Economies

ThaiBMA เผยครึ่งปีแรกเอกชนออกหุ้นกู้ลดลง 19%  มูลค่าคงค้างตราสารหนี้โตต่ำแค่ 1% ต่างชาติซื้อสุทธิ 3.2 หมื่น ลบ. คาดแนวโน้มบอนด์ยีลด์ลงต่อเนื่อง
4 ก.ค. 2568

ตลาดตราสารหนี้ไทยในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 ขยายตัวได้เล็กน้อย ขณะที่เอกชนออกหุ้นกู้ลดลง 19% ต่างชาติซื้อสุทธิ 3.2 หมื่น ลบ. บอนด์ยีบด์ปรับลดลง 62-70 bps.ตามทิศทางดอกเบี้ยที่ลดลง 2 ครั้ง รวม 50 bps. เผยแนวโน้ม ดบ. ลงอีกครั้งไตรมาส 4 นี้ หนุนบอนด์ยีลด์ลดลงต่อเนื่อง

 

ดร.สมจินต์ ศรไพศาล กรรมการผู้จัดการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย  (ThaiBMA) และ อริยา ติรณะประกิจ รองกรรมการผู้จัดการ  ThaiBMA ร่วมแถลงภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยสิ้นไตรมาสสองที่ผ่านมาและแนวโน้มในครึ่งปีหลัง ว่า  จากสถานการณ์การเจรจาภาษีการค้าสหรัฐของไทยที่ยังไม่มีความชัดเจน ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังไม่ยุติ ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจของไทยขยายตัวชะลอลง  ตลาดตราสารหนี้ไทยในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 ขยายตัวได้เล็กน้อย  ผลจากการเพิ่มขึ้นของตราสารหนี้ที่ออกโดยรัฐบาลเป็นสำคัญ ในขณะที่ภาคเอกชนมีการออกหุ้นกู้ลดลง 19.3% จากช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา 

 

“โดยภาพรวมมูลค่าตลาดตราสารหนี้ไทยขยายตัว  ณ สิ้นไตรมาส 2 ปี 2568 ภาพรวมมูลค่าคงค้างตลาดตราสารหนี้ไทยเท่ากับ 17.3 ล้านล้านบาท (คิดเป็น 93% ของ GDP) เพิ่มขึ้น 1.1%จากสิ้นปี 2567 จากการเพิ่มขึ้นของตราสารหนี้ที่ออกโดยรัฐบาลเป็นสำคัญ ในขณะที่มูลค่าคงค้างตราสารหนี้ภาคเอกชนลดลงเล็กน้อยจากสิ้นปีที่ผ่านมา ขณะที่ในครึ่งปีแรก มูลค่าการออกตราสารหนี้ภาคเอกชนระยะยาว (หุ้นกู้ระยะยาว) เท่ากับ 398,820 ล้านบาท ลดลง 19.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นการลดลงของทั้งกลุ่ม Investment Grade และกลุ่ม High Yield”

 

สำหรับเม็ดเงินจากนักลงทุนต่างชาติในช่วงครึ่งแรกของปี 2568:ซื้อสุทธิตราสารหนี้ไทย 32,331 ล้านบาท  โดยความเคลื่อนไหวต้นปีเป็นการขายสุทธิตราสารหนี้ไทย 11,989 ล้านบาทในเดือนมกราคม จากนั้นเป็นการเข้าซื้อสุทธิอย่างต่อเนื่องในเดือน ก.พ. –เม.ย. รวม 79,240 ล้านบาท ก่อนจะพลิกกลับเป็นการขายสุทธิตราสารหนี้ไทยในเดือน พ.ค. - มิ.ย. รวม 34,921 ล้านบาท ทำให้ ณ สิ้นไตรมาส 2 ปี 2568 นักลงทุนต่างชาติมีการถือครองตราสารหนี้ไทยเท่ากับ 9 แสนล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 5.2% ของมูลค่าคงค้างตลาดตราสารหนี้ไทย

 

ความเคลื่อนไหวของเส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยปรับตัวต่ำลง โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทย (Bond Yield) ปรับตัวต่ำลงทั้งเส้นในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 ตามการปรับลดของอัตราดอกเบี้ยนโยบายไทย 2 ครั้งในเดือนกุมภาพันธ์และเมษายน ส่งผลให้ Bond yield ไทยรุ่นอายุ 2 ปี 5 ปี และ10 ปี ปรับตัวลดลง 62-70 bps. จากสิ้นปี 2567มาอยู่ที่ระดับ 1.40%, 1.40% และ 1.60% ตามลำดับ ณ สิ้นไตรมาส 2 ปี 2568

 

ส่วนเส้นอัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ภาคเอกชนปรับตัวต่ำลงในทิศทางเดียวกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล  ในช่วงครึ่งแรกปี 2568 อัตราผลตอบแทนของหุ้นกู้รุ่นอายุ 5 ปีของหุ้นกู้กลุ่ม AAA  AA  A และ BBB+ ปรับตัวลดลง 52-93 bps. มาอยู่ที่ระดับ 1.88%2.29%  2.75% และ 3.91% ตามลำดับ ณ สิ้นไตรมาส 2 ปี 2568

 

ดร. สมจินต์ เปิดเผยด้วยว่า ผลสำรวจจากผู้ร่วมตลาดส่วนใหญ่คาดว่า กนง. จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี ราว 1 ครั้ง รวม 0.25% ลงมาอยู่ที่ 1.50% จากปัจจุบันที่ 1.75% สำหรับการคาดการณ์ Bond yield ไทย ผู้ตอบแบบสอบถามคาดว่า Bond yield ไทยรุ่นอายุ 5 ปี และ 10 ปี ในช่วงที่เหลือของปี2568 จะขยับตัวลดลงเฉลี่ยราว 5-10 bps. จากสิ้นไตรมาส 2 ปี 2568  จากปัจจัยเรื่องทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทย การขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทย ภาวะเศรษฐกิจโลกและทิศทางอัตราดอกเบี้ยของประเทศเศรษฐกิจชั้นนำ

Copyrights © 2021 All Rights Reserved by Clubhoon.com