NOBLE ประกาศผลประกอบการประจำไตรมาส 1 มีรายได้รวม 1,796 ล้านบาท มีกำไร 87 ล้านบาท โต 10% YoY พร้อมเสนอขายหุ้นกู้ อายุ 2 ปี 11 เดือนเพื่อต่อยอดการเติบโตทางธุรกิจ ล่าสุดมี Backlog กว่า 25,600 ล้านบาท แผนปีนี้ตั้งเป้าเปิดตัว 4 โครงการแนวราบ พร้อมสัญญาณบวกจากมาตรการภาครัฐฯ และแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาลง
นายธงชัย บุศราพันธ์ รองประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOBLE ผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์โครงการที่อยู่อาศัยในทำเลชั้นนำของกรุงเทพมหานครและปริมณฑล เปิดเผยว่า ภาพรวมการดำเนินธุรกิจไตรมาสแรกของปี 2568 ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยต้องเผชิญความท้าทาย จากภาวะเศรษฐกิจในประเทศ นโยบายการให้สินเชื่อ ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค อย่างไรก็ดี บริษัทฯ สามารถทำรายได้รวม 1,796 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 87 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อนหน้า 10% รวมถึงมีโครงสร้างทางการเงินที่ดีขึ้นจากการมีอัตราส่วนหนี้สินทางการเงินสุทธิต่อส่วนทุนลดลงมาอยู่ที่ 2.03 เท่า จากการมีหนี้สินทางการเงินที่ลดลงภายหลังจากชำระคืนหุ้นกู้บางส่วนในต้นไตรมาส 1 ที่ผ่านมา ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งด้านการเงินและการบริหารสภาพคล่องของบริษัทฯ
“ไตรมาสที่ผ่านมา บริษัทฯ มียอดขายโครงการ (Pre-sale) อยู่ที่ 1,489 ล้านบาท ยอดโอนในไตรมาสแรกอยู่ที่ 1,380 ล้านบาท ซึ่งลดลงจากปีก่อนหน้าเนื่องจากบริษัทฯ ไม่ได้มีโครงการสร้างเสร็จพร้อมโอนในไตรมาสที่ผ่านมา รวมถึงลูกค้าบางส่วนรอมาตรการลดค่าธรรมเนียมที่เริ่มมีผลบังคับใช้ในเดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป”
สำหรับในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2568 บริษัทฯ เชื่อว่ายังคงมีปัจจัยบวกที่ช่วยสนับสนุนตลาดอสังหาฯ ให้ฟื้นตัว ได้แก่ แนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย รวมถึงมาตรการภาครัฐ เช่น การลดค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์และจดจำนองเหลือ 0.01% สำหรับบ้านราคาไม่เกิน 7 ล้านบาท นอกจากนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ผ่อนคลายเกณฑ์ LTV สำหรับการซื้อที่อยู่อาศัยหลังที่ 2 ขึ้นไปที่มีมูลค่าต่ำกว่า 10 ล้านบาท และสำหรับผู้ที่ซื้อที่อยู่อาศัยหลังแรกที่มีมูลค่าตั้งแต่10 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งจากปัจจัยดังกล่าวจะเป็นการช่วยกระตุ้นให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงสินเชื่อได้มากขึ้น และจะทำให้ตลาดอสังหาฯ กลับมาคึกคักได้อีกครั้ง
นอกจากนี้ ในครึ่งปีหลัง บริษัทฯ มีโครงการที่สร้างเสร็จพร้อมโอนอีก 4 โครงการ ได้แก่ นิว อีโว อารีย์, โนเบิล ฟอร์ม ทองหล่อ, โนเบิล ครีเอท และ นิว ริเวอร์เรสต์ ราษฎร์บูรณะ ซึ่งล่าสุดมี Backlog รวมกันกว่า 8,600 ล้านบาท โดยทั้ง 4 อาคารไม่มีปัญหาด้านโครงการจากเหตุแผ่นดินไหวแต่อย่างใด รวมทั้งบริษัทฯ มีแผนจะเปิดตัวโครงการแนวราบเพิ่มอีก 2 โครงการ โดยคาดว่าจะได้รับผลตอบรับที่ดีจากความต้องการที่พักอาศัยแนวราบที่เพิ่มสูงขึ้น
ทั้งนี้ บริษัทฯ เตรียมออกและเสนอขาย หุ้นกู้ระยะยาวชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ โดยเป็นหุ้นกู้อายุ 2 ปี 11 เดือน มีอัตราดอกเบี้ยคงที่ 6% ต่อปี เพื่อเสนอขายผู้ลงทุนทั่วไป และ/หรือ ผู้ลงทุนสถาบัน โดยกำหนดชำระดอกเบี้ยทุก 3 เดือนตลอดอายุหุ้นกู้ เปิดให้ผู้ลงทุนทั่วไป และ/หรือ ผู้ลงทุนสถาบัน เข้าจองซื้อหุ้นกู้ดังกล่าวได้ในช่วงระหว่างวันที่ 19-21 พฤษภาคม พ.ศ. 2568