ดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป โชว์ผลงานปี 2565 คาดมีรายได้รวม และส่วนแบ่งกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โตกว่าร้อยละ 30 มองภาพปี 2566 ยังสดใส ตั้งเป้ารายได้รวม และส่วนแบ่งกำไรจากการดำเนินงานปกติ 5 ปี 1 แสนล้านบาท พร้อมอัดฉีดงบลงทุนมูลค่า 6.85 หมื่นล้านบาทภายใน 5 ปี
นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริษัท และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA เปิดเผยว่า ในปี 2565 เราได้เห็นการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และการกลับมาของนักลงทุนต่างชาติ มีการเซ็นสัญญาดีลใหญ่ๆ และโครงการที่สร้างมูลค่าเพิ่มทั้ง 4 กลุ่มธุรกิจของดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป ทำให้เราสามารถเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยบริษัทฯ คาดว่าจะมีรายได้รวม และส่วนแบ่งกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ด้วยอัตราการเติบโตกว่าร้อยละ 30
ทั้ง 4 กลุ่มธุรกิจของบริษัทฯ ที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด ประกอบด้วย
• ดับบลิวเอชเอ โลจิสติกส์ สิ้นปี 2565 บริษัทฯ มีพื้นที่คลังสินค้าภายใต้การถือครองและบริหาร ทั้งหมด 2,720,000 ตารางเมตร
• ดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล ดีเวลลอปเมนท์ ตลอดปี 2565 บริษัทฯ มียอดขายที่ดินรวม 1,860 ไร่ (1,754 ไร่ในประเทศไทย และ 106 ไร่ในประเทศเวียดนาม) สูงกว่ายอดขายที่ดินรวมในปี 2564 ที่ 855 ไร่ หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 117.5
• ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ ณ สิ้นปี 2565 บริษัทฯ มียอดจำหน่ายน้ำและบริหารน้ำรวม 145 ล้านลูกบาศก์เมตร และมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) ตามสัดส่วนการถือหุ้นจำนวน 683 เมกะวัตต์
• ดับบลิวเอชเอ ดิจิทัล เวช ในปี 2565 บริษัทฯ เดินหน้าทรานสฟอร์มองค์กรสู่ดิจิทัลผ่านโครงการต่าง ๆ กว่า 32 โครงการเพื่อก้าวสู่การเป็น Technology Company โดยได้เปิดตัว WHAbit แอปพลิเคชันด้านเฮลธ์แคร์ เพื่อยกระดับการเข้าถึงบริการด้านการดูแลสุขภาพ และการแพทย์ทางไกล โดยประสานความร่วมมือกับโรงพยาบาลสมิติเวช
สำหรับในปี 2566 เรามองอนาคตด้วยความมั่นใจในเชิงบวก และพร้อมจะก้าวเป็น Technology Company มากขึ้น โดยประกาศกลยุทธ์ธุรกิจไว้ 5 ข้อ
1. รักษาความเป็นที่หนึ่งในประเทศด้วยการครองอันดับหนึ่งในทุกธุรกิจขององค์กร
2. เร่งการขยายธุรกิจไปต่างประเทศ โดยเน้นที่ประเทศเวียดนาม
3. ใช้นวัตกรรมดิจิทัลและเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อยกระดับประสบการณ์ของลูกค้า
4. สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ ๆ โดยเน้นแนวคิดด้านความยั่งยืนเป็นหลัก
5. นำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้เพื่อพัฒนาไปสู่องค์กรที่เปี่ยมประสิทธิภาพ และมุ่งสู่การเป็น Technology Company
นอกจากนี้ ยังได้ริเริ่มภารกิจ “Mission to the Sun” ซึ่งประกอบด้วย 9 โครงการ ที่มีเป้าหมายเพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ และบริการใหม่ๆ รวมถึงเพื่อสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า และเสริมสร้างการพัฒนาองค์กร และบุคลากรของบริษัท โดยโครงการที่สำคัญ ได้แก่ Green Logistics, Digital Assets (Metaverse), Digital Health Tech, Circular เป็นต้น
สำหรับแผนธุรกิจปี 2566 ในทั้ง 4 กลุ่มธุรกิจ วางเป้าหมายไว้ ดังนี้
• ดับบลิวเอชเอ โลจิสติกส์ คาดว่าจะมีการส่งมอบโครงการใหม่และสัญญาใหม่ คิดเป็นพื้นที่รวม 200,000 ตารางเมตร (165,000 ตร.ม. ในประเทศไทยและ 35,000 ตร.ม. ในเวียดนาม) ให้แก่กลุ่มลูกค้า อาทิ ผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์ (3PL) ภาคสินค้าอุปโภคบริโภค และภาคการค้าปลีก โดยคาดว่าสินทรัพย์รวมภายใต้กรรมสิทธิ์และการบริหารจะสูงถึง 2,900,000 ตารางเมตร ทั้งนี้ ดับบลิวเอชเอ โลจิสติกส์ ยังได้ตั้งเป้าขายสินทรัพย์พื้นที่ 142,000 ตารางเมตรให้แก่ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่า ดับบลิวเอชเอ พรีเมี่ยม โกรท (WHART) คาดว่าจะมีมูลค่ารวมประมาณ 3,250 ล้านบาท
• ดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล ดีเวลลอปเมนท์ คาดว่ายอดขายที่ดินในปี 2566 ทั้งในประเทศไทย และเวียดนามจะใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา โดยตั้งเป้ายอดขายที่ดิน ไว้ที่ 1,750 ไร่
• ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ ในปี 2566 ปริมาณน้ำประปาและการจัดการน้ำเสียทั้งหมดคาดว่าจะสูงถึง 168 ล้านลูกบาศก์เมตร และตั้งเป้าสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) ที่ลงนามแล้ว 847 เมกะวัตต์
• ดับบลิวเอชเอ ดิจิทัล หลังจากเปิดตัวแอปพลิเคชัน WHAbit หรือโซลูชันสำหรับดิจิทัลเฮลธ์แคร์ ในปี 2565 ได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและกำหนดเปิดตัวเวอร์ชันที่สอง ในไตรมาสที่ 2 ปี 2566 ด้วยฟีเจอร์การแสดงข้อมูลด้วยภาพ (Data Visualization) และคำแนะนำส่วนบุคคล และวางแผนที่จะเปิดตัว Meta W ซึ่งเป็นเมตาเวิร์สด้านอุตสาหกรรมรายแรก ที่ได้รับการออกแบบ เพื่อยกระดับประสบการณ์ของลูกค้า สร้างโอกาสใหม่ ๆ และเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจของดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป ในยุคดิจิทัล
จากแนวโน้มธุรกิจที่ยังสดสใส ทำให้ ดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป วางงบลงทุน 6.85 หมื่นล้านบาทในอีก 5 ปีข้างหน้า (ปี 2566-2570) สำหรับ 4 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ โลจิสติกส์ จำนวน 1.7 หมื่นล้านบาท ดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล ดีเวลลอปเมนท์ จำนวน 2.9 หมื่นล้านบาท WHAUP จำนวน 1.85 หมื่นล้านบาท และดับบลิวเอชเอ ดิจิทัล จำนวน 4 พันล้านบาท
พร้อมทั้ง ตั้งเป้ารายได้รวม และส่วนแบ่งกำไรจากการดำเนินงานปกติ 5 ปี (2566-2570) ที่ 100,000 ล้านบาท โดยที่ยังคงรักษาอัตรากำไร EBITDA สูงกว่าร้อยละ 40 และอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (IBD) ต่ำกว่า 1.2 เท่า