Economies

’พิชัย‘ ปลุก บจ. เล็ก-กลาง เข้า โครงการ Jump+   ตลท. ลุ้นโบนัสพิเศษ ’ภาษี‘ เข้าครม. สัปดาห์หน้า หวังจูงใจบจ. เล็งเปิดลงทะเบียน  26 มิ.ย. นี้
20 มิ.ย. 2568

รมว.คลัง ’พิชัย‘ ปลุก บจ. เล็ก-กลาง เข้าโครงการ   Jump+  เสิร์ฟทั้งที่ปรึกษาช่วยเพิ่มมูลค่าธุรกิจ เติบโตแกร่ง และแหล่งเงินทุน พ่วงสิทธิประโยชน์ต่างๆ  พร้อมปลุกเชื่อมั่นตลาดหุ้นไทย   ‘อัสสเดช’ ลุ้นโบนัสพิเศษ ’ภาษี‘ ผ่านครม สัปดาห์หน้า หวังจูงใจบจ. เข้าJUMP+ มากขึ้น เผยปีแรก ตั้งเป้า บจ. เข้าร่วม 50-100 ราย  CMDF พร้อมสนับสนุนเงินทุน

 

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลังการเข้าร่วมประชุมกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับโครงการส่งเสริมการเพิ่มมูลค่าของบริษัทจดทะเบียน (โครงการ Jump+) แก่บริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในวันนี้ (20 มิ.ย.) ว่า  หลักการของการทำโครงการ Jump+  คือ ช่วยกันพัฒนาบริษัทกลางและบริษัทเล็ก  ให้มีมูลค่าเพิ่มในระยะยาว  เนื่องจากบริษัทเหล่านี้ ยังไม่มีบุคลากร ไม่มีกำลังทรัพย์ที่จะจ้างที่ปรึกษาการเงิน ดังนั้นโครงการนี้จะเข้ามาข่วยสนับสนุนบริษัทที่อยากจะพัฒนาศักยภาพการเติบโต  ซึ่งการประชุมนี้เป็นการชี้แจงว่า ถ้าเข้าโครงการนี้ บจ. จะต้องทำอะไรบ้างเป็นการวางแผนภายใน 1 ปี เช่น ผลประกอบการ การเติบโตของกำไร เป็นต้น  เป็นการหาแนวทางแก้ปัญหาร่วมกันกับที่ปรึกษาทางการเงิน  เป็นการทำเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของธุรกิจและเมื่อมีการทำแผนแล้ว จะต้องมาเปิดแผนและ สิ่งที่คาดหวังจะได้ ให้แก่นักลงทุนทราบด้วย

 

“การที่ดัชนีขึ้น ฃหรือลงก็ขึ้นอยู่กับความมั่นใจต่อเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทย ถ้าความเชื่อมั่นลดลงก็ส่งผลกระทบกับตลาดด้วย แต่ผมเชื่อว่าตลาดทุนจะอยู่คู่กันไปเป็นทางเลือกของนักลงทุน  เมื่อตลาดลงมาแล้วก็ดูอยู่จุดไหน ตอนนี้(ดัขนี)อยู่ต่ำมากๆเมื่อเทียบกับประเทศต่างๆ ที่ปรับลดลงเพราะเศรษฐกิจโลกไม่ดี ถ้าเข้าใจว่าบริษัทไหนที่บรืหารได้ดี  ในระยะปานกลางถึงยาวสามารถฟื้นตัวและอยู่ได้ ส่วนความเชื่อมั่นมีหลายอย่าง ทั้งกฎเกณฑ์ของตลาดที่ออกมาเยอะแล้ว เพื่อปิดช่องว่างของนักลงทุนไทยรายใหญ่และรายเล็กและนักลงทุนต่างประเทศในแง่ของการเปิดเผยข้อมูลการขายหุ้น เช่น Naked Short Selling การลงโทษเอาผิดเมื่อพบว่าลงทุนไม่ถูกต้อง  แม้ตอนนี้ดัชนีฯจะอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับอดีต แต่ตลาดทุนยังคงเป็นกลไกสำคัญของเศรษฐกิจ หากนักลงทุนมองระยะยาวและเข้าใจโครงสร้างเศรษฐกิจ ก็ยังมีโอกาสเติบโต  นักลงทุนอาจจะต้องคิดใหม่ไม่ใช่ซื้อเช้าขายบ่าย แต่ซื้อเก็บยาว“ 

 

สำหรับรัฐบาลจะมีการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาหรือไม่ นายพิชัย กล่าวว่า  ตอนนี้รัฐบาลจะไม่ได้กระตุ้นที่การบริโภคโดยตรง แต่จะเน้นการแก้ปัญกาเชิงโครงสร้างทางเศรษฐกิจ เนื่องจากประเทศไทยมีปัญหาเชิงโครงสร้างเกือบ 10 เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน  พื้นที่ EEC มีปัญหาด้านน้ำ พลังงาน ท่องเที่ยว การแก้ไขกฎหมายต่างๆ การถือครองที่ดินต่างชาติซื้อได้หรือไม่ นี่คือเรื่องของการแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างที่จะนำไปสู่เศรษฐกิจเติบโตในระยะยาว

 

ส่วนการพิจารณางบประมาณปี 2569  มั่นใจว่า จะผ่านพ้นไปได้ดี เพราะเป็นเรื่องที่สำคัญของประเทศ และรัฐบาลจะต้องหาวิธีในการจัดการเรื่องนี้ได้ 

 

นายอัสสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า การประชุมวันนี้มีบริษัทจดทะเบียน 40 รายที่เข้าร่วมรับฟังการทำโครงการ  Jump+ ถือเป็น Preview  เท่านั้น หลังจากนี้ ในวันที่ 26 มิถุนายนนี้ จะมีการประชุมเชิญบริษัทต่างๆที่สนใจเข้าร่วมฟังรายละเอียดการดำเนินการของโครงการ ซึ่งเป็นการยกระดับศักยภาพบริษัทจดทะเบียนขนาดเล็ก  พร้อมทั้งจะเป็นวันแรกในการเปิดรับลงทะเบียนสำหรับบริษัทจดทะเบียนที่สนใจ  โดยโครงการ Jump+ จะช่วยสนับสนุนธุรกิจบจ.ที่มีศักยภาพให้สามารถเติบโตได้อย่างไม่มีข้อจำกัดใดๆ สำหรับเป้าหมายในปีแรก คาดจะมีบริษัทเข้าร่วม 50 - 100 ราย

 

สำหรับสิทธิประโยชน์ด้านภาษีที่จะดึงดูด บจ. ให้เข้าร่วมโครงการJump+  นายอัสสเดช กล่าวว่า  ตลาดหลักทรัพย์ได้มีการหารือกับกระทรวงกรมสรรพากรแล้ว และขณะนี้กรมสรรพากรกำลังพิจารณาถึงความเหมาะสม  โดยคาดว่า  กระทรวงการคลังจะมีการเสนอเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ดังกล่าวให้แก่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ในสัปดาห์หน้า ก่อนจะถึงวันประชุมฯวันที่  26 มิ.ย. นี้

 

นายอัสสะเดช กล่าวเพิ่มเติมว่า หากโครงการ  Jump+ ได้รับการอนุมัติสิทธิประโยชน์ทางภาษี  ก็ถือเป็นโบนัสพิเศษแก่บจ. ที่เข้าร่วมโครงการนี้  และจะเป็นแรงจูงใจให้เข้ามาร่วมจำนวนมากชึ้น แต่หากไม่มีสิทธิประโยชน์ทางภาษีฯ นี้ ก็เชื่อว่าจะไม่กระทบต่อการตัดสินใจของบจ.  เพราะโครงการนี้ ยังมีสิทธิประโยชน์อื่นในการสนับสนุน ทั้งที่ปรึกษาทางการเงิน  แหล่งเงินทุนในการขยายธุรกิจ เป็นต้น 

 

นายจักรชัย บุญยวัตร ผู้จัดการกองทุนส่งเสริมการพัฒนาตลาดทุน (CMDF) กล่าวว่า CMDF จะเข้ามาสนับสนุนด้านแหล่งเงินทุนให้แก่โครงการ  Jump+ ของตลาดหลักทรัพย์ เพื่อจะนำไปดำเนินการพัฒนาบริษัทจดทะเบียนดังกล่าว ปัจจุบัน CMDF  มีเงินกองทุนประมาณ  5,500 ล้านบาท

 

Copyrights © 2021 All Rights Reserved by Clubhoon.com