กองทรัสต์ IMPACT GROWTH REIT ประกาศผลงานไตรมาส 1 มีรายได้รวม 619.5 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 359.9 ล้านบาท พร้อมอนุมัติจ่ายปันผล 0.22 บาท/หน่วย คาดครึ่งปีหลังจะคึกคักต่อเนื่องจากคิวคอนเสิร์ตและอีเวนต์ขนาดใหญ่

นายพอลล์ กาญจนพาสน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด ผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์ของทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ IMPACT Growth REIT เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานของกองทรัสต์ในปีงบประมาณ 2568/2569 (1 เมษายน 2568 - 31 มีนาคม 2569) ยังมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้ารายได้และการจ่ายเงินปันผลเติบโต 5-10% สะท้อนความเชื่อมั่นในศักยภาพของธุรกิจและการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมไมซ์ (MICE) ซึ่งยังคงเป็นหนึ่งในเครื่องยนต์เศรษฐกิจสำคัญของประเทศ

 โดยในไตรมาส 1 ปีนี้ กองทรัสต์ยังเดินหน้าจัดงานทั้งในประเทศและต่างประเทศต่อเนื่อง พร้อมรักษาค่าเช่าเฉลี่ยต่อพื้นที่ (ARR) ให้เติบโตจากปีก่อน สะท้อนความต้องการใช้พื้นที่จัดงานที่แข็งแกร่งและศักยภาพในการสร้างรายได้ต่อพื้นที่ที่เพิ่มขึ้น พร้อมรับแรงหนุนสำคัญจากการเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายสีชมพูส่วนต่อขยาย 2 สถานี ได้แก่ สถานีอิมแพ็ค เมืองทองธานี (MT01) และ สถานีทะเลสาบเมืองทองธานี (MT02) รวมถึงทางเชื่อม Sky Entrance จากสถานี MT01 ทางออก 3 เชื่อมตรงสู่อาคารชาเลนเจอร์ ซึ่งเปิดให้บริการตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ช่วยเพิ่มความสะดวก ปลอดภัย และดึงดูดผู้เข้าร่วมงานได้มากขึ้น

 กองทรัสต์ฯ ประเมินว่า การจัดงานในช่วงที่เหลือของปีแม้ยังมีความท้าทายจากภาพรวมเศรษฐกิจ 

แต่มองว่าตลาดอีเวนต์และคอนเสิร์ตที่มีคิวต่อเนื่องจนถึงสิ้นปีผนวกกับการบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ และการมองหาโอกาสลงทุนใหม่อย่างรอบคอบ จะเป็นแรงขับเคลื่อนการเติบโตอย่างยั่งยืน ตอกย้ำบทบาท IMPACT GROWTH REIT ในฐานะศูนย์กลางไมซ์และเอนเตอร์เทนเมนต์อันดับหนึ่งของไทยและภูมิภาค สอดรับกับนโยบายของสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ TCEB ที่ประกาศให้ปี 2568 เป็น “ปีแห่งไมซ์” (Year of MICE)

 ด้าน นางสาววันเพ็ญ มุ่งเพียรสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาร์ เอ็ม ไอ จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ IMPACT Growth REIT เปิดเผยว่า สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาส 1 ปีงบประมาณ 2568/2569 (สิ้นสุด 30 มิถุนายน 2568) กองทรัสต์มีรายได้รวม 619.5 ล้านบาท ลดลง 4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ค่าใช้จ่ายรวมอยู่ที่ 262.6 ล้านบาท ลดลง 6.3 ล้านบาท หรือ 2% โดยหลักมาจากดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลง 

 ส่งผลให้มีกำไรสุทธิ 359.9 ล้านบาท ลดลง 19.1 ล้านบาท หรือ 5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีอัตราการใช้พื้นที่ (Occupancy Rate) เฉลี่ยอยู่ที่ 43.6% และมีค่าเช่าเฉลี่ยต่อพื้นที่ (ARR) 88.6 บาท/ตารางเมตร เติบโตจากงวดเดียวกันของปีก่อน สะท้อนคุณภาพของงาน การรักษาฐานรายได้ต่อพื้นที่ได้แข็งแกร่ง

 ทั้งนี้ กองทรัสต์ประกาศจ่ายเงินปันผลสำหรับงวดดังกล่าวที่อัตรา 0.22 บาทต่อหน่วย กำหนดจ่ายในวันที่ 12 กันยายน 2568 นี้ พร้อมประเมินแนวโน้มในไตรมาสถัดไป กองทรัสต์คาดว่าอัตราการใช้พื้นที่ (OR) และรายได้จะทยอยฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยมีแรงหนุนจากการกลับมาของงานไมซ์ระดับนานาชาติ คอนเสิร์ตขนาดใหญ่ แม้สภาพตลาดในระยะสั้นยังมีความท้าทาย แต่กองทรัสต์ยังคงมีมุมมองบวกต่อปัจจัยสนับสนุนระยะยาวจากการเปิดใช้โครงสร้างพื้นฐานใหม่ ซึ่งจะช่วยยกระดับประสบการณ์ผู้เข้าร่วมงานและเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของสถานที่จัดงานได้อย่างต่อเนื่อง