CEN รุกธุรกิจกัญชา วางแผนร่วมทุนกับบริษัทวิจัยและพัฒนาที่เกาหลี ก้าวเข้าสู่ตลาดและผลิตภัณฑ์มีส่วนผสมจากสารสกัดกัญชา พลิกกลยุทธ์สู่ Recurring Income พร้อมโชว์จุดแข็งกู้วิกฤติด้านพลังงานจากโรงไฟฟ้า และธุรกิจใหม่ ตอบโจทย์สำหรับ Holding Company
นายเชิดศักดิ์ กู้เกียรตินันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แคปปิทอล เอ็นจิเนียริ่ง เน็ตเวิร์ค จำกัด (มหาชน) หรือ CEN ซึ่งดำเนินธุรกิจการลงทุนในบริษัทย่อย (Holding Company) เปิดเผยว่า บริษัทได้เตรียมเข้าลงทุนในธุรกิจกัญชา โดยเตรียมวางแผนร่วมทุนกับบริษัทวิจัยและพัฒนาที่เกาหลี เพื่อก้าวเข้าสู่ตลาดและผลิตภัณฑ์มีส่วนผสมจากสารสกัดกัญชา เป็นการพลิกกลยุทธ์สู่ Recurring Income
"ปฏิเสธไม่ได้ว่ากัญชา-กัญชงนับเป็นเมกะเทรนด์โลกที่มีแนวโน้มเติบโตสูง และเป็นอีกหนึ่งตลาดที่มีศักยภาพสามารถเชื่อมโยงไปสู่ห่วงโซ่อุตสาหกรรมอื่นๆ CEN ได้ศึกษาการลงทุนในธุรกิจกัญชามาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว เริ่มตั้งแต่ธุรกิจการปลูกกัญชาที่เก็บช่อดอกขาย การสกัดสาร CBD จากช่อดอกกัญชา และการนำสารสกัด CBD ที่ได้ไปใช้ในผลิตภัณฑ์อาหารและเวชภัณฑ์"
การศึกษาลงทุนครั้งนี้ เป็นการทำธุรกิจร่วมกันหรือ Partner กับคู่ธุรกิจที่มีองค์ความรู้ ความเชี่ยวชาญและความชำนาญเกี่ยวกับกัญชา-กัญชง ทาง CEN จะเสริมความแข็งแกร่งด้านการลงทุน การขยายตลาด ผ่านพันธมิตรที่มีศักยภาพของ CEN ทำให้ผู้บริโภคทุกระดับเข้าถึงสินค้าได้ง่ายและเร็วมากขึ้น
สำหรับ กลุ่มธุรกิจเดิมของ CEN คือ บริษัท เอ็นเนซอล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ดำเนินธุรกิจด้านพลังงาน ผลิต จำหน่ายให้กับลูกค้าโรงงานอุตสาหกรรม สร้างรายได้และผลกำไรแบบสม่ำเสมอ ตลอดสัมปทาน 15 ปี ในสภาวะวิกฤติของค่าพลังงานที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีความผันผวนสูงจากผลกระทบจากราคาน้ำมันในตลาดโลก
ส่วนบริษัท สกาย ทาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ STOWER ที่บริษัทถือหุ้นใหญ่ ได้เข้าไปลงทุนก่อสร้างเสาโทรคมนาคมให้เช่าที่ประเทศฟิลิปปินส์ ถือได้ว่าการลงทุนที่มีอนาคต มีมูลค่าการเติบโตสูง ถือเป็นปีที่ STOWER รุกเข้าสู่ธุรกิจเทเลคอมในต่างประเทศเต็มรูปแบบ คาดว่าจะทำให้ภาพรวมธุรกิจ STOWER จะสามารถกลับมาเทิร์นอะราวด์ได้ ซึ่งล่าสุด STOWER ผนึกพันธมิตร T3 Technology ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีในประเทศไทย ร่วมกันรุกตลาดบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต และ IoT ในฟิลิปปินส์ ต่อยอดธุรกิจให้เช่าเสาเทเลคอมของ STOWER ที่มีลูกค้าในมือเป็นลูกค้ากลุ่มเดียวกัน คาดว่าจะมีรายได้ในฟิลิปปินส์กว่า 3,000 ล้านบาทใน 3 ปี
ส่วนบริษัท ระยองไวร์ อินดัสตรีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ RWI ที่บริษัทถือหุ้นใหญ่ ซึ่งผลิตลวดเหล็กแรงดึงสูง มีความแข็งแกร่งทางด้านการเงินและมีความสัมพันธ์ที่ดีกับสถาบันการเงิน บริษัทก็พร้อมที่จะจัดสรรงบลงทุนกว่า 400 ล้านบาท เพื่อขยายสายผลิตภัณฑ์จากธุรกิจเดิมที่มีความเชี่ยวชาญ โดยอยู่ระหว่างการศึกษาผลิตภัณฑ์ที่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่ม มีการศึกษาความเป็นไปได้ในการประกอบธุรกิจนวัตกรรมใหม่ๆ เกี่ยวกับวัสดุอุตสาหกรรมก่อสร้าง เพื่อนำมาใช้เป็นวัสดุพื้นฐานของโครงการสาธารณูปโภค เพื่อเสริมสร้างรายได้ที่มั่นคงต่อเนื่อง
ทั้งนี้ CEN มองหาโอกาสในการเติบโตทางธุรกิจ โดยขยายไปยังกลุ่มธุรกิจใหม่ๆ เพื่อต่อยอดธุรกิจเดิม ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้ทำการลงนามข้อตกลงเบื้องต้นในการดำเนินธุรกิจ กับบริษัทหลักทรัพย์แห่งหนึ่ง จะเข้าไปลงทุนธุรกิจหลักทรัพย์ ให้บริการเกี่ยวกับหลักทรัพย์ครบวงจร สามารถเสริมความแข็งแกร่งของการดำเนินธุรกิจ Holding Company ของบริษัทฯ และมีการศึกษาธุรกิจ Trading ที่เป็นตัวแทนนำเข้าและจำหน่ายกากอุตสาหกรรมหรือ Slag ให้กับบริษัทอสังหาริมทรัพย์หรือโรงงานขนาดใหญ่