำหรับภาพรวมธุรกิจในปี2565 นายพูลพิพัฒน์ กล่าวว่า บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าตามแผนยุทธศาสตร์เชิงรุก เพื่อมุ่งสู่ Superior Long-term Performance หรือการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยตั้งเป้าการเติบโตของรายได้แตะที่ระดับ 1,200 ล้านบาท ภายใต้กลยุทธ์การขับเคลื่อนองค์กรให้เติบโตอย่างยั่งยืนจาก 3 ธุรกิจหลัก ประกอบด้วย

 
1. ธุรกิจหม้อแปลงไฟฟ้า ซึ่ง QTC เป็นผู้ผลิตหม้อแปลงแบบ Super low loss รายแรกของประเทศไทย ที่ช่วยให้ประหยัดพลังงานได้ถึง 80% โดยเตรียมแผนเข้าประมูลงานของหน่วยงานราชการ เช่น การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และการไฟฟ้านครหลวง มูลค่ารวม 2,500 – 3,000 ล้านบาท คาดว่ามีโอกาสได้งานประมาณ 10 % ของมูลค่างานโดยรวม และยังมีการส่งออกไปยังต่างประเทศ คาดว่าจะมีรายได้จากการส่งออกหม้อแปลงไฟฟ้าประมาณ 300 ล้านบาท รวมทั้งงานในส่วนของภาคเอกชน คาดว่าจะมีรายได้ประมาณ 300 ล้านบาท 

2.ธุรกิจเทรดดิ้ง ภายใต้การเป็นตัวแทนจำหน่ายโซลาร์เซลล์ให้กับ LONGI Solar, Trina Solar, การจำหน่ายผลิตภัณฑ์ Huawei Solar Inverter ซึ่งในปีนี้มีการทำการตลาดเชิงรุกมากยิ่งขึ้น คาดว่าจะมีรายได้จากธุรกิจการจำหน่ายโซลาร์เซลล์ และ Solar Inverter ประมาณ 300 ล้านบาท 

3.ธุรกิจสถานีอัดประจุไฟฟ้า (EV Charging Station) เฟสแรก จำนวน 4 สถานี หรือ 12 หัวจ่าย โดยใช้เงินลงทุนประมาณ 15 ล้านบาท เตรียมดำเนินการให้บริการสถานีน้ำมันแห่งแรกในพื้นที่กรุงเทพมหานครฯ ย่านแสมดำ และหลังจากนั้นจะขยายเส้นทางสถานีติดตั้งไปสู่เส้นทางภาคอื่นๆ คาดว่าจะมีรายได้เข้ามาในช่วงกลางปี 2565