PSGC สลัดคราบรับเหมาฯ

กางปีกรุก 'พลังงาน-ทรัพยากร' ปั้นรายได้หมื่นล้าน

หากพูดถึงหุ้นรับเหมาก่อสร้างที่เข้ามาในตลาดหลักทรัพย์ฯ ด้วยวิธี "เข้าซื้อกิจการ" หรือที่เรียกกันว่า Backdoor Listing ชื่อของ บมจ.พีเอสจี คอร์ปอเรชั่น หรือ PSGC (PSG) ย่อมเป็นที่รู้จักกันดี จากจุดเริ่มต้นในฐานะผู้รับเหมาฯ มือดีที่มีฐานทัพหลักอยู่ใน สปป.ลาว แต่วันนี้ PSGC กำลังจะบอกนักลงทุนว่า...พวกเขาไม่ได้อยากเป็นแค่ผู้รับเหมาฯ อีกต่อไป!

ล่าสุด PSGC ได้ประกาศ "วิสัยทัศน์ใหม่" ครั้งใหญ่ ปักหมุดทรานส์ฟอร์มธุรกิจครั้งสำคัญ จากผู้รับจ้างสร้าง สู่การเป็น "เจ้าของ" ใน 2 ธุรกิจเมกะเทรนด์แห่งอนาคต นั่นคือ ธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติ และธุรกิจพลังงาน พร้อมกางแผนระยะยาว 10 ปี ประกาศกร้าวว่าจะก้าวขึ้นเป็น "ผู้นำระดับภูมิภาค" สร้างอาณาจักรรายได้แตะระดับ 20,000 – 30,000 ล้านบาทภายในปี 2578

นี่คือเกมใหญ่ที่ PSGC กำลังจะเล่น และเป็นก้าวที่น่าจับตาอย่างยิ่ง

รากฐานที่แข็งแกร่ง...สู่การต่อยอดที่ยิ่งใหญ่

นายเดวิด แวน ดาว ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ PSGC เล่าให้ฟังว่า ความมั่นใจในการขยายธุรกิจครั้งนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นมาลอยๆ แต่มาจากความสำเร็จในการบริหารโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่และซับซ้อนใน สปป.ลาว ซึ่งเป็นเครื่องพิสูจน์ฝีมือชั้นครูของบริษัทฯ ได้เป็นอย่างดี

ปัจจุบัน PSGC มี 2 โครงการยักษ์ที่กำลังเดินหน้าก่อสร้างใน สปป.ลาว เปรียบเสมือนฐานทัพที่แข็งแกร่ง ได้แก่:

1. โครงการขยายเหมือง XPPL (เฟส 1): มูลค่ากว่า 8,082 ล้านบาท คืบหน้าไปแล้ว 81% (ณ สิ้นไตรมาส 1/68) คาดว่าจะแล้วเสร็จทั้งหมดในปี 2569
2. โครงการสร้างเมืองใหม่ (Resettlement): มูลค่า 5,000 ล้านบาท เพื่อพัฒนาชุมชนและสาธารณูปโภคให้ผู้ได้รับผลกระทบจากโครงการขนาดใหญ่ คืบหน้าแล้ว 21% (ณ สิ้นไตรมาส 1/68) และจะเสร็จสมบูรณ์ในปี 2570

"ความสำเร็จในการดำเนิน 2 โครงการนี้ สะท้อนความสามารถของเรา และเป็นรากฐานที่แข็งแกร่งสำหรับการขยายธุรกิจในหลากหลายด้าน ผลักดันให้เรากำหนดวิสัยทัศน์ใหม่ คือ ก้าวสู่การเป็นบริษัทชั้นนำในการพัฒนาโครงการพลังงานและทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน" นายเดวิดกล่าว

แม้เศรษฐกิจ สปป.ลาว จะเผชิญความท้าทาย แต่ PSGC ยังเชื่อมั่นในศักยภาพระยะยาว โดยอ้างอิงข้อมูลจากธนาคารโลกที่ชี้ว่าเศรษฐกิจลาวปีที่ผ่านมายังโตถึง 4.1% โดยมี "พลังงานและเหมืองแร่" เป็นพระเอกขับเคลื่อน

ตุน Backlog เพิ่ม...เสริมทัพรับเหมาฯ ให้แน่นปึ้ก

ก่อนจะกางปีกไปสู่ธุรกิจใหม่ PSGC ยังไม่ทิ้งลายธุรกิจเดิม แถมยังเตรียมตุนงานเข้าพอร์ตเพิ่มอีก โดยมี 2 โครงการใหญ่ใน สปป.ลาว ที่อยู่ระหว่างสรุปรายละเอียด ได้แก่:

1. โครงการก่อสร้างอาคารโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนเซกอง (XTPPL): โรงไฟฟ้าขนาด 1,800 เมกะวัตต์ ที่มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) กับรัฐวิสาหกิจของกัมพูชาเรียบร้อยแล้ว
2. โครงการระบบลำเลียงถ่านหินสำหรับโรงไฟฟ้า XTPPL: เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของโรงไฟฟ้า

"หากบริษัทฯ สามารถคว้างานดังกล่าวสำเร็จ จะส่งผลให้ Backlog งานก่อสร้างของ PSGC เพิ่มขึ้นมากกว่าสองเท่า" นายเดวิดย้ำ นี่คือการการันตีรายได้ในมือที่จะหล่อเลี้ยงบริษัทฯ ไปอีกหลายปี

เปิดเกมรุก 2 สมรภูมิใหม่ "ทรัพยากร-พลังงาน"

ไฮไลท์สำคัญอยู่ที่การบุกเข้าสู่ธุรกิจใหม่ ซึ่ง PSGC ไม่ได้มาเล่นๆ แต่มาพร้อมแผนที่ชัดเจน

• ธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติ: เริ่มทดลองให้บริการ "บริหารจัดการเหมือง" ใน สปป.ลาว ซึ่งผลตอบรับเบื้องต้นน่าพอใจอย่างยิ่ง หากโมเดลนี้สำเร็จ จะเป็นการเปลี่ยนจาก "ผู้รับจ้างขุด" เป็น "ผู้บริหารเหมือง" ซึ่งมีโอกาสเติบโตมหาศาล สอดรับกับมูลค่าการผลิตแร่ของ สปป.ลาว ในปี 2567 ที่สูงกว่า 3.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
• ธุรกิจพลังงาน: วางยุทธศาสตร์ไว้ 3 แนวรบหลัก
  1. อัปเกรดโรงไฟฟ้าพลังน้ำ: จับมือกับรัฐวิสาหกิจไฟฟ้าลาว (EDL) เพื่อศึกษาการปรับปรุงโรงไฟฟ้าพลังน้ำเดิมให้เป็นแบบสูบกลับ (Pumped Storage) เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต
  2. สร้างโรงไฟฟ้าไฮบริด: เล็งลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าแบบผสมผสาน (Hybrid) ที่รวมพลังงานน้ำแบบสูบกลับเข้ากับโซลาร์ฟาร์ม ซึ่งมีศักยภาพพัฒนากำลังการผลิตได้ถึง 10,000 เมกะวัตต์
  3. หาตลาดส่งออกไฟฟ้า: เจรจากับหน่วยงานพลังงานในภูมิภาค เพื่อศึกษาการส่งออกไฟฟ้าจากลาวไปยังกัมพูชา สิงคโปร์ และจีน

ปรับโครงสร้างทุน "แต่งตัวสวย" รอรับนักลงทุนสถาบัน

เพื่อให้แผนการเติบโตทั้งหมดเป็นไปอย่างราบรื่น นางสาวสมฤดี ห์ลีละเมียร รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มการเงิน กล่าวว่า บริษัทฯ ได้ดำเนินการปรับโครงสร้างทุน ทั้งการรวมหุ้นและลดทุน เพื่อ "ล้างรายการส่วนต่ำกว่ามูลค่าหุ้น" หรือพูดง่ายๆ คือการ "จัดบ้านใหม่" ทำให้งบการเงินสะท้อนมูลค่าที่แท้จริงของบริษัทได้ชัดเจนขึ้น

"เมื่อกระบวนการทั้งหมดเสร็จสิ้น งบการเงินของเราจะสะท้อนมูลค่าและสถานะที่แท้จริงของบริษัทได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยดึงดูดนักลงทุนสถาบันและกองทุนมากขึ้น" นางสาวสมฤดีกล่าว

ปัจจุบันบริษัทฯ มี Backlog ในมือรอรับรู้รายได้กว่า 5,000 ล้านบาท (ยังไม่รวม 2 โครงการใหม่) และไตรมาส 1/2568 ก็ทำกำไรสุทธิไปสวยๆ 98.8 ล้านบาท สะท้อนสถานะการเงินที่แข็งแกร่ง

การเดินทางครั้งใหม่ของ PSGC เพิ่งจะเริ่มต้น จากผู้รับเหมาฯ ในวันนั้น สู่การเป็นผู้เล่นคนสำคัญในสมรภูมิพลังงานและทรัพยากรในวันนี้ นี่คือการเดิมพันครั้งใหญ่ที่ตั้งเป้าหมายไว้ไกลถึงระดับภูมิภาค ซึ่งนักลงทุนต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิดว่า "PSGC" จะผงาดขึ้นเป็นหุ้น Growth Stock แห่งอนาคตได้สำเร็จตามที่วาดฝันไว้หรือไม่