Market

PSP ชูกลยุทธ์ ESG ขับเคลื่อนองค์กรสู่ความยั่งยืน ตั้งเป้า Net Zero ภายในปี 2593
30 พ.ค. 2568

PSP ชูกลยุทธ์ ESG ขับเคลื่อนองค์กรสู่ความยั่งยืน ตั้งเป้า Net Zero ภายในปี 2593

 

บริษัท พี.เอส.พี. สเปเชียลตี้ส์ จำกัด (มหาชน) หรือ PSP เปิดโรดแมป ESG 5 ปี วางรากฐานความยั่งยืนในทุกมิติ ทั้งเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ภายใต้การกำกับกิจการที่ดี ปักหมุดแผนงานระยะสั้น – กลาง – ยาว พร้อมตั้งเป้าสู่ Net Zero Emissions ภายในปี 2593 ด้วยการลงทุนในพลังงานหมุนเวียน โซลาร์เซลล์ และผลักดันเศรษฐกิจหมุนเวียนที่ใช้ทรัพยากรได้อย่างคุ้มค่า รวมถึงการยกระดับสิทธิมนุษยชนและสวัสดิการพนักงาน โดยได้รับคะแนน ESG ระดับ 4 ดาว จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ก้าวขึ้นสู่หุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ตั้งเป้าผลประเมินในระดับ A และ AA ภายในปีนี้ ด้วยธุรกิจสีเขียว ที่มุ่งลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตลอดห่วงโซ่อุปทาน สร้างสรรค์นวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มาพร้อมกับคุณภาพชีวิตของพนักงานและชุมชนโดยรอบ ผ่านโครงการต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องที่ส่งเสริมด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อม เพื่อการเติบโตไปพร้อมกับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน

 

นายเสกสรร ครองพาณิชย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พี.เอส.พี. สเปเชียลตี้ส์ จำกัด (มหาชน) หรือ PSP ผู้นำด้านโซลูชันผลิตภัณฑ์หล่อลื่นแบบครบวงจร เปิดเผยว่า บริษัทได้ประกาศจุดยืนและยุทธศาสตร์ด้านความยั่งยืนภายใต้กรอบ ESG (Environmental, Social, Governance) อย่างชัดเจน พร้อมตั้งเป้าหมายที่มุ่งมั่นสู่การเป็นองค์กรที่เติบโตอย่างมั่นคงและรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมในระยะยาว ด้วยการวางโรดแมป 5 ปี ซึ่งหนึ่งในเป้าหมายสำคัญคือการบรรลุ “Net Zero Emissions” ภายในปี 2593 สะท้อนถึงความตั้งใจที่จะลดผลกระทบจากการดำเนินธุรกิจในทุกมิติ โดยการดำเนินการนี้บริษัทได้แบ่งแผนออกเป็น 3 ระยะหลัก ได้แก่ ระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว ซึ่งแต่ละระยะมีเป้าหมายและกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นเฉพาะด้าน เพื่อตอบสนองต่อการสร้างความยั่งยืนในทุกมิติของธุรกิจ

 

ในระยะสั้น บริษัทได้ดำเนินโครงการด้านสิ่งแวดล้อมที่สามารถวัดผลได้จริง ได้แก่ การติดตั้งระบบผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Rooftop) บนหลังคาอาคารโรงงาน เพื่อเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานหมุนเวียน และลดการพึ่งพาพลังงานฟอสซิล รวมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานด้วยการใช้ทรัพยากรอย่าง ในปี 2567 PSP ตั้งเป้าหมายลดการใช้พลังงานลงได้กว่า 15% พร้อมทั้งวางแผนขยายการลงทุนในระบบอัตโนมัติ (Automation) และระบบบริหารซัพพลายเชนอัจฉริยะ (Smart Supply Chain) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ลดของเสีย และใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าในทุกขั้นตอน ซึ่งเป็นการปูพื้นฐานสู่การเติบโตของธุรกิจสีเขียวในระยะยาว

ในระยะกลาง PSP ได้มุ่งเน้นการพัฒนาและวิจัยผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์เมกะเทรนด์ด้านสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะการวิจัยและพัฒนาน้ำมันหล่อลื่นชีวภาพ (Biodegradable Lubricants) ที่ใช้วัตถุดิบจากพืชทดแทนน้ำมันพื้นฐานจากปิโตรเลียม เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่สามารถย่อยสลายได้ทางชีวภาพ ลดผลกระทบจากสารเคมีตกค้างสู่ธรรมชาติ ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวยังสอดคล้องกับแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) และความต้องการของลูกค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมที่มองหาทางเลือกที่ยั่งยืนมากขึ้น บริษัทคาดว่าจะสามารถนำผลิตภัณฑ์นี้เข้าสู่ตลาดเชิงพาณิชย์ได้ในอนาคตอันใกล้

 

นอกจากนี้ ในระยะยาว PSP ยังเตรียมขยายการลงทุนในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ใช้ทรัพยากรที่นำกลับมาใช้ใหม่ หรือ Recyclable Resource และนวัตกรรมที่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตลอดทั้งซัพพลายเชน ซึ่งเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ระยะยาวสู่การบรรลุการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ หรือ Net Zero Emissions อย่างยั่งยืนภายในปี 2593

 

ด้านสังคม PSP ให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิตของทั้งพนักงานและชุมชนโดยรอบ ผ่านการดูแลสวัสดิการอย่างรอบด้าน ทั้งด้านสุขภาพ ความปลอดภัยในการทำงาน และการพัฒนาศักยภาพของบุคลากร เช่น การฝึกอบรมด้านเทคโนโลยี การพัฒนา Soft Skills และโครงการสร้างผู้นำรุ่นใหม่ (Young Leadership Program) รวมถึงการส่งเสริมความหลากหลายและความเท่าเทียมในที่ทำงาน ทั้งนี้ บริษัทยังจัดกิจกรรมเพื่อสังคมร่วมกับชุมชนในมิติต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านการศึกษา สิ่งแวดล้อม หรือการพัฒนาเยาวชน เพื่อสร้างคุณค่าร่วมระหว่างองค์กรกับสังคม

 

ในด้านธรรมาภิบาล PSP มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจตามหลักบรรษัทภิบาลที่ดี (Good Governance) ด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้ และคำนึงถึงผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นผู้ถือหุ้น ลูกค้า คู่ค้า พนักงาน หรือชุมชน ข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์ฯ ระบุว่า บริษัทได้รับการประเมินการกำกับดูแลกิจการ (Corporate Governance Report of Thai Listed Companies 2024: CGR) ระดับ 4 ดาว หรือ “ดีมาก” จากสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) ด้วยการสนับสนุนจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ทั้งนี้  PSP มีแผนยกระดับ CGR ให้สูงขึ้นในปีนี้ เพื่อตอกย้ำบทบาทขององค์กรที่เติบโตอย่างยั่งยืน

 

นอกจากความมุ่งมั่นในระดับองค์กร PSP ยังมีบทบาทในระดับสากล โดยเข้าร่วมเวที Climate Action Forum (CAF) @ United Nations, Thailand ซึ่งเป็นเวทีระดมพลังความร่วมมือจากภาคเอกชนไทยและนานาชาติ ในการร่วมกันขับเคลื่อนเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และPSP ยังได้เข้าร่วมโครงการ Sustainism Movement ซึ่งสนับสนุนโดยองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (UN FAO) และ AFMA ในการยกระดับระบบอาหาร การเกษตร และความยั่งยืนของซัพพลายเชน ทั้งนี้ PSP ยังได้รับเชิญให้นำเสนอกรณีศึกษาและแนวทางการดำเนินธุรกิจยั่งยืนในเวทีสาธารณะ พร้อมรับประกาศนียบัตร Climate Action Leaders Recognition ถือเป็นอีกก้าวขององค์กรไทยในการแสดงจุดยืน แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ และได้รับความยกย่องด้านการรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศบนเวทีโลก 

 

“PSP ไม่ได้มอง ESG เป็นเพียงเทรนด์หรือความรับผิดชอบเชิงสังคม แต่เราใช้ ESG เป็นแกนกลางในการสร้างกลยุทธ์องค์กรที่หลอมรวมเข้ากับการเติบโตทางธุรกิจ การดูแลพนักงาน และการมีความรับผิดชอบต่อสังคม เพื่อส่งมอบคุณค่าให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วนอย่างยั่งยืน” นายเสกสรร กล่าวทิ้งท้าย

 

Copyrights © 2021 All Rights Reserved by Clubhoon.com