เซ็นทรัลพัฒนา เผยไตรมาส 2 /66 โตแข็งแกร่ง รายได้รวม 11,133 ล้านบาท โต 22% จากปีก่อน และกำไรสุทธิ 3,678 ล้านบาท โต 34% จากปีก่อน พร้อมเดินหน้าเปิดโครงการใหม่ตามแผน โดยในไตรมาสที่ 2 เปิดให้บริการโรงแรมใหม่ GO! Hotel อยู่ติดกับโรบินสันบ้านฉาง และคอนโดมิเนียม เอสเซ็นท์ เพชรบุรี พร้อมเดินหน้าแผนงานและกลยุทธ์ สร้างความแข็งแกร่งให้ทั้งระบบธุรกิจ แย้มกองทรัสต์ CPNREIT ฟอร์มสวย รายได้โต 16% แจกปันผล 0.2900 บ./หน่วย
นางสาวนภารัตน์ ศรีวรรณวิทย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการเงิน บัญชี และบริหารความเสี่ยง บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด(มหาชน) หรือ CPN กล่าวว่า “ผลประกอบการของบริษัทฯ ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องรายได้รวมเพิ่มขึ้นในทุกๆธุรกิจ โดยเฉพาะศูนย์การค้า และธุรกิจที่อยู่อาศัย โดยมีปัจจัยหนุนจากการฟื้นตัวของจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และการบริโภคภายในประเทศที่ดีขึ้น โดยในไตรมาสที่ 2 ปี 2566 บริษัทฯ มีรายได้รวม11,133 ล้านบาท โต 22% จากปีก่อน และกำไรสุทธิ 3,678 ล้านบาท โต 34% จากปีก่อน พร้อมเร่งเติมเต็มธุรกิจ non-retail ในโครงการมิกซ์ยูส เปิดโครงการใหม่ตามแผน ได้แก่ โรงแรม GO! Hotel อยู่ติดกับโรบินสันบ้านฉาง ในเดือนพฤษภาคม และคอนโดมิเนียม เอสเซ็นท์ เพชรบุรี ในเดือนมิถุนายน 66
ณ สิ้นไตรมาส 2 ปี 2566 เซ็นทรัลพัฒนา มีศูนย์การค้าภายใต้การบริหารงานทั้งหมด39 โครงการ (ศูนย์การค้าเซ็นทรัล 37 แห่ง ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล 15 โครงการ ต่างจังหวัด 21 โครงการ และในมาเลเซีย 1 โครงการ, ศูนย์การค้าเอสพละนาด 1 แห่ง และศูนย์การค้าเมกะ บางนา ภายใต้กิจการร่วมค้าอีก 1 แห่ง) คอมมูนิตี้มอลล์ 17 โครงการ มีพื้นที่ให้เช่าสุทธิรวม 2.3 ล้านตารางเมตร นอกจากนี้ ยังบริหารศูนย์อาหาร 33 แห่ง อาคารสำนักงาน 10 อาคาร โรงแรม 6 แห่ง โครงการที่พักอาศัย29 โครงการ ประกอบด้วยคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ ESCENT, ESCENT VILLE, ESCENT PARK VILLE, PHYLL และ BELLE GRAND RAMA 9 และโครงการแนวราบภายใต้แบรนด์ ESCENT TOWN (ทาวน์โฮม) ESCENT AVENUE (โฮมออฟฟิศ) NINYA (บ้านแฝด) NIYAM (บ้านเดี่ยวระดับลักชูรี่) และโครงการแนวราบหลากหลายรูปแบบภายใต้แบรนด์ NIRATI ที่เชียงใหม่ เชียงราย บางนา และดอนเมือง
โครงการใหม่ที่อยู่ระหว่างก่อสร้างและเตรียมเปิดในปี 2566-2567 ได้แก่ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เวสต์วิลล์ (กำหนดเปิด 29 พ.ย.66) เซ็นทรัล นครสวรรค์ (Q1/2567) เซ็นทรัลนครปฐม (Q2/2567) เซ็นทรัล กระบี่ (Q4/2567) และโครงการอื่นๆ ที่เตรียมเปิดในปีนี้ได้แก่ โรงแรม Centara Ayutthaya โรงแรม Centara One Rayong โรงแรม GO! Hotel อยู่ติดกับเซ็นทรัล ศรีราชา และเซ็นทรัล ชลบุรี และโครงการที่อยู่อาศัย 6 โครงการ (NIRATI นครศรีธรรมราช บ้านเดี่ยวแบรนด์ใหม่ 3 โครงการ และคอนโดมิเนียม ESCENT 2 โครงการ) นอกจากนี้ ยังมีโครงการ Mega Mixed-use “ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค” big project ที่ร่วมพัฒนากับบริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) โดยจะทยอยเปิดให้บริการในปี 2567 เป็นต้นไป
นอกจากนี้ กองทรัสต์ CPNREIT ซึ่งบริษัทฯ เป็นผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์ ได้จัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นในวันที่ 31 ก.ค. 2566 ซึ่งผู้ถือหน่วยได้อนุมัติต่อสัญญาเช่าและเพิ่มทุนซึ่งคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จในครึ่งหลังของปี 2567 บริษัทฯ และ CPNREIT เชื่อว่าการดำเนินการดังกล่าวจะเป็นประโยชน์และช่วยสร้างผลตอบแทนที่ดีทั้งต่อผู้ถือหุ้นบริษัทฯ และผู้ถือหน่วยทรัสต์ CPNREIT โดยกระแสเงินสดสุทธิที่บริษัทฯ จะได้รับจะถูกนำไปเป็นเป็นหนึ่งในเงินทุน หมุนเวียน สำหรับสร้างการเติบโตตามแผนกลยุทธ์ของบริษัทฯ ต่อไป
ทั้งนี้ CPNREIT ได้รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 2566 เติบโตไปในทิศทางเดียวกับ CPN มีรายได้รวม 1,419 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16% จากปีก่อน จากการฟื้นตัวในทุกธุรกิจ รายได้จากศูนย์การค้าและอาคารสำนักงานเติบโต 15% อัตราการเช่าพื้นที่เฉลี่ยทรงตัวระดับสูงที่ 92.6% และจำนวนผู้มาใช้บริการศูนย์การค้าเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 16% จากปีก่อนหน้า และรายได้จากโรงแรมโต 16% โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากจำนวนผู้เข้าพักขาวไทยและขาวต่างชาติเพิ่มขึ้นเกินกว่าคาด พร้อมทั้งประกาศจ่ายประโยชน์ตอบแทนในอัตรา 0.2900 บาทต่อหน่วย คิดเป็นอัตราผลตอบแทน (yield) สูงประมาณ 11%
สำหรับทิศทางธุรกิจในระยะ 5 ปี (ปี 2566-2570) บริษัทฯ เดินหน้าลงทุนพัฒนาโครงการใหม่ทั้งที่ประกาศไปแล้วและยังไม่ได้ประกาศ ซึ่งมีทั้งโครงการอสังหาริมทรัพย์แบบผสม (Mixed-use Development) โครงการที่พักอาศัย รวมถึงแผนการปรับปรุงสินทรัพย์ที่มีอยู่ในปัจจุบันเพื่อเพิ่มมูลค่า รวมทั้งบริหารจัดการค่าใช้จ่ายและลดต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาสภาพคล่องทางการเงินเพื่อเตรียมพร้อมกับสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน รวมทั้งยังคงศึกษาโอกาสการลงทุนธุรกิจในรูปแบบอื่น และการลงทุนในต่างประเทศในแถบภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อาทิ มาเลเซีย และเวียดนาม รวมถึงศึกษาโอกาสการลงทุนในธุรกิจใหม่ที่มีศักยภาพการเติบโตสูงเพื่อขยายช่องทางในการสร้างรายได้ใหม่และสอดคล้องกับแผนการเติบโตตามเป้าหมายในอนาคตอย่างมั่นคงและยั่งยืน