NUSA เบนเข็มกระจายความเสี่ยงของธุรกิจ ลุยด้านสุขภาพ ปั้นโครงการ My Ozone เขาใหญ่ บนพื้นที่ 150 ไร่ ให้เป็นโมเดลเมืองกัญชาและกัญชง ต่อยอดธุรกิจหลักด้านพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เจอผลกระทบวิกฤตโควิด ด้านความเคลื่อนไหวราคาพุ่งไม่หยุดวิ่งมาราธอนไม่หยุดตั้งแต่ต้นเดือนบวกไปแล้วกว่า 141%
หุ้น NUSA หรือ บริษัท ณุศาศิริ จำกัด (มหาชน) วิ่งมาราธอนแบบไม่ยอมพักเหนื่อยมาตั้งแต่ต้นเดือน จากราคา 0.43 บาท ล่าสุดปิดตลาดวันนี้ขึ้นมายืนที่ 1.04 บาท บวกไป 0.61 บาท หรือ 141.86% ทั้งๆ ที่ผลประกอบการขาดทุนมาโดยตลอด ปึ 2560 ขาดทุน 240.87 ล้านบาท ปี 2561 ขาดทุน 221.71 ล้านบาท ปี 2562 ขาดทุนหนักขึ้นไปอีกมากถึง 653.19 ล้านบาท ปี 2563 ยิ่งเยอะ ขาดทุน 928.08 ล้านบาท และช่วง 9 เดือนปี 2564 ขาดทุน 704.68 ล้านบาท เรียกว่าฉีกทฤษฏีนักวิเคราะห์ ผลประกอบการไม่ดีแทนที่หุ้นจะแย่ กลับวิ่งกระฉูดหน้าตาเฉย จนนักลงทุนงง ราคาวิ่งมาได้ไง พร้อมกับวอลุ่มที่หนาแน่นอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน มีข่าวแค่หันมารุกธุรกิจด้านสุขภาพ
นางศิริญา เทพเจริญ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการตลาด บริษัท ณุศาศิริ เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนการดำเนินธุรกิจที่จะเน้นในธุรกิจด้านสุขภาพมากขึ้น เพราะมองเห็นโอกาสในการสร้างการเติบโตต่อยอดธุรกิจหลัก คือ ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่ออยู่อาศัย และธุรกิจท่องเที่ยว
โดยบริษัทได้พัฒนาแพลทฟอร์ม MORHELLO ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มด้านการแพทย์ ให้คำปรึกษาและดูแลรักษาผู้ป่วย รวมถึงมีการจัดอบรมทางการแพทย์ ทำให้บริษัทเล็งเห็นถึงโอกาสในการลงทุนเพื่อต่อยอดธุรกิจหลัก โดยจะนำโครงการ My Ozone เขาใหญ่ ปั้นให้เป็นโมเดลเมืองกัญชาและกัญชง บนพื้นที่ 150 ไร่ ซึ่งจะรวมธุรกิจด้านการท่องเที่ยว ทั้งโรงแรม Movenpicks My Ozone เขาใหญ่ ผนวกเช้ากับธุรกิจสุขภาพ
นอกจากนี้ ยังมีแผนจะพัฒนาโรงพยาบาลผู้สูงอายุเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติกลุ่ม B+ ที่จะเดินทางเข้ามารักษาสุขภาพในระยะยาวในประเทศไทย
นอกจากนี้ ยังมีแผนปรับปรุงโครงการ Legend Siam พัทยา ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเกี่ยวข้องกับวัฒนธรรม มาเป็นรูปแบบการปลูกกัญชาและกัญชง ซึ่งจะเป็นรูปแบบการท่องเที่ยวเชิงการเรียนรู้ ควบคู่กับการทำพิพิธภัณฑ์กัญชาและกัญชง รวมถึงจะพัฒนาสินค้าต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับกัญชาและกัญชง เพื่อสร้างโอกาสในการผลักดันการเติบโตธุรกิจและทำให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพมีรายได้ที่เข้ามาครบวงจรทั้งต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ
ล่าสุดบริษัทร่วมมือกับ บมจ.ทีดับบลิวแซด คอร์ปอเรชั่น หรือ TWZ ในการพัฒนาเทคโนโลยีด้านหลอด LED เพื่อใช้ในกระบวนการปลูกกัญชง ซึ่งจะเป็นโอกาสที่บริษัทสามารถสร้างรายได้จากการขายหลอด LED ซึ่งคาดว่าหากมีการปลูกกัญชงเป็นจำนวนมาก ก็จะทำให้มีความต้องการใช้หลอด LED เพิ่มขึ้นตามไปด้วย
ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้ารายได้ธุรกิจด้านสุขภาพในปี 65 ไว้ที่ 500-800 ล้านบาท คาดว่าจะมีสัดส่วนรายได้เพิ่มขึ้นมาใกล้เคียง หรือมากกว่าธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย โดยการปรับธุรกิจของบริษัทที่มุ่งไปสู่ธุรกิจด้านสุขภาพมากขึ้น เพื่อรองรับการเติบโตในระยะยาว และให้ธุรกิจมีการดำเนินงานที่สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในประเทศไทย เพื่อสร้างโอกาสใหม่ๆ ต่อยอดให้กับธุรกิจ
"หลังจากช่วงการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่ผ่านมาธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขายและธุรกิจท่องเที่ยวของเราได้รับผลกระทบอย่างมาก ทำให้ต้องปรับตัวในการหาโอกาสใหม่ๆ เข้ามาและใช้ประโยชน์จากสินทรัพย์ของบริษัทที่มีอยู่ในการขับเคลื่อนผลการดำเนินงานให้ดีขึ้น กระจายความเสี่ยงของธุรกิจ เพราะจากที่ผ่านมาก็เจอปัจจัยไม่แน่นอนเข้ามามาก ธุรกิจสุขภาพก็เป็นสิ่งที่นุศาทำมาก่อนหน้านี้แล้ว ทำให้เห็นโอกาส และอยากทำให้ครบวงจร เพื่อสร้างการเติบโตใหม่ให้ธุรกิจ และสร้างกำไรกลับมาให้กับบริษัทได้" นางศิริญา กล่าว
--------------------------------
ติดตามข่าวสาร ความรู้ทางการเงิน-การลงทุนได้ที่
Facebook : Clubhoon
Website : www.Clubhoon.com
Twitter : www.twitter.com/Clubhoon1