.
กลุ่มค้าปลีกวัสดุต่อเติมบ้าน ประกาศงบออกมาแล้ว กำไรรวมกัน 10,602 ล้านบาท DOHOME เด่นสุดในแง่การเติบโต กำไร 150.18% เป็น 1,818.06 ล้านบาท GLOBAL โต 70% แต่โดดเด่นP/E เพราะต่ำที่สุดในกลุ่ม เพียง 29 เท่า ยังมี Upside ประมาณ 21%จากราคาเป้าหมาย ส่วน HMPRO โตแค่ 5%
.
ประกาศผลประกอบการปี 2564 ออกมาครบหมดแล้ว สำหรับกลุ่มค้าปลีกวัสดุต่อเติมบ้าน จดทะเบียนในตลาดหุ้น 3 บริษัท ประกอบด้วย บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) : HMPRO บริษัท สยามโกลบอลเฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) : GLOBAL และ บริษัท ดูโฮม จำกัด (มหาชน) : DOHOME โดยทั้ง 3 บริษัท มีรายได้รวมกัน 123,979.03 ล้านบาท และมีกำไรรวมกัน 10,602.14 ล้านบาท
.
หากเปรียบเทียบในแง่ของความเป็นเจ้าตลาด คงต้องยกให้ HMPRO ด้วยจำนวนสาขามากถึง 87 สาขา ทำให้มียอดขาย และกำไร คิดเป็นสัดส่วนมากถึง 50% ตามด้วย GLOBAL มีสาขา 75 สาขา ยอดขายและกำไร ประมาณ 30% ส่วน DOHOME เป็นน้องเล็ก มีสาขาใหญ่ 10 สาขา และสาขา Dohome ToGo 10 สาขา ยอดขายและกำไร ประมาณ 20%
.
แต่หากเปรียบเทียบในแง่อัตราการเติบโตของผลประกอบการ ดูเหมือน DOHOME จะโดดเด่นที่สุดในกลุ่ม เพราะจากรายได้รวมปี 63 ที่ระดับ 18,924 ล้านบาท มาเป็น 25,937 ล้านบาท หรือเติบโต 37.05% โดยมีรายได้เพิ่มขึ้นทั้งจากการเพิ่มขึ้นของรายได้สาขาเดิมหรือ SSSG ที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด และรายได้จากสาขาใหม่ที่เปิดในปี 2564 ทำให้กำไรเติบโตก้าวกระโดดถึง 150.18% จาก 726.68 ล้านบาท ในปี 63 ขยับมาเป็น 1,818.06 ล้านบาท ในปี 2564
.
DOHOME ไม่ได้โดดเด่นในเรื่องการเติบโตของรายได้ และกำไร แต่ยังโดดเด่นในแง่ของผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้น เพราะประกาศจ่ายปันผลทั้งหุ้นและเงินสด ในอัตรา 5 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นปันผล และปันผลเป็นเงินสดให้อีก 0.20 บาทต่อหุ้น ซึ่งจะขึ้น XD 4 มี.ค.ที่จะถึงนี้
.
ในขณะที่ความเห็นของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ ต่างแนะนำให้ซื้อ โดยให้ราคาเป้าหมายเฉลี่ยจากความเห็นนักวิเคราะห์ 7 แห่ง อยู่ที่ 27 บาท เทียบกับราคาที่ซื้อขายปัจจุบัน ยังมี Upside ประมาณ 15%
.
ซึ่งในมุมมองของ บล.เอเชียพลัส มองว่ากำไรปี 2564 เติบโตใกล้เคียงกับที่คาดการณ์ แม้ว่าบริษัทต้องเชิญกับความท้าทายอัตรากำไรขั้นต้นที่มีแนวโน้มลดลงในครึ่งแรกปี 65 แต่คาดกำไรปี 2565 ยังเติบโตต่อเนื่องราว 10.6%เมื่อเทียบกับปีก่อน หลักๆ มาจาก การเติบโตของยอดขายจากสาขาเดิม หรือ SSSG ที่ยังสูง และการขยายสาขา ราคา ณ ปัจจุบัน ยังมี Upside แนะนำซื้อ โดยเน้นลงทุนแบบสะสม ให้ราคาเป้าหมาย 27 บาท
.
ขณะที่มุมมองของบล.หยวนต้า คาดว่า DOHOME ยังคงสร้างยอดขายได้ต่อเนื่อง ประมาณการกำไรปี 2565 ที่ 1,900 ล้านบาท ให้ราคาเหมาะสมไว้ที่ 31.20 บาท
.
ส่วน GLOBAL โดดเด่นเป็นอันดับ 2 จากรายได้รวมปี 63 ที่ระดับ 27,353.89 ล้านบาท มาเป็น 34,116 ล้านบาท เติบโต 24.72% ส่วนกำไร ขยับจาก 1,955.96 ล้านบาท มาเป็นกำไร 3,343.57 ล้านบาทในปี 64 หรือเติบโต 70.94%
.
ด้วยกำไรที่เติบโต บริษัทประกาศจ่ายปันผลในอัตราหุ้นละ 0.2548 บาท และปันผลด้วยหุ้นในอัตรา 23 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นปันผล จะขึ้น XD 25 ก.พ.นี้
.
ในความเห็นนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ ให้ราคาเป้าหมายเฉลี่ยจากความเห็น 10 แห่ง อยู่ที่ 25.75 บาท เทียบกับราคาที่ซื้อขายปัจจุบัน ยังมี Upside ประมาณ 21%
.
โดยในมุมมองของ บล.พัฒนสิน คาดว่าโมเมนตั้มกำไรปี 2565 ยังเติบโตได้ราว 2% ตามรายได้ ระยะยาว ในอีก 2-3 ปี ยังเหลือช่องว่างในการเปิดสาขาในพื้นที่ใหม่ๆ อีกมากทั้งในไทย และภูมิภาคอาเซียน อย่างกัมพูชา และฟิลิปปินส์ โดยแนะนำให้ลงทุน ด้วยราคาเป้าหมายหลังจ่ายปันผลไว้ที่ 26 บาท
.
ทั้งนี้ หากมองในแง่ของ P/E หุ้น GLOBAL ค่อนข้างจะโดดเด่น เพราะต่ำที่สุดในกลุ่ม เพียง 29 เท่า
.
ส่วนพี่ใหญ่ HMPRO เติบโตน้อยที่สุด ยอดรายได้รวมที่ระดับ 61,765.43 ล้านบาท ในปี 63 ขับเพิ่มขึ้นมาเพียง 3.49% มาอยู่ที่ 63,925.79 ล้านบาท ส่วนกำไรจาก 5,154.70 ล้านบาทในปี 63 มาเป็น 5,440.51 ล้านบาท ในปี 64 หรือเติบโตเพียง 5.54% โดยบริษัทประกาศจ่ายปันผลระหว่างกาล 0.20 บาท XD วันที่ 20 เม.ย. และจ่ายเงินวันที่ 6 พ.ค.
.
ขณะที่ความเห็นนักวิเคราะห์ ให้ราคาเป้าหมายเฉลี่ยไว้ที่ 17 บาท เทียบกับราคาที่ซื้อขายปัจจุบัน ยังมี Upside ประมาณ 11%
.
โดยมุมมองของ บล.เคทีบีเอส แม้กำไรรวมทั้งปี 64 จะเติบโตไม่มาก แต่หากมองเฉพาะไตรมาส 4/64 ทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 1,780 ล้านบาท โต 15%เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน โตถึง 104%เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า และสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ ส่วนปี 2565 ประเมินกำไรสุทธิไว้ที่ 6,250 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 15%เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน
.
ในขณะที่บล.หยวนต้า แนะนำเก็งกำไร ให้ราคาเป้าหมายไว้ที่ 17 บาท คาดปัจจัยหนุน ส่วนหนึ่งมาจากผลประกอบการไตรมาส 4/64 ที่เห็นการฟื้นตัวอย่างชัดเจน และต่อเนื่องไปถึงไตรมาส 1/65 ส่วนหนึ่งมาจากมาตรการภาครัฐ ช็อปดีมีคืน ขณะที่สินค้าตกแต่งบ้านและเครื่องครัวยังได้รับความนิยม ขณะเดียวกันบริษัทมีแผนเปิดสาขาใหม่ปี 65 ราว 1-2 สาขา