บมจ. เอเซีย เอวิเอชั่น ไตรมาส 3 ขาดทุนหนัก 2 พันล้านตามคาด ฉุด 9 เดือน ขาดทุนรวม 5.6 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 55% นักวิเคราะห์ชี้ผลประกอบการอ่อนแอถึงปี’65 จับตาหุ้นขยับอีกครั้ง ลุ้นวันที่ 26 พ.ย. ประชุมผู้ถือหุ้นฯอนุมัติ “แผนปรับโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหม่” ได้เงินเข้า 1.4 หมื่นล้าน เพิ่มสภาพคล่องธุรกิจเดินหน้า-ฟื้นกิจการ คาดปี’66 กลับมาเท่าช่วงก่อนโควิด 2 โบรก “KGI- CGS” แนะ “ถือ” ให้ราคาเป้าหมาย 2.72 , 2.20บ.
บริษัท เอเซีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AAV แจ้งผลประกอบการงวดไตรมาส 3 ขาดทุนสุทธิ 2,098 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% จากช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) ที่ขาดทุน 1,836 ล้านบาท และงวด 9 เดือน ขาดทุนสุทธิ 5,650 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 55% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน 3,649 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์จากการระบาดของ โควิดระลอกใหม่ในช่วงไตรมาส 3 ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้โดยสารเพียง 79,767 คน ลดลงถึง 97% และเมื่อต้นก.ย. ได้มีการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์และ AAV ได้กลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง ส่งผลให้มีอัตราขนส่งผู้โดยสารอยู่ที่ระดับ 60% ทำให้รายได้รวม 457 ล้านบาท ลดลง 81% และ 9 เดือนรายได้ลดลงเหลือ 2,888 ล้านบาท หรือ 76%
ด้านบล. เคจีไอ วิเคราะห์ว่า แนวโน้มผลประกอบการอ่อนแอ จากประเด็นจำนวนผู้โดยสารลดลงอย่างมีนัยสำคัญ YoY และ QoQ และประเด็น load factor ยังอ่อนแอและไม่อยู่ในระดับที่มีกำไรได้เร็ว แต่มีแนวโน้มที่ดีขึ้นได้จากการเปิดประเทศ และยังมีมุมมองเชิงบวกต่อการปรับโครงสร้างผู้ถือหุ้นของ AAV ที่จะช่วยให้บริษัทรอดผลจากภาวะวิกฤตได้ ซึ่งต้องติดตามการประชุมผู้ถือหุ้นวิสามัญต่อวาระแผนปรับโครงสร้างผู้ถือหุ้นในวันที่ 26 พ.ย. นี้ ว่าจะได้รับเสียงมติเอกฉันท์ให้ปรับโครงสร้างผู้ถือหุ้นและธุรกิจหรือไม่ หากไม่ผ่านวาระดังกล่าว จะทำให้ AAV ไม่สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ ขณะที่แผนดังกล่าวเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้ AAV รอดพ้นวิกฤตและกลับมาเติบโตได้ในอนาคต
ดังนั้น จึงยังคงประมาณการผลประกอบการปี 2564 รายได้ 4,932 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 6,967 ล้านบาท และปี 2565 รายได้ 11,198 ล้านบาท ขาดทุน 2,176 ล้านบาท และคงคำแนะนำ “ถือ” โดยประเมินราคาเป้าหมายปี 2565 ที่ 2.72 บาท (อิงจาก P/BV เฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ AAV มีปัญหาสภาพคล่องทางการเงิน จากผลกระทบการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลอย่างรุนแรงต่ออุตสาหกรรมการบินรวมถึงสายการบินต้นทุนต่ำ โดยแผนล่าสุดที่คณะกรรมการของ AAV ได้อนุมัติแผนปรับโครงสร้างการถือหุ้น AAV บริษัทจะได้เม็ดเงินใหม่จากการเพิ่มทุนและการออกหุ้นกู้แปลงสภาพประมาณ 1.4 หมื่นล้านบาท (ขายหุ้นใหม่ 8,000 ล้านหุ้น มูลค่าพาร์ 0.10 บาท ที่ราคา 1.75 บาทต่อหุ้น ให้แก่บุคคลวงจำกัด(PP) และผู้ถือหุ้นเดิม รวมถึงรองรับหุ้นกู้แปลงสภาพ)
นอกจากนี้ บริษัทจะใช้เงินที่ได้จากการเพิ่มทุนไปซื้อหุ้นอีก 30.8% ของ Thai AirAsia (TAA) จากผู้ถือหุ้นรายอื่นที่จะขาย อีก 3.9 พันล้านบาท พร้อมทั้งจะชำระคืนเงินกู้จากสถาบันการเงินอีก 3.9 พันลัานบาท คาดว่าธุรกรรมทั้งหมดจะดำเนินการเสร็จเรียบร้อยภายในไตรมาส 1 ปี 2565 และจะส่งผลให้สถานะทางการเงิน AAV แข็งแกร่งมากขึ้นจากที่มีสัดส่วน D:E สูงถึง 4.82 เท่า สิ้นมิ.ย. 2564 จะลดลงเหลือราว 2 เท่า ภายในสิ้นปีนี้
ทั้งนี้ บริษัทจะใช้สภาพคล่องส่วนเกิน 6.2 พันลัานบาทในการซื้อหุ้น TAA ตามแผนทั้งหมดจะทำใหํเกิด dilution กับผู้ถือหุ้น 62.3% ส่วนผลดำเนินงานธุรกิจ คาดว่าจะกลับไปเท่าช่วงก่อนโควิดได้ในปี 2566
ด้านบล. CGS วิเคราะห์ว่า กระบวนการเพิ่มทุนแก่ PP และการรองรับหุ้นกู้แปลงสภาพคาดว่าจะจบในเดือน ธ.ค. ส่วนการจัดสรรให้ผู้ถือหุ้นเดิมคาดว่าจะสิ้นสุดในช่วงกลางเดือน ม.ค. ทั้งนี้ผลกระทบที่จะเกิดกับผู้ถือหุ้นเดิม คือราคาหุ้นในกระดานจะถูกไดลูท ประมาณ 6 % ขณะที่ในแง่งบการเงินหากในอนาคตผลประกอบการพลิกมามีกำไรสุทธิ จะทำให้ผู้ถือหุ้นได้ทั้งหมดไม่ถูกหักส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อยออกไป แต่ในทางกลับกันถ้าหากผลประกอบการขาดทุนจะต้องรับมาทั้งหมดเช่นกัน
สำหรับการฟื้นตัวของ AAV มองว่า เส้นทางบินในประเทศจะเห็นการฟื้นตัวได้เร็วกว่าคาดว่าปี 2565 จะกลับสู่ระดับ เดียวกับก่อนเกิดโควิด ส่วนเส้นทางบินระหว่างประเทศต้องรอติดตามถึง มาตรการของประเทศปลายทางว่าจะยกเลิกการกักตัวเมื่อใด จึงจะทำให้เส้นทางบินระหว่างประเทศกลับสู่ภาวะปกติ โดยคาดว่าเป็นปี 2566 สำหรับคำแนะนำการลงทุน ด้วยผลประกอบการที่ยังขาดทุน จึงแนะนำเพียง “ถือ” ไปก่อน โดยประเมินมูลค่าเหมาะสมได้ที่ 2.20 บาท
ทั้งนี้ ราคาหุ้น AAV ล่าสุด (รอบเช้า 12พ.ย.) ปรับขึ้นมาอยู่ที่ 2.86 บาท บวก 0.7% หลังจากที่ช่วงก่อนหน้านี้เคยขึ้นไปปิด 3 บาท เมื่อวันที่ 19 ต.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงที่แผนปรับโครงสร้างผู้ถือหุ้นมีความชัดเจน ในช่วงระหว่างนี้ หุ้น AAV จะกลับมาคึกคักได้อีกครั้งหรือไม่ นับถอยหลังวันประชุมผู้ถือหุ้นฯ 26 พ.ย.นี้
----------------
ติดตามข่าวสาร ความรู้ทางการเงิน-การลงทุนได้ที่
Facebook : Clubhoon
Website : www.Clubhoon.com
Twitter : www.twitter.com/Clubhoon1