บมจ.ซัคเซสมอร์ บีอิ้งค์ โชว์ผลงานไตรมาส 2/65 กวาดรายได้ 287 ล้าน โต 15% กำไร 56 ล้านบาท หนุนครึ่งปีแรกยอดขายพุ่ง 556.9 ล้านบาท กำไรแตะ 92.8 ล้านบาท ประกาศจ่ายปันผลระหว่างกาล 0.15 บาท ขึ้น XD วันที่ 22 ส.ค.นี้ ครึ่งปีหลังเดินหน้าออกสินค้าใหม่ต่อเนื่อง มั่นใจปีนี้ยอดขายโตตามเป้า 20%
นายแพทย์สิทธวีร์ เกียรติชวนันต์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซัคเซสมอร์ บีอิ้งค์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCM ผู้นำธุรกิจผลิตและจำหน่ายสินค้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์อุปโภคและบริโภค ลักษณะธุรกิจเครือข่ายแบบขายตรง เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล (งวด 1 ม.ค - 30 มิ.ย.65) ในอัตราหุ้นละ 0.15 บาท กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) ในวันที่ 22 ส.ค.65 และกำหนดจ่ายในวันที่ 5 ก.ย.65
สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/65 บริษัทฯ มีรายได้รวมจากการขายสินค้าและการบริการ 287.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 56.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้งวด 6 เดือนแรกของปี 65 มีรายได้รวมจากการขายสินค้าและการบริการที่ 556.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.2 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิที่ 92.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.8 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
สำหรับสาเหตุที่ยอดขายในประเทศเพิ่มขึ้น เป็นผลมาจากกลุ่มสินค้าเพื่อการเกษตร ที่ลูกค้าให้การยอมรับผลิตภัณฑ์มากขึ้น ประกอบกับภาวะราคาปุ๋ยที่ปรับตัวสูงขึ้น นอกจากนี้ บริษัทฯ สามารถจัดกิจกรรมทางการตลาดในรูปแบบออนไลน์ ที่มีประสิทธิภาพ และสามารถกระตุ้นการบริโภคของลูกค้าที่สนใจในสินค้าของบริษัทฯ ได้เป็นอย่างดี จึงส่งผลให้รายได้จากการขายเพิ่มขึ้น
ด้านนายนพกฤษฏิ์ นิธิเลิศวิจิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SCM ประกาศเดินหน้าตอกย้ำธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลัง โดยมองหา แผนขยายการต่อยอดผ่านธุรกิจเดิม ควบคู่การเดินเกมรุกบุกเจาะตลาดและขยายฐานลูกค้าในต่างประเทศมากขึ้น เชื่อว่าในช่วงครึ่งปีหลังของปี65 ภาพรวมการลงทุนทางเศรษฐกิจและกำลังซื้อมีการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง และเร็วๆนี้ บริษัทฯ เตรียมออกผลิตภัณฑ์ใหม่ และผลิตภัณฑ์ทดแทน อย่างต่อเนื่อง
“ครึ่งปีหลังบริษัทฯ มองว่า ปัจจัยดังกล่าวจะทำให้ตลาดในอุตสาหกรรมนี้เติบโตอย่างต่อเนื่อง และเป็นที่ต้องการของกลุ่มคนที่มองหาอิสระในการทำงาน และมีรายได้อย่างมั่นคง ซึ่งด้วย SCM เรามี Product ที่กระจายไปหลายกลุ่ม จึงเป็นการลดความเสี่ยงได้ดี เช่น ปุ๋ย และการขยายกลุ่มลูกค้าไปที่กลุ่มเพื่อสุขภาพ (Wellness) ที่เน้นการชะลอวัย (Anti-Aging) มากขึ้น รวมทั้งเตรียมเจาะตลาดไปยังประเทศฟิลลิปปินส์ รวมถึงกลยุทธ์ผนึกกำลังเหล่านักธุรกิจผู้นำซัคเซสมอร์ "
จากแผนกลยุทธ์ดังกล่าว ส่งผลให้บริษัทฯ ยังคงตอกย้ำอัตราเติบโตของรายได้ในปี 2565 ว่าจะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ 20% ภายใต้กลยุทธ์หลักๆ ประกอบด้วย 1.ขยายเพิ่มฐานสมาชิก ซึ่ง ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2565 บริษัทฯ มีจำนวนสมาชิกรวม 180,000 ราย 2.เจาะขยายตลาดเกษตรกรและตลาด Silver Age, 3.ขยายดีลเลอร์ต่างประเทศ และ 4.พัฒนายกระดับความแข็งแกร่งของทีมขยายเครือข่าย
ส่วนความคืบหน้า “ธุรกิจลิสซิ่ง” ภายใต้ชื่อ “บริษัท จัดให้ ลิสซิ่ง จำกัด” นั้น จะสามารถเริ่มดำเนินการในเชิงพาณิชย์ภายในเดือนสิงหาคมนี้ โดยในเฟส 1จะสามารถปล่อยสินเชื่อได้จริง ในช่วงเดือนกันยายน พร้อมตั้งเป้าหมายเบื้องต้นว่าภายในสิ้นปี 2565จะมีพอร์ต (Port) สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ ประมาณ 50 ล้านบาท