Public Relation

AAI ลุยตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงตอบโจทย์เทรนด์ยุคใหม่ ผ่อนคลายมาตรการภาษี ลุ้นอนาคตสหรัฐฯ วางนโยบายเชิงบวก
8 ส.ค. 2568

AAI มั่นใจอุตสาหกรรมอาหารสัตว์เลี้ยงยังคงโตต่อเนื่องทั้งในและต่างประเทศ จับตาค่าเงินมีส่วนสำคัญต่อผลประกอบการปีนี้ แต่ผ่านจุดที่น่ากังวลมากที่สุดไปแล้วจากปัจจัยภาษี ขอรอดูการรับรู้และปรับตัวของตลาด เชื่ออนาคตน่าจะมีมาตรการเชิงบวกจากสหรัฐอเมริกา

นายเอกราช พรรณสังข์ กรรมการผู้จัดการบริษัท เอเชี่ยน อะไลอันซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ AAI ผู้รับจ้างผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงชั้นนำของไทย และเจ้าของแบรนด์อาหารสัตว์เลี้ยง  monchou, Hajiko, Pro เปิดเผยว่า ภาวะอุตสาหกรรมอาหารสัตว์เลี้ยง สุนัข แมว ทั้งในรูปแบบ อาหารเปียก และอาหารเม็ด เติบโตได้ดีจากตลาดขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นผลมาจากพฤติกรรมของคนในปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงไป เลี้ยงสัตว์เหมือนเป็นสมาชิกในครอบครัว ประกอบกับการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุทำให้มีการเลี้ยงสัตว์เพื่อเป็นเพื่อนมากขึ้น โดยเฉพาะสัตว์เลี้ยงขนาดเล็ก เนื่องจากปัจจุบัน ที่อยู่อาศัยในเมือง เช่น คอนโดมิเนียมและอพาร์ทเมนท์ มีพื้นที่จำกัด  AAI มีความโดดเด่นในการรับจ้างผลิต (OEM) ครอบคลุมแบรนด์ชั้นนำทั่วโลก โดยตลาดปัจจุบัน อาทิ สหรฐอเมริกา ยุโรป พร้อมเปิดตลาดใหม่ อาทิ ฮ่องกง ไต้หวัน สหรัฐอาหรับเอมิเรตต์ ซาอุดิอาระเบีย ในขณะเดียวกันมีการปรับกลยุทธ์ทางการตลาดภายในประเทศสำหรับแบรนด์ของบริษัท ให้มีเอกลักษณ์ที่ชัดเจนโดย monchou เป็นอาหารแมว Hajiko อาหารสุนัข และ Pro เป็นอาหารราคาย่อมเยาว์สำหรับสุนัขและแมว ควบคู่กับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตรงความต้องการเจ้าของสัตว์เลี้ยง และผลักดันขยายการส่งออกผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ของบริษัทให้เพิ่มมากขึ้น นอกเหนือตลาดที่ได้ส่งออกไปแล้วอีกด้วย

อย่างไรก็ตามสถานการณ์อุตสาหกรรมอาหารสัตว์เลี้ยงในปัจจุบันแม้ว่าทิศทางการเติบโตในเชิงบวก ประกอบกับการที่ไทย ได้ข้อสรุปอัตราภาษีตอบโต้ของประธานาธิบดี ทรัมป์ ที่ 19% ถือว่าเป็นอัตราที่ยังแข่งขันได้ แต่ยังต้องติดตามการตอบรับของผู้บริโภค ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้รับภาระโดยตรง จากลูกค้าที่เป็นผู้นำเข้าและแบรนด์ที่จำหน่ายสินค้าในห้างสรรพสินค้ามีการปรับขึ้นราคาขายจากภาระภาษีที่เพิ่มขึ้น ดังนั้นผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งห่วงโซ่อุปทานยังต้องร่วมมือกันเพื่อลดผลกระทบและไม่ผลักภาระไปให้ลูกค้าหรือผู้บริโภคปลายทางทั้งหมด สำหรับ AAI เองได้มีการเตรียมแผนในการหาทางปรับสูตรผลิตภัณฑ์เพื่อลดผลกระทบจากภาษี โดยต้องไม่กระทบต่อคุณภาพและปริมาณสินค้า ส่วนประเด็นการย้ายฐานไปผลิตที่สหรัฐอเมริกา ยังมองว่า ทางสหรัฐอเมริกายังมีข้อจำกัดในเรื่องแรงงานที่ยังต้องใช้ความชำนาญและทักษะ โดยเฉพาะอาหารสัตว์เลี้ยงแบบเปียก จึงทำให้การย้ายฐานการผลิตไม่สามารถทำได้ในระยะสั้น


ด้านแนวโน้มผลประกอบการ AAI ยังคงมีการเติบโตในรูปของปริมาณและมูลค่าในรูปสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ แต่ต้องติดตามสถานการณ์ค่าเงินบาท และต้องติดตามแผนของลูกค้าที่ปกติจะมีการเปิดตัวสินค้าใหม่ หรือรสชาติใหม่ๆ เพื่อรองรับช่วงปลายปี 
 

Copyrights © 2021 All Rights Reserved by Clubhoon.com