Market

อินโนเวสท์ เอกซ์ คาด SET  แกว่งรอ PCE สหรัฐฯ คืนนี้ 
31 ต.ค. 2568

แนวโน้มตลาดวันนี้ (31 ต.ค.) บล. อินโนเวสท์  เอกซ์ คาดตลาดแกว่งตัวไซด์เวย์ นลท. ต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิเล็กน้อย ส่วน ตลท. ให้ขยายเวลา Cash Balance ของ DELTA จนถึง 20 พ.ย. กดดันตลาดสั้น ด้านการเจรจาของ 2 ผู้นำจีน-สหรัฐฯ เป็นไปด้วยดี คืนนี้มีตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ PCE และสัปดาห์หน้ามีตัวเลขภาคแรงงานสหรัฐฯ ที่สำคัญ JOLTs, NFPs ทางเทคนิค ตลาดรีบาวด์หลังทดสอบ 1300 และขึ้นมาทดสอบแนวต้าน 1320-1323 ต้องยืนเหนือได้จึงจะขึ้นรอบใหม่ การลงไม่ควรหลุด 1300 หลุดแกว่งลง คาดแกว่งในกรอบก่อน

 

ประเด็นสำคัญ

• การพบกันระหว่าง ปธน. สหรัฐฯ และจีนในเกาหลีใต้มีพัฒนาการเชิงบวก จีนจะชะลอมาตรการควบคุมการส่งออกแร่หายากอย่างน้อย 1 ปี, กลับมาซื้อถั่วเหลืองจากสหรัฐฯ และอนุมัติการขายกิจการ TikTok ส่วนสหรัฐฯ จะลดภาษีศุลกากรบางรายการ รวมถึงภาษี Fentanyl เหลือ 10% ทำให้อัตราภาษีรวมเป็น 20% จากเดิมที่ 44% และยกเลิกข้อจำกัดบางประการในการส่งออก Software และชิปชั้นสูงแก่จีน

 

• สศค. ปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP ปี 2568 ขึ้นเป็น 2.4% จากเดิมที่ 2.2% ได้แรงหนุนจากมาตรการกระตุ้น ศก. ภาครัฐช่วงปลายปี, การฟื้นตัวภาคส่งออก และการบริโภคภาคเอกชน แต่มอง ศก. ปี 2569 จะเติบโตชะลอลงเพียง 2.0% จากฐานการส่งออกที่สูงในปีนี้และความเสี่ยงภาษีศุลกากรสหรัฐฯ ซึ่งอาจทำให้การส่งออกทั้งปี 2569 พลิกหดตัว

 

• สศอ. เผยดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) ก.ย. 2568 ที่ 94.56 ขยายตัว 1.0%YoY หนุนจากยอดขาย EV ที่สูงขึ้น, การผลิตยานยนต์ที่กลับมาขยายตัว และมาตรการกระตุ้น ศก. ภาครัฐ ส่วนอัตราการใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ 58.13%

 

• ม. หอการค้าไทยประเมินช่วงเทศกาลลอยกระทงปี 2568 จะมีเม็ดเงินสะพัดในระบบ ศก. ราว 9.6 พันลบ. ลดลง 6.5%YoY และเป็นการหดตัวครั้งแรกในรอบ 4 ปี เนื่องจากคาดว่าบรรยากาศจะไม่คึกคักเทียบเท่ากับปีก่อนๆ

 

• ต.ล.ท. ประกาศขยายเวลา DELTA เข้าข่ายมาตรการกำกับการซื้อขายหรือ Cash Balance ออกไปอีกถึงวันที่ 20 พ.ย. 2568 จะเดิมที่จะสิ้นสุดในวันที่ 30 ต.ค. 2568

 

กลยุทธ์การลงทุน

ช่วงสั้นมอง SET จะแกว่งตัวผันผวนในกรอบ 1285-1335 จุด โดยคาดตลาดจะให้น้ำหนักและติดตามปัจจัยภายนอกเป็นหลัก ได้แก่ 1) การประชุมนโยบายการเงิน FOMC ซึ่งเฟดมีมติลดดอกเบี้ยนโยบาย 25bps สู่ระดับ 4.00% เป็นไปตามที่ตลาดคาด และจะยุติการทำ QT ในวันที่ 1 ธ.ค. นี้ แต่สัญญาณทิศทางดอกเบี้ยจากประธานเฟดยังไม่ชัดเจน ส่วน ECB และ BoJ มีมติคงดอกเบี้ยตามคาด 2) การพบปะระหว่างทรัมป์และสี จิ้นผิงที่มีพัฒนาการทางบวก ลดความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างประเทศและเป็น Sentiment เชิงบวกต่อสินทรัพย์เสี่ยง 3) งบ 3Q68 ของบจ. ขนาดใหญ่ของสหรัฐฯ ที่คาดจะออกมาดีกว่าตลาดคาด และ 4) PMI ภาคการผลิตของจีนที่ตลาดคาดจะฟื้นตัว ส่วนในประเทศเข้าสู่ฤดูกาลประกาศงบ 3Q68 ของหุ้น Real Sector หลังงบหุ้นธนาคารส่วนใหญ่ออกมาดีกว่าตลาดคาด ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy”

 

Daily Top Picks

GFPT: มีปัจจัยกระตุ้นระยะสั้นจากโมเมนตัมกำไรที่แข็งแกร่ง กำไรปกติ 3Q68 คาดไว้ที่ 683 ลบ. เติบโต 21%YoY ดีที่สุดในกลุ่ม จากมาร์จิ้นที่กว้างขึ้นตามต้นทุนอาหารสัตว์ที่ลดลง และ 4Q68 มีแนวโน้มเติบโตก้าวกระโดด YoY จากต้นทุนอาหารสัตว์ที่ลดลงต่อเนื่องและสถานการณ์แรงงานที่กลับสู่ภาวะปกติ เป้าหมายระยะสั้น 10.80 บาท

 

HANA: มีปัจจัยกระตุ้นจากโอกาสฟื้นตัวของหุ้นอิเล็กทรอนิกส์ใน ตปท. และความหวังต่อสินค้าใหม่ด้าน AI อย่าง Solid-state Cooling Device ที่จะติดตั้งสายการผลิตใน 4Q68 และเริ่มผลิตใน 1H69 ซึ่งมีโอกาสหนุนผลประกอบการในอนาคตและมีศักยภาพในการโต แนะนำซื้อที่ราคาไม่เกิน 24.20 บาท และเป้าหมายระยะสั้นที่ 24.60 บาท

Copyrights © 2021 All Rights Reserved by Clubhoon.com