หุ้น i2 ฮอต...! เปิดสูงกว่าจอง 0.42 บาท หรือ 15% ตอกย้ำนักลงทุนเชื่อมั่น ผู้บริหารย้ำพร้อมเติบโตพร้อมไปกับ S Curve ของประเทศ แย้มมีงานในมือกว่า 2 พันล้าน
หุ้น i2 หรือ บมจ.ไอ ทู เอ็นเตอร์ไพรซ์ หนึ่งในผู้นำธุรกิจด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร หุ้นน้องใหม่ตลาด mai สร้างกำไรให้นักลงทุนถ้วนหน้า หลังเข้าเคาะซื้อขายวันนี้ ( 8ส.ค.) เป็นวันแรก โดยเปิดตลาดที่ระดับ 3.12 บาท เพิ่มขึ้น 0.42 บาท หรือ 15 % จากราคาที่เปิดให้จองซื้อ 2.70 บาท และระหว่างชั่วโมงซื้อขายขึ้นไปแตะสูงสุดที่ 3.20 บาท ล่าสุดเวลา 10.30 น. ราคาอยู่ที่ระดับ 2.86 บาท
นายอธิพร ลิ่มเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไอ ทู เอ็นเตอร์ไพรซ์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ขอขอบคุณนักลงทุนที่ให้การต้อนรับ หุ้น i2 อย่างอบอุ่น ซึ่งราคาเปิดตลาดที่สูงกว่าราคาจอง สะท้อนความเชื่อมั่นของนักลงทุน ต่อบริษัทที่มีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง เนื่องจากเป็นบริษัทด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และจากความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านรวมถึงประสบการณ์การทำงานของทีมผู้บริหารที่ทำงานด้านเทคโนโลยีมาอย่างยาวนาน จะช่วยเป็นแรงขับเคลื่อนให้ธุรกิจมีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น และพร้อมจะเติบโตต่อไปในอนาคต และพร้อมจะสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน เพื่อผู้ถือหุ้นทุกคน
การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จะทำให้บริษัทมีฐานทุนที่แข็งแกร่งขึ้น เพื่อนำมาต่อยอดธุรกิจ เนื่องจาก i2 เป็นบริษัทที่อยู่ในธุรกิจด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาประเทศไทย โดยเฉพาะเมื่อเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว และการกลับมาของงานภาครัฐ ประกอบกับประเภทธุรกิจและความไว้วางใจของกลุ่มลูกค้า ส่งผลให้บริษัทมีโอกาสได้รับงานที่เข้าร่วมประมูลกับทางภาครัฐและหน่วยงานรัฐวิสาหกิจค่อนข้างสูง
นอกจากนี้ บริษัทฯยังมีพันธมิตรที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะบริษัท เอ็ม เอฟ อี ซี จำกัด (มหาชน) (MFEC) ซึ่งเป็นพาร์ทเนอร์ที่ดีต่อกันมายาวนาน และภายหลังการเสนอขายหุ้นไอพีโอครั้งนี้กลุ่ม MFEC จะยังคงรักษาสัดส่วนการถือหุ้นที่ 15% เท่าเดิม จากการให้บริษัท ซินเนอร์ยี่ กรุ๊ป เวนเจอร์ส จำกัด (SGV) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ MFEC ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 100 มีทุนจดทะเบียน 500 ล้านบาท เข้าซื้อหุ้นบนกระดานซื้อขายรายใหญ่ (Big lot) ในราคาไอพีโอในวันแรกของการเข้าซื้อขาย
ซึ่งล่าสุด เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2566 ที่ผ่านมา กิจการค้าร่วมไอทูวาร์ ซึ่งเป็นกิจการร่วมค้า ระหว่าง i2 กับ บริษัท วี เอ อาร์ เอส จำกัด ได้งานโครงการซื้อขายพร้อมติดตั้งระบบกักเก็บพลังงานไฟฟ้าด้วยแบตเตอรี่ (Battery Energy Storage System : BESS) บนพื้นที่เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี กับ บริษัท พีอีเอ เอ็นคอม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือแห่งแรกของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) มีฐานะเป็นรัฐวิสาหกิจ ซึ่ง BESS หรือ เทคโนโลยีระบบกักเก็บพลังงานด้วยแบตเตอรี่ จะช่วยลดความผันผวนในระบบไฟฟ้าที่มาจากพลังงานหมุนเวียนทั้งพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์ที่ผลิตไฟฟ้าได้เป็นบางช่วงเวลา แบตเตอรี่นี้จะทำหน้าที่กักเก็บสะสมพลังงานส่วนเกินจากระบบส่ง เพื่อนำไฟฟ้ามาจ่ายในช่วงเวลาที่ต้องการได้ โดยมีมูลค่าโครงการรวม 1,541 ล้านบาท ทำให้ปัจจุบันมีงานในมือ(Backlog) รวมกว่า 2 พันล้านบาท