Market

คาดหุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบ 1,545 - 1,565 จุด รอลุ้นตัวเลขเงินเฟ้อ CPIสหรัฐ -ผลประชุม FOMC 
12 มิ.ย. 2566

โบรกเกอร์ คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,545 - 1,565 จุด นักลงทุนชะลอลงทุน เพื่อรอตัวเลขเงินเฟ้อ CPI สหรัฐ และติดตามการประชุม FOMC แนะ 2 หุ้นเด่น CENTEL- DOHOME

บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี ประเมินทิศทาทางตลาดหุ้นไทยวันนี้ คาดดัชนีจะแกว่งตัวในกรอบ 1,545 - 1,565 จุด เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขาย เพื่อติดตามตัวเลขเงินเฟ้อ CPI สหรัฐ ในวันที่ 13 มิ.ย. ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าจะชะลอตัวเหลือ +4.1% รวมทั้งติดตามการประชุม FOMC ในวันที่ 13 – 14 มิ.ย. ซึ่งคาดว่าจะคงดอกเบี้ยที่ 5.25% นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบที่อ่อนตัวลง หลังแท่นขุดเจาะน้ำมันในแคนาดาเพิ่ม จะกดดันต่อกลุ่มพลังงานรวมถึงภาวะตลาดให้มีความผันผวน


สำหรับกลยุทธ์การลงทุน แนะนำให้เลือกซื้อเป็นรายตัว 

- หุ้นที่แนวโน้มกำไรไตรมาส 2/66 ยังคงเติบโต เช่น  BBL KTB TTB KBANK SCB SAPPE ICHI  

- หุ้นที่ได้รับอานิสงส์ค่ายรถ EV ตั้งฐานการผลิตในไทย เช่น   AMATA WHA ROJNA NYT 
 
- หุ้นที่มีการคาดการณ์หุ้นเข้ารอบใหม่ใน SET50 เช่น  TLI, WHA  และ SET100 เช่น AEONTS, AURA, BA, BTG, MBK, SISB, SNNP, TASCO, TLI 

ส่วนหุ้นแนะนำวันนี้


- CENTEL (ราคาเป้าหมาย 60 บาท) คาดผลประกอบการไตรมาส 2/66 ชะลอตัวตามฤดูกาล แต่หากมองที่จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ผ่านจุดต่ำสุดของปีมาแล้ว และมีข่าวเชิงบวกจาก ททท.เตรียมจัดทำ Visa plus Streaming ลดขั้นตอนการออกวีซ่าให้นักท่องเที่ยวจีน

- DOHOME (ราคาเป้าหมายสูงสุด 17.70 บาท) ราคาหุ้นลดลงสะท้อนแนวโน้มผลประกอบการที่อ่อนแอในไตรมาส 2/66 ไปแล้ว ราคาเหล็กที่เริ่มเห็นการฟื้นตัวจะช่วยหนุนปัจจัยบวกของหุ้นในกลุ่มค้าปลีกวัสดุก่อสร้าง


ประเด็นสำคัญที่น่าติดตามวันนี้

  (+) คาดหวังจีนออกมาตรการกระตุ้น ศก. หลังกิจกรรม ศก.ยังอ่อนแอ: ตลาดคาดว่า จีนจะออกมาตรการกระตุ้น ศก. ในสัปดาห์นี้ (15 มิ.ย.23) อาทิ การปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย (MLF) และอีกหนึ่งแนวทางที่เป็นไปได้คือการปรับลด RRR rate ให้กับธนาคารพาณิชย์ หากเป็นไปตามคาดจะช่วยหนุนให้ ศก. จีนฟื้นตัวเป็นบวกต่อยอดขายและจิตวิทยาของของหุ้นที่เกี่ยวข้อง อาทิ กลุ่มขนส่ง, กลุ่มวัสดุก่อสร้าง และกลุ่มปิโตรฯ

  (+/-) ติดตามเงินเฟ้อสหรัฐเพื่อหาทิศทางการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด: สหรัฐจะรายงานอัตราเงินเฟ้อ (CPI) เดือน พ.ค. ในวันที่ 13 มิ.ย. นี้ เราคาดว่าปัจจัยดังกล่าวจะไม่มีผลต่อการประชุมของเฟดในวันที่ 14 มิ.ย. แต่จะมีผลต่อการประชุมเดือน ก.ค. โดยเฉพาะหากเงินเฟ้อลดลงช้าหรือเพิ่มขึ้นสวนทางกับที่คาดไว้จะกดดันให้เฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือน ก.ค. 

  (+/-) สัปดาห์แห่งการประชุมธนาคารกลางโฟกัสอยู่ที่ FED Meeting: เราคงมุมมองเดิมโดยคาดว่า FED จะคงดอกเบี้ยที่ระดับ 5-5.25% ตามเดิม แต่อย่างไรก็ตามต้องติดตามถ้อยแถลงของเจอโรม พาวเวลประธานเฟด และ FED Dot Plot เพื่อจับสัญญาณการปรับขึ้นดอกเบี้ยในช่วงเวลาที่เหลือของปี ส่วนประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) คาดปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% เป็น 4%

Copyrights © 2021 All Rights Reserved by Clubhoon.com