ทิศทางหุ้นไทยวันนี้ ลุ้นรีบาวด์ทางเทคนิค ตลาดยังถูกกดดันทั้งราคาน้ำมัน และปัญหาสงครามฯ ดัชนี PMI สหรัฐยังแข็งแกร่ง ส่วนยุโรปหดตัว ส่งออกไทยบวกต่อเดือนที่ 2 แต่ ส.อ.ท. ปรับลดเป้ายอดขายรถปีนี้ลง แนะเลือกหุ้นรายตัว GPSC AOT
แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ (25 ต.ค.) บล. อินโนเวสท์ เอกซ์้ คาด SET มีจุดติดตามบริเวณแนวรับ 1383 และ 1375 จุด ตามลำดับ ที่คาดมีโอกาสเกิดการรีบาวด์ทางเทคนิค จากภาวะ oversold ด้านกรอบบนมีแนวต้านอยู่ที่ 1400 จุด หากขึ้นทะลุผ่านได้ จะเห็นการฟื้นตัวชัดขึ้น โดยมีแนวต้านถัดไปที่ 1410 จุด
ประเด็นสำคัญ
• ครม. มีมติเห็นชอบหลักการแนวทางการปรับลดราคาน้ำมันเบนซิน 91 ลง 2.50 บ./ลิตร เป็นเวลา 3 เดือน โดยจะเสนอรายละเอียดอีกครั้งใน 31 ต.ค. หากได้รับการอนุมัติคาดว่าจะมีผลทันที
• ส.อ.ท. รายงานยอดส่งออกรถยนต์ ก.ย. อยู่ที่ 97,476 คัน ลดลง 2.90%YoY เพิ่มขึ้น11.33%MoM พร้อมปรับลดเป้าผลิตรถยนต์ปีนี้เหลือ 1.85 ล้านคัน ปรับลดเป้ายอดขายใน ปท. เหลือ 8 แสนคัน
• พาณิชย์รายงานยอดส่งออก ก.ย. +2.1% ขยายตัว 2 เดือนติดต่อกัน คาด 4Q66 เป็นบวก ฉุดยอดรวมทั้งปีดีขึ้น พร้อมจับตาปัจจัยลบทั้งราคาน้ำมัน และปัญหาสงคราม
• ดัชนี PMI รวมภาคการผลิตและบริการ ต.ค. ของสหรัฐอยู่ที่ 51.0 สูงสุดรอบ 3 เดือนบ่งชี้ถึงการขยายตัวของภาคธุรกิจสหรัฐ
• ดัชนี PMI รวมภาคผลิตและบริการ ต.ค. ของยูโรโซน เยอรมนี และอังกฤษ ลดลงต่ำกว่า 50 บ่งชี้การหดตัวภาคธุรกิจ โดย PMI เยอรมนีหดตัวเป็นเดือนที่ 4 ดัชนี PMI อังกฤษหดตัวเป็นเดือนที่ 3
• อัยการสูงสุดจาก 42 รัฐทั่วสหรัฐรวมตัวฟ้อง Meta Platforms ในข้อหามอมเมาเด็กและเยาวชนในการใช้ Facebook และ Instagram จนทำให้มีการเสพติด social media
• Microsoft รายงานผลประกอบการ 1Q24 เติบโตสูงกว่าคาด โดยเฉพาะธุรกิจคลาวด์และ Alphabet รายงานผลประกอบการ 3Q23 เติบโตทุกส่วนธุรกิจ
กลยุทธลงทุน ช่วงสั้นมอง SET มีโอกาสฟื้นตัวหรือรีบาวน์ได้ แต่ Upside ยังถูกจำกัดเนื่องจากยังคงต้องติดตามความรุนแรงในตะวันออกกลางว่าขยายวงกว้างไปสู่อิหร่านหรือไม่ รวมถึงความกังวลเงินเฟ้อ และผลตอบแทนพันธบัตร ที่อาจเป็นปัจจัยสร้างความผันผวนให้กับตลาด อีกทั้งปัจจัยในประเทศยังต้องติดตามตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาไทยว่าจะถูกกระทบจากเหตุการณ์ในช่วงต้นเดือนหรือไม่ และความชัดเจนของนโยบายแจกเงินดิจิทัล กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy”
โฟกัสหุ้นวันนี
GPSC ช่วงสั้นคาดราคาหุ้นได้อานิสงส์บวกจากราคาก๊าซในยุโรปและบอนด์ยีลด์ที่ปรับตัวลง ขณะที่ผลการดำเนินงาน 2H66 คาดจะดีขึ้น HoH เนื่องจากต้นทุนเชื้อเพลิงที่ลดลงจะช่วยชดเชยการปรับค่า Ft ลดลง รวมทั้งรับรู้กำไรที่เพิ่มขึ้นจากธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน
AOT ได้ประโยชน์จากเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจท่องเที่ยวไทย เนื่องจากนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นจะทำให้กำไรเพิ่มขึ้น (+YoY, +QoQ) ใน 4QFY66-1QFY67 ขณะที่ช่วงสั้นมองราคาหุ้นปรับลงสะท้อนปัจจัยลบแล้ว อีกทั้งหากเทียบ YTD ราคาหุ้นยังตามหลังหุ้นอื่นๆ ในกลุ่มท่องเที่ยว