LINE BK ฉลอง 5 ปี ทำกำไรแล้ว เผยลูกค้าพุ่งกว่า 8.5 แสนราย พอร์ตสินเชื่อโตแตะ 2.5 หมื่นล้าน กางแผนบุกปีที่ 6 มุ่งพัฒนาตอบโจทย์ทำเรื่องเงินเป็นเรื่องใกล้ตัวชีวิตประจำวัน หนุนแนวโน้มผลดำเนินงานโต กว่า 10% แย้มอนาคตอาจนำเข้าตลาดหุ้นไทย
นายธนา โพธิกำจร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กสิกร ไลน์ จำกัด กล่าวว่า ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา LINE BK ได้เข้ามาช่วยให้คนไทยเข้าถึงแหล่งเงินได้สะดวกมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเปิดบัญชีเงินฝาก โอน สแกนจ่ายด้วย QR ขอสินเชื่อ หรือซื้อประกัน ทั้งหมดทำได้ใน LINE แอปเดียว ปัจจุบันมีลูกค้าไว้วางใจใช้งานกว่า 8 ล้านคน และมีลูกค้าสินเชื่อกว่า 855,000 ราย มีพอร์ตสอนเชื่อรวมกว่า 2.5 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% จากสิ้นปี 2567 พอร์ตสอนเชื่อรวม อยู่ที่ 2.3 หมื่นล้านบาทในปี 2567 ขณะที่ผลดำเนินงานของ LINE BK ในปีนี้มีกำไรแล้ว และปีต่อๆไป มีแนวโน้มพอร์ตสินเชื่อโตกว่า 10%จากฐานลูกค้าที่ยังขยายตลาดได้อีกมาก และในอนาคตมีแผนจะนำบริษัทเข้าตลาดหุ้นไทยด้วย
โดยปัจจุบัน ฐานลูกค้าของ LINE BK นั้น จำนวนเกือบครึ่งของลูกค้าอาชีพอิสระที่สมัครสินเชื่อกับ LINE BK มีรายได้ต่ำกว่า 15,000 บาท/เดือน ซึ่งเป็นกลุ่มที่มักเผชิญข้อจำกัดในการเข้าถึงสินเชื่อดั้งเดิม จึงมั่นใจว่าตลาดนี้ยังเติบโตได้อีกมาก ทาง LINE BK เตรียมเปิดตัวโปรแกรม “เพื่อนชวนเพื่อน” แนะนำสินเชื่อผ่านประสบการณ์ผู้ใช้จริง โดยผู้แนะนำจะได้รับเครดิตเงินคืนตามเงื่อนไข มีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมการเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบอย่างมีความรับผิดชอบ ลดการพึ่งพาหนี้นอกระบบ
สำหรับแผนงานการก้าวสู่ปีที่ 6 LINE BK ตั้งเป้าพัฒนาเป็น Everyday Financial Partner อย่างเต็มรูปแบบ เชื่อม ชีวิตการเงินและโซเชียล ให้ใกล้กันยิ่งขึ้น ไม่เพียงจัดการเรื่องเงินส่วนตัว แต่ยังเปิดโอกาสให้เพื่อนและครอบครัว แชร์ แนะนำ และส่งต่อสิ่งดีๆ ได้ง่ายใน LINE แอปเดียว บริษัทมุ่งต่อยอดจุดแข็งของ LINE ecosystem โดยเฉพาะการร่วมมือกับพาร์ทเนอร์สำคัญอย่าง LINE MAN Wongnai เพื่อเปิดโอกาสให้ร้านค้าบนแพลตฟอร์มเข้าถึงเงินทุนได้สะดวกยิ่งขึ้นอีกด้วย ควบคู่ไปกับการใช้ความเข้าใจลูกค้ารายย่อยเชิงลึกของธนาคารกสิกรไทย ขับเคลื่อนด้วยพลังเทคโนโลยี AI และการใช้ข้อมูลอย่างรับผิดชอบ เพื่อสร้างบริการการเงินดิจิทัลที่คล่องตัว ช่วยให้การจัดการการเงินให้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันอย่างแท้จริง และวางรากฐานสู่ยุคใหม่ของการเงินดิจิทัลในประเทศไทย
“ปัจจุบันเรามีฐานข้อมูลลูกค้าเยอะมาก ทำให้เห็นพฤติกรรมอินไซด์ของลูกค้า โดยในแต่ละวัน มีผู้สมัครขอสินเชื่อราว 10,000 คน แต่ผ่านการพิจารณาเพียง 10% เท่านั้น ปัจจุบันกลุ่มลูกค้าสินเชื่อของเราอายุระหว่าง 25~34 ปี อยู่ใน Gen Y สัดส่วน 66% ของลูกค้ารวม รายได้เฉลี่ย 15,000 ~ 30,000 บาท วงเงินเฉลี่ย 43,000 บาท ”
จากอินไซต์พฤติกรรมผู้ใช้งาน พบว่าวันพุธเป็นวันที่มีการทำธุรกรรมสูงสุดของสัปดาห์ ลูกค้ามีการใช้งาน LINE BK ตลอดวัน โดยเฉพาะช่วงบ่าย-เย็น สะท้อนไลฟ์สไตล์คนเมืองกับการทำธุรกรรมการเงินในชีวิตประจำวัน ตั้งแต่ช่วงเที่ยงที่มีการสแกน QR จ่ายร้านค้าสูงสุด บ่ายสมัครและเบิกใช้วงเงินสินเชื่อบ่อยสุด และช่วงเย็นมียอดโอนเงินพุ่งสูงสุด ซึ่งธุรกรรมทางการเงินใน LINE สะดวก ปลอดภัย และพร้อมใช้งานตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ว่าจะเปิดบัญชีเงินฝากออนไลน์ สมัครบัตรเดบิต โอนเงินหรือเรียกเก็บเงินผ่านแชท และสินเชื่อเพื่อทุกกลุ่มรายได้ ผ่านบริการวงเงินให้ยืมและวงเงินให้ยืมนาโน เพื่อเสริมสภาพคล่องแก่ผู้มีรายได้น้อยและผู้ประกอบอาชีพอิสระ จุดเด่นคือไม่ต้องใช้สลิปเงินเดือน และอนุมัติไวสุดภายใน 1 นาที สำหรับลูกค้า KBank ที่มีประวัติเดินบัญชีเงินฝากต่อเนื่องอย่างน้อย 6 เดือน
“เราต้องการให้ LINE BK เป็นมากกว่าบริการการเงิน คือเป็น เพื่อนคู่คิดด้านการเงิน ที่ใกล้ชิดกับชีวิตประจำวันมากขึ้น และคนไทยวางใจได้ทุกวัน ช่วยให้ทุกคนจัดการการเงินได้อย่างมั่นคง เติบโต และแบ่งปันสิ่งดีๆ ให้คนรอบตัวได้ต่อเนื่อง” ธนา กล่าว
ทั้งนี้ ตลอด 5 ปี LINE BK เดินหน้าพัฒนาบริการเพื่อให้เรื่องเงินครบวงจรบน 3 มิติหลัก ดังนี้
1. Seamless in LINE – ทุกเรื่องการเงินในที่เดียว ทำธุรกรรมได้ครบทั้งเปิดบัญชีเงินฝาก โอน สแกนจ่ายด้วย QR ขอสินเชื่อ และซื้อประกัน ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่าน LINE แอปเดียว ไม่ต้องเดินทางไปสาขาหรือสลับหลายแอป
2. Inclusive Finance – เปิดกว้างทุกกลุ่มอาชีพ ให้ทุกคนเข้าถึงบริการการเงินได้ง่าย โดยเฉพาะการเข้าถึงสินเชื่อถูกกฎหมาย ซึ่งไม่จำกัดเฉพาะพนักงานเงินเดือน แต่ครอบคลุมถึงกลุ่มอาชีพอิสระและผู้มีรายได้น้อย ช่วยลดข้อจำกัด และขยายโอกาสทางการเงินให้คนส่วนใหญ่ของประเทศ
3. Comprehensive Solutions – ครบวงจรทุกความต้องการ พัฒนาผลิตภัณฑ์ครอบคลุมธุรกรรมประจำวัน (Banking) การเสริมสภาพคล่องด้วยวงเงินสินเชื่อ (Lending) และการดูแลชีวิตและสุขภาพผ่านแบบประกันที่หลากหลาย (Insurance) เพื่อสร้างความมั่นคงทางการเงินทั้งระยะสั้นและยาว
นายธนากล่าวเพิ่มเติมว่า ตั้งแต่ LINE BK เปิดให้บริการวันแรก ซึ่งอยู่ในช่วงที่ประเทศไทยเผชิญทั้งวิกฤตโควิด-19 ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ การเมือง และค่าครองชีพ LINE BK ยืนหยัดเคียงคู่คนไทย ด้วยนโยบายและความช่วยเหลือที่ต้องการให้ลูกค้าผ่านพ้นวิกฤต และพลิกฟื้นกลับมาได้อย่างมั่นคง อาทิ ให้ส่วนลดค่างวดและการปรับโครงสร้างหนี้ สำหรับผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ต่างๆ เช่น น้ำท่วม แผ่นดินไหว ความไม่สงบทางชายแดนไทย-กัมพูชา รวมไปถึงเข้าร่วมมาตรการของภาครัฐ เช่น มาตรการคุณสู้ เราช่วย รวมถึงการให้ความรู้ทางการเงิน ให้ลูกค้ากู้เท่าที่จำเป็นต้องใช้ จากแหล่งถูกกฎหมาย ไม่ก่อหนี้เกินตัว เพื่อโอกาสฟื้นตัวทางการเงิน พร้อมทั้งปรับเพิ่มวงเงินสำหรับลูกค้าที่มีประวัติชำระดี ช่วยต่อยอดโอกาสเข้าถึงเงินทุนและแบ่งเบาภาระในชีวิตประจำวัน