Public Relation

มูลนิธิซีพี ร้อยเรียงความดี ตอบแทนคุณแผ่นดิน มอบโอกาสให้ทุนการศึกษา สร้าง “นักบริบาล” มืออาชีพ ส่งต่อสู่สังคม
2 ก.ค. 2568

มูลนิธิซีพี ร้อยเรียงความดี ตอบแทนคุณแผ่นดิน มอบโอกาสให้ทุนการศึกษา สร้าง “นักบริบาล” มืออาชีพ ส่งต่อสู่สังคม

 

มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท (ซีพี) เดินหน้าขับเคลื่อน “โครงการซีพีพัฒนาอาชีพด้านการบริบาล” โดยสนับสนุนทุนการศึกษาเยาวชนและผู้ที่สนใจเรียนด้านการบริบาล ผ่านความร่วมมือกับสถานศึกษาและสถานประกอบการหลายหน่วยงาน อาทิ สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ (PIM) โรงเรียนอนันตรักษ์การบริบาล โรงเรียนจุฬารัตน์ อินเตอร์ เฮลท์ โรงเรียนดิษฐ์ราการบริบาล และ ศูนย์อนามัยที่ 7 ขอนแก่น เพื่อส่งเสริมอาชีพให้กับเยาวชนและกลุ่มผู้สนใจที่อยู่ในกลุ่มเปราะบาง ขาดโอกาส ให้ได้รับการศึกษาในสายอาชีพทางเลือก “นักบริบาล”  และเป็นที่ต้องการของสังคม 

 

นายกฤตยรัฐ ปารมี ผู้ช่วยเลขาธิการมูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท  เปิดเผยว่า มูลนิธิฯ ริเริ่มโครงการซีพีพัฒนาอาชีพด้านการบริบาลอย่างเป็นรูปธรรม ตั้งแต่ปี 2562 - ปัจจุบัน โดยมุ่งสร้างค่านิยม “ความกตัญญู ยกย่องผู้สูงอายุ และส่งเสริมสุขภาพที่ดี” ผ่านการบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ สถาบันการศึกษา และสถานประกอบการ มอบทุนการศึกษาในการฝึกวิชาชีพ ให้ความรู้ด้านการดูแลผู้สูงอายุ ในหลักสูตร 70 ชั่วโมง 420 ชั่วโมง และหลักสูตรการดูแลเด็กเล็กและผู้สูงอายุ 840 ชั่วโมง เพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชน และประชาชนที่ขาดโอกาสทางการศึกษาและขาดทุนทรัพย์ มีความสนใจและมีใจรักในงานบริบาล เข้ารับการฝึกวิชาชีพ ให้มีความรู้และทักษะในด้านการบริบาลอย่างเหมาะสม รวมถึงการสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับสถานพยาบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ผู้สำเร็จการอบรมมีโอกาสในการทำงานที่มั่นคงและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

 

“เราตระหนักดีว่าการศึกษามีความสำคัญมาก จึงผนึกกำลังความร่วมมือกับสถาบันการศึกษาด้านการบริบาล ที่ถือว่าเป็นหนึ่งอาชีพสำคัญกับสังคมไทย สามารถต่อยอดโอกาสในชีวิตได้  โดยการมอบทุนการศึกษา ทุนสร้างอาชีพ ให้กับกลุ่มเยาวชน กลุ่มเปราะบาง ขาดโอกาส ให้สามารถดูแลตนเองและครอบครัวได้ มีความมั่นคงและเข้มแข็ง เราให้ความใส่ใจและขับเคลื่อนงานอย่างจริงจัง ส่งมอบทุนการศึกษาสร้างอาชีพไปแล้ว จำนวน 408 คน  เรามุ่งเน้นการสร้างโอกาสทางการศึกษาและอาชีพให้กับเด็กและเยาวชน คนในชุมชน อีกทั้งยังสามารถสร้างนักบริบาลให้กับผู้สูงอายุที่ต้องการความช่วยเหลือ ซึ่งเป็นการสร้างคุณค่าทั้งต่อตัวผู้เรียน ชุมชน และสังคมโดยรวม"

 

ดร.พรระวี สีเหลืองสวัสดิ์ ผู้บริหารโรงเรียนอนันตรักษ์การบริบาล เปิดเผยว่า สถานการณ์ผู้สูงอายุในประเทศไทย ได้เข้าสู่ “สังคมผู้สูงวัย” โดยสมบูรณ์ มีจำนวนเพิ่มขึ้นอยู่ที่ประมาณ 20% ซึ่งผู้สูงอายุถือเป็นวัยพึ่งพิงมีความเปลี่ยนแปลงทั้งกายและใจที่ต้องมีคนดูแล “นักบริบาล” จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง เป็นเรื่องที่ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันอย่างจริงจัง ซึ่งต้องใช้อัตราผู้สูงอายุต่อนักบริบาล 1:2 คน เป็นอย่างน้อย โดยเฉพาะผู้สูงอายุติดเตียงจะต้องใช้นักบริบาลมากถึง 1:3 คน ถึงจะทำให้ผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดีได้ ซึ่งหลักสูตรที่เหมาะสมในการดูแลผู้สูงอายุคือ 420 ชั่วโมงขึ้นไป จะมีความรู้ความสามารถในการดูแลผู้สูงอายุได้อย่างครอบคลุมและมีคุณภาพ ปัจจุบันจากความร่วมมือระหว่างโรงเรียนอนันตรักษ์การบริบาล ที่เป็นนักผลิตนักบริบาล และมูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท เป็นผู้สนับสนุนทุนการศึกษา ทำให้สามารถผลิตนักบริบาลได้เพิ่มขึ้น

 

“ความร่วมมือระหว่างโรงเรียนอนันตรักษ์การบริบาลและมูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท (ซีพี) ในครั้งนี้ สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ชุมชนขาด เมื่อได้รับการสนับสนุนทุนการศึกษาจากมูลนิธิฯ ทำให้สามารถขับเคลื่อนสร้าง “นักบริบาล” ประจำชุมชนเพิ่มขึ้นได้ นอกจากนี้ โรงเรียนอนันตรักษ์การบริบาล เป็นธุรกิจเพื่อสังคม (Social Enterprise) มองเห็นปัญหาที่แท้จริงในชุมชนชนบท หลายพื้นที่กลุ่มผู้สูงอายุยังได้รับการดูแลอย่างไม่ถูกต้อง หากมีนักบริบาลที่มีความรู้ ถือว่าเป็นบุคลากรที่สำคัญและเป็นที่พึ่งของผู้สูงอายุในชุมชน โดยโรงเรียนจะนำคนที่มีความรู้ลงไปสอนคนในชุมชน พร้อมดูแลเป็นพี่เลี้ยงอย่างใกล้ชิด ผลที่ได้คือ ชุมชนมีบุคลากรที่มีทักษะในการดูแลผู้สูงอายุที่ถูกต้องเหมาะสม ผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น อีกทั้งยังสามารถดูแลช่วยเหลือด้านสุขภาพให้คนในชุมชนได้อีกทางเป็นการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้ชุมชนได้อีกด้วย”

 

ทางด้าน นางสาวจันทรา คลังเอี่ยม หนึ่งในนักเรียนทุนโครงการซีพีพัฒนาอาชีพด้านการบริบาล จากโรงเรียนดิษฐ์ราการบริบาล เปิดเผยว่า เป็นหนึ่งในนักเรียนทุนเรียนฯ ของมูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท  เหตุผลที่เลือกเรียนด้านนี้ เพราะเป็นคนชอบดูแลผู้อื่นอยู่แล้ว ก็เลยคิดว่าการได้รับโอกาสนี้ ถือเป็นเรื่องดี และก็จะทำให้ดีที่สุด เหตุผลอีกอย่างคือ เป็นสายอาชีพในฝันตั้งแต่เด็กอยู่แล้ว อยากเป็นพยาบาลตำรวจ และด้วยสถานะทางการเงินทางบ้านไม่อำนวย แต่วันนี้เราสามารถมาอยู่ในจุดนี้ได้ ถือว่าดีที่สุดแล้ว ขอบคุณมูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบทที่เปิดโอกาสให้ได้ทุนนี้ ได้สานฝันตัวเอง มีอาชีพเลี้ยงดูตัวเองได้ ไม่เคยพึ่งครอบครัวเลย และถือว่าได้ทำอาชีพตามที่ฝันไว้ครึ่งหนึ่ง ดีใจที่มาถึงจุดนี้ โอกาสที่ได้รับในครั้งนี้ จะนำไปพัฒนาตัวเองขึ้นเรื่อย ๆ ในทุกวัน

 

ทั้งนี้ มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท มุ่งมั่นที่จะขยายผลโครงการซีพีพัฒนาอาชีพด้านการบริบาล มอบทุนพัฒนาอาชีพอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างบุคลากรที่มีคุณภาพและตอบสนองต่อความต้องการของสังคม พร้อมทั้งสร้างโอกาสในการมีงานทำที่มั่นคงให้กับประชาชนในพื้นที่ชนบท อันเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตและสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนและสังคมอย่างยั่งยืน

 

Copyrights © 2021 All Rights Reserved by Clubhoon.com