หุ้นไทยวันนี้ แนวโน้มไม่สดใสจากความกังวลโควิดกลับมาระบาดอีกระลอก โดยเฉพาะในจีนอาจมีการล็อกดาวน์อีกครั้ง ด้านเศรษฐกิจโลกแนวโน้มชะลอตัวจากการเร่งขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางทั่วโลก จับตาสหรัฐเปิดดัชนี CPI มิ.ย. คาดพุ่งทะลุ 8.6%  แต่ลุ้นแรงซื้อหุ้นที่มีข่าวหนุนเฉพาะตัว เช่น มีแรงซื้อหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าเก็งกำไรข่าวรัฐปรับขึ้นค่า Ft อาจพยุงดัชนีสลับรีบาวด์ได้ คาด  SET แกว่งตัว 1,550 - 1,565 จุด  เชียร์หุ้น GPSC และ CBG

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ (12 ก.ค.) นักวิเคราะห์จาก บล.กรุงศรี ประเมิน SET แกว่งตัว 1,550 - 1,565 จุด โดยความกังวลเศรษฐกิจชะลอตัวหลังธนาคารกลางทั่วโลกเร่งปรับขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสกัดภาวะเงินเฟ้อ รวมถึงความกังวลจีนอาจใช้มาตรการล็อกดาวน์อีกครั้งเพื่อควบคุมการเร่งตัวของ Covid-19 ในหลายพื้นที่จะเป็นแรงกดดันทิศทางการลงทุน 

อย่างไรก็ตามคาดว่าหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวจะช่วงพยุงให้ดัชนสลับรีบาวด์ขึ้นได้ สำหรับวันที่ 13 ก.ค. ติดตามตัวเลข CPI สหรัฐฯเดือนมิ.ย. โดย Consensus คาดพุ่งขึ้นเหนือระดับ 8.6% ของเดือนพ.ค.65

กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy แนะนำ GPSC BGRIM SCGP SCC ได้ sentiment บวกจากราคาน้ำมันดิบอ่อนตัวลง และ BDMS BH BCH CHG ได้รับผลบวกจากแนวโน้มยอดผู้ติดเชื้อ Covid-19 ในประเทศเร่งตัวขึ้น

หุ้นแนะนำวันนี้

- GPSC (ซื้อ/ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 72 บาท) แรงกดดันต่อต้นทุนพลังงานเริ่มลดลงหลังจากแนวโน้มของราคาน้ำมันดิบเริ่มชะลอตัวเป็น Sentiment บวกกับโรงไฟฟ้าประกอบกับมีประเด็นเรื่องการปรับขึ้นค่า Ft ให้เก็งกำไรเป็นบวกกับผู้ประกอบการที่มีสัดส่วนของโรงไฟฟ้า SPP และมีกลุ่มลูกค้าที่เป็นภาคอุตสาหกรรมสูง

-CBG (ซื้อ/ราคาเป้าหมาย 130 บาท) ได้ Sentiment บวกจากทิศทางราคาอะลูมิเนียมที่ปรับตัวลงแตะระดับ 2,380 ดอลลาร์/ตัน ต่ำสุดในรอบ 1 ปี ส่งผลบวกโดยตรง CBG เนื่องจากมีสัดส่วนของบรรจุภัณฑ์ที่เป็นกระป๋องราว 60% ของทั้งหมดโดยมีอะลูมิเนียมคิดเป็น 20-25% ของต้นทุนรวม ขณะที่งบการเงินงวดไตรมาส 2 (2Q22) เติบโตตามฤดูกาล (High season)

ประเด็นสำคัญวันนี้

(-) แนวโน้มผลประกอบการของกลุ่มธนาคารในสหรัฐอาจจะชะลอตัวจากการตั้งสำรองที่เพิ่มขึ้น : กลุ่มธนาคารในสหรัฐมีกำหนดจะรายงานผลการดำเนินงานในสัปดาห์นี้ แต่นักวิเคราะประเมินภาพรวมดูไม่สดใสจากการตั้งสำรองหนี้สูญที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นไปตามระเบียบที่มีการบังคับใช้ในเดือน ม.ค. 2563 กำหนดให้ธนาคารต่าง ๆ จะต้องนำปัจจัยแนวโน้มเศรษฐกิจเข้ารวมในการพิจารณาในการตั้งสำรอง ซึ่งปัจจุบันเศรษฐกิจสหรัฐเสี่ยงเข้าสู่ภาวะถดถอยจึงจำเป็นที่จะต้องตั้งสำรองให้มากขึ้น

(-) จีนเตรียมใช้มาตรการควบคุมโควิด-19 ในหลายเมืองหลังมีการแพร่ระบาดของสายพันธ์ BA.5 เพิ่มขึ้น : จีนเตรียมออกมาตรการควบคุมโควิด-19 รอบใหม่ในเมืองต่างๆ อาทิ การระงับการดำเนินงานของภาคธุรกิจไปจนถึงการล็อกดาวน์, เซี่ยงไฮ้เตรียมตรวจหาเชื้อโควิด-19 ขนานใหญ่หลังพบผู้ติดเชื้อไวรัสโอมิครอนสายพันธุ์ BA.5 ขณะที่กรุงปักกิ่งพบผู้ติดเชื้อโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.5.2 และสั่งจำกัดจำนวนผู้เข้าร่วมงานบันเทิงและแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม

(-) ติดตามเงินเฟ้อเดือน มิ.ย. ของสหรัฐบ่งชี้ทิศทางเฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 0.5% หรือ 0.75% : สหรัฐจะรายงานตัวเลขอัตราเงินเฟ้อในวันที่ 13 ก.ค. เบื้องต้น Consensus คาดอัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะพุ่งขึ้นเป็น 8.7-8.8% จาก 8.6% ในเดือน พ.ค. นับเป็นอัตราเงินเฟ้อสูงสุดในรอบ 40 ปี ส่วนอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานคาดว่าจะทรงตัวที่ระดับ 6% ตามเดิม อัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงจะยิ่งกดดันให้เฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ยเป็นลบกับตลาด