เปิดศักราชใหม่ ส่ง 4 สัญญาณบวกค้าปลีก โบรกเกอร์หนุนแม็คโคร-โลตัสส์ รับเศรษฐกิจฟื้นตัว คาดกำไรหมื่นล้าน ปันผล 50% โบรกเกอร์ให้ราคาเป้าหมาย 49 บาท 

แหล่งข่าวจากวงการโบรกเกอร์ เปิดเผยว่า ธุรกิจค้าปลีกส่ง 4 สัญญาณบวกหลังปีใหม่ 2565  ถือเป็นปัจจัยสำคัญสนับสนุนหุ้นค้าปลีกตัวท็อปอย่าง Makro  ทั้งนี้สัญญาณบวกแรก คือ โมเมนตั้มของการเติบโตของยอดขายจากสาขาเดิม (Same Store Sale Growth  หรือ SSSG) มีอัตราการเติบโตต่อเนื่องดีกว่าปีที่ผ่านมา สวนทางกับการระบาดของโควิด-19 รอบใหม่ 

นอกจากนี้ ยังเป็นเพราะกลุ่มธุรกิจ HoReCa(ธุรกิจโรงแรม (Hotel) ร้านอาหาร (Restaurant) กาแฟและธุรกิจจัดเลี้ยง (Café and Catering)เริ่มกลับมาประกอบธุรกิจได้  โดยคาดการณ์ผลประกอบการแม็คโคร-โลตัสส์ตลอดปี 2564 มีแนวโน้มกำไรไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นล้านบาท นำมาซึ่งการปันผลไม่ต่ำกว่า 40-50%  โดยในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาธุรกิจค้าปลีกได้รับผลกระทบจากโควิด-19 หนักกว่าปี 2564 แต่ปรากฏว่าทั้งแม็คโครก็ยังเติบโตได้ถึง 2.7%  สามารถปิดยอดรายได้ที่ 1.66 แสนล้านบาท ส่วน EBITDA เติบโตในสัดส่วนเดิมแม้จะมีค่าใช้จ่ายเพื่อป้องกันให้พนักงาน ลูกค้า ปลอดภัย การขนส่งสินค้าไม่สะดุด แต่ก็ยังรักษากำไรสุทธิเติบโตถึง 4% ในปี 2564 เมื่อรวมโลตัสส์ยอดรายได้เติบโตเกือบ 100% ถือว่าเติบโตมากกว่าก้าวกระโดด เติบโตจาก 2.18 แสนล้านบาท เป็นเกือบ 4.3 แสนล้านบาท

สัญญาณบวกที่สองคือ การลดต้นทุนจากการผนึกกำลังลดขึ้นตอนซ้ำซ้อน โดยคาดว่า อานิสงส์จากการควบรวมแม็คโคร -โลตัสส์ ส่งผลให้ต้นทุนลด 2%  และคาดการณ์หากโอมิครอนจบเร็วจะเป็นปัจจัยหนุนให้ค้าปลีกฟื้นตัว มีโอกาสและศักยภาพในการทำกำไรเพิ่มขึ้นหลังรับโอนกิจการโลตัสส์ ซึ่งจะผลักดันให้มาร์จิ้นของแม็คโครดีขึ้นอย่างชัดเจน เพราะทั้งสองกิจการสามารถสร้าง Sharing Cost กันได้ และเกิด Economy of Scale ทันที โดยที่ยังไม่ได้ต้องลงทุนเพิ่มเติม โดยหลังรับโอนกิจการโลตัสส์แล้วจะทำให้แม็คโครเป็นกิจการค้าปลีกที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย 

สัญญาณบวกที่ 3 เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว และผ่านช่วงวิกฤตสูงสุดมาแล้ว จะเห็นได้ว่า ผลกระทบโควิด-19 ในปี 2564 ภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศเติบโตลดลง โดยติดลบ 6% แต่แม็คโครเติบโตถัวเฉลี่ย 10 ปีย้อนหลัง 9% และมองว่าในปี 2565 จะเป็นช่วงของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่แท้จริงของประเทศไทย ดังนั้นโอกาสในการฟื้นตัวของแม็คโครจึงดีขึ้นด้วย โดยปัจจุบันตลาดประเมินมูลค่าหุ้นแม็คโครด้วยบริบทของเศรษฐกิจปี 2564 ซึ่งเป็นขาลงและถูกดดันจากความเสี่ยงเรื่องการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างไรก็ตามเชื่อว่าตอนนี้เป็นจุดต่ำสุดของเศรษฐกิจไทยและน่าจะผ่านวิกฤตโควิด-19 แล้ว จึงมั่นใจว่าจากนี้ไปจะเป็นช่วงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย

สัญญาณบวกที่ 4 ออนไลน์กับออฟไลน์ ( Online to Offline หรือ  O2O) โต 3 เท่า ขยายธุรกิจแบบ O2O โดยใช้ระบบออนไลน์เข้ามาช่วยจะทำให้เกิดการลดต้นทุนในการดำเนินธุรกิจอย่างมาก หลังจากแม็คโคร และโลตัสส์ เข้ามาร่วมดำเนินธุรกิจร่วมกัน ทำให้มีการผสานธุรกิจทางด้าน B2B และ B2C เข้าด้วยกันอีก สร้างความแข็งแกร่งของกลุ่มลูกค้าทั้งสองกลุ่ม โดยเฉพาะในเรื่องของการพัฒนาด้านการขายผ่านช่องทางออนไลน์ที่จะมีการรุกขยายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ด้านความเห็นของฝ่ายวิจัย บล.กสิกรไทย ระบุว่า ได้ปรับประมาณการกำไรปี 2564-2566 ขึ้น 3-5% เป็น 6.6 พันล้านบาท 1.24 หมื่นล้านบาท และ 1.62 หมื่นล้านบาท หรือคิดเป็นการเติบโตของกำไรที่ 0%, +89% และ 31% ตามลำดับ แต่คาดว่าอัตราเติบโตของ EPS จะอยู่ที่ -16.3%, +0.8%, และ +31% ตามลำดับ  ให้ราคาเป้าหมายไว้ที่ 49 บาท 

ขณะที่ความเคลื่อนไหวราคาหุ้น Makro วันนี้ ปิดตลาดครึ่งวัน ราคาอยู่ที่ 41.50 บาท ไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้า