Economies

YLG เผยทองคำครึ่งปีหลังไปต่อ ชี้ถ้าทำนิวไฮ เป้าถัดไป 3,650ดอลลาร์ ส่วน สภาทองคำโลก มอง Best Case ขึ้นได้อีก 10-15%
18 ก.ค. 2568

วายแอลจีชี้ทองคำแค่ปรับฐานระยะสั้นจากการขายทำกำไรหลังจากร้อนแรงมาตลอดครึ่งปีแรก รวมถึงมีแรงสกัดช่วงบวกจากการ Sell-off พันธบัตรสหรัฐของนักลงทุน ทำให้ Bond Yield สหรัฐฯที่เร่งตัวขึ้น รับข่าวปลดเจอโรม พาวเวลล์  เช่นเดียวกับดอลลาร์สหรัฐที่ถูกเทขาย หนุนทองคำในช่วงตลาดผันผวนฟันธงปีนี้ทองยังมีโอกาสทำจุดสูงสุดใหม่ในครึ่งปีหลัง คงเป้าหมายแรกที่ 3,500 ดอลลาร์ หากทำ New All Time High ได้มองเป้าหมายถัดไปที่ 3,650 ดอลลาร์  ขณะที่มุมมองสภาทองคำโลกคาดการณ์ว่าหากเศรษฐกิจเกิดภาวะ Stagflation และความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ขึ้นอีก ทองคำมีโอกาสพุ่งอีก 10-15%  ส่วนระยะสั้นคาดทองคำเคลื่อนไหวในกรอบ 3,300-3,375 ดอลลาร์ 

 

นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) เปิดเผยว่า   YLG คาดการณ์ราคาทองคำยังมีโอกาสสร้างจุดสูงสุดใหม่อีกในครึ่งปีหลัง แม้ว่าล่าสุดราคาจะปรับตัวลดลงแต่มองว่าเป็นการขายทำกำไรระยะสั้น หลังจากที่ครึ่งปีแรกทองคำปรับตัวขึ้นแรงถึง 26% ซึ่งให้ผลตอบแทนสองหลักในทุกสกุลเงินทั่วโลก โดยปัจจัยที่สนับสนุนให้ราคาทองคำปรับขึ้นไปในช่วงดังกล่าวมาจาก ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่า ท่ามกลางสภาพแวดล้อมทางภูมิรัฐศาสตร์ที่มีความไม่แน่นอนสูง ส่งผลให้ความต้องการลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มสูงขึ้น นอกจากนี้ แม้ว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลที่สูงขึ้น จะเป็นปัจจัยที่เข้ามาสกัดทิศทางขาขึ้นของทองคำระยะสั้น จากกระแสข่าวเจอโรม พาวเวลล์ อาจถูกปลดจากตําแหน่ง ประธานเฟด  อย่างไรก็ดี ปัจจัยดังกล่าวนับเป็นความไม่แน่นอนต่อระบบการเงินสหรัฐฯ จนเกิดการ Sell America ทิ้งดอลลาร์และพันธบัตรสหรัฐฯ จึงยังถือเป็นแรงหนุนต่อทองคำด้วยเช่นกัน

 

ส่วนแนวโน้มทองคำในครึ่งปีหลัง YLG ยังคงให้น้ำหนักในการแกว่งตัวขึ้น และคงเป้าหมายแรกที่ 3,500 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ โดยหากสามารถขึ้นทำระดับสูงสุดครั้งใหม่ได้ มองเป้าหมายถถัดไปที่ 3,650 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ ซึ่งสอดคล้องกับมุมมองของสภาทองคำโลกที่ล่าสุดได้เปิดเผยมุมมองทิศทางทองคำครึ่งปีหลังว่า จากกรณีพื้นฐาน (Consensus expectations) ทองคำยังมีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นได้เล็กน้อยอีก 0-5% หากช่วงที่เหลือของปีนี้ เฟดมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.50% ตามคาดการณ์ ประกอบความผันผวนในตลาดที่ยังคงอยู่  แต่หากเศรษฐกิจไม่ได้เป็นไปตามที่คาดการณ์ ในกรณีที่ดีที่สุด (Bull case) ทองคำจะปรับตัวขึ้นได้อีกถึง 10-15% หากสหรัฐเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจชะงักงันพร้อมเงินเฟ้อที่รุนแรง (Stagflation) ประกอบกับความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้น จนกระตุ้นความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างมีนัยสำคัญอีกครั้ง  พร้อมมองว่า ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นอย่างเป็นวงกว้างและต่อเนื่องในหลายพื้นที่นั้น อาจไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ในสภาพแวดล้อมปัจจุบันด้วยเวลาอันสั้น  ซึ่งจะยิ่งช่วยผลักดันให้ทองคำมากขึ้นในปีนี้

 

สำหรับทิศทางการเคลื่อนไหวของทองคำในช่วงนี้มองว่าระยะสั้นแกว่งตัวอยู่ในทิศทาง Sideway เพื่อรอปัจจัยใหม่ๆ เข้ามาส่งผลต่อราคา โดยมองกรอบแนวรับระยะสั้นที่ 3,320-3,310 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์  ส่วนแนวต้านมองที่ 3,375-3,400 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์  ส่วนทองคำในประเทศมองระยะสั้นเคลื่อนไหวในกรอบ 50,800-52,100บาทต่อบาททองคำ

 

ส่วนนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในทองคำแต่มีเงินลงทุนเริ่มต้นจำกัด YLG ได้เปิดให้บริการ Gold Wallet บนแอปเป๋าตังบริการซื้อขายทองคำแท่ง 99.99% ด้วยสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ โดยไม่จำกัดจำนวนครั้ง ด้วยราคาเรียลไทม์ ซื้อขายทองต่อครั้งด้วยขั้นต่ำ 0.1 ออนซ์ สูงสุดแบบเต็มเพดาน ได้สูงสุดถึง 700 ออนซ์ หรือ 20 กิโลกรัม 

 

ส่วนนักลงทุนรายย่อยที่ต้องการลงทุนระยะยาวนั้นแนะนำสะสมแบบถัวเฉลี่ยต้นทุน DCA (Dollar-Cost-Average) เป็นอีกหนึ่งวิธีที่น่าสนใจ เพราะจะทำให้นักลงทุนสามารถสร้างวินัยการสะสมทอง และเข้าถึงราคาทองได้หลากหลาย 

Copyrights © 2021 All Rights Reserved by Clubhoon.com