แนวโน้มตลาดหุ้นสันนี้ (20 ต.ค.) บล.อินโนเวท์ เอกซ์ คาด SET ได้รับปัจจัยกดดันหลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี พุ่งขึ้นแตะระดับ 5% และสถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลางที่ยังไม่ยุติ กดดันดัชนีให้ปรับตัวลง โดยมีแนวรับถัดไปที่1412 และ 1406 จุด ตามลำดับ ด้านการฟื้นตัวถูกจำกัดที่แนวต้าน 1430 และ 1438 จุด
ประเด็นสำคัญ
• จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสัปดาห์ที่แล้วของสหรัฐลดลงทำจุดต่ำสุดใหม่ตั้งแต่ม.ค. ขณะที่ถ้อยแถลงของ ประธาน Fed ส่งสัญญาณคงดอกเบี้ยในการประชุมครั้งถัดไป แต่เปิดทางขึ้นดอกเบี้ยต่อในอนาคตหากจำเป็น
• ราคาน้ำมันปรับเพิ่มจากความตึงเครียดในตะวันออกกลางที่เพิ่มขึ้น รัฐบาลสหรัฐระบุโอกาสถูกโจมตีของโดรนจากอิรักและซีเรียมากขึ้น
• สหรัฐยกเว้นการคว่ำบาตรน้ำมัน ก๊าซฯ และทองคำส่งออกจากเวเนซูเอล่าเป็นการชั่วคราว โดยเชื่อว่าเวเนซูเอล่าพร้อมเดินหน้าเข้าสู่การเลือกตั้งอย่างโปร่งใส
• นายกฯ กล่าวในพิธีลงนามร่วมมือการท่องเที่ยวกับจีน ณ กรุงปักกิ่งว่า รัฐบาลไทยพิจารณายกเว้นวีซ่าถาวรให้นักท่องเที่ยวจีน หลังยกเว้นวีซ่าชั่วคราวแล้ว พร้อมขอนายกฯ จีนยกเว้นวีซ่าให้คนไทย นอกจากนี้ทางด้านผู้ว่าการ ททท. ระบุนายกฯ เตรียมยกเว้นวีซ่าชั่วคราวให้ชาวไต้หวันและอินเดีย พร้อมยกเว้นการกรอกใบ ตม.6 สำหรับชาวมาเลเซียที่เข้าไทยด่านสะเดา
• กระทรวงการคลัง เตรียมลดภาษีน้ำมันเบนซิน ระบุพร้อมทำตามนโยบายรัฐหากต้องการให้ลดภาษีน้ำมันเบนซินเพื่อลดภาระค่าครองชีพประชาชน พร้อมทั้งติดตามสถานการณ์สงครามอิสราเอล-ฮามาสใกล้ชิด
• รมช. คลังระบุขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปรายละเอียดเงื่อนไขและแหล่งที่มาของเงินที่จะนำมาแจกเงินดิจิทัลให้ประชาชนคนละ 1 หมื่นบาทได้ อาจส่งผลให้การประกาศแจกเงินดิจิทัลต้องเลื่อนจาก 1 ก.พ. 67 แต่จะพยายามทำให้แล้วเสร็จภายใน 1Q67
กลยุทธลงทุน ช่วงสั้นมอง SET มีโอกาสฟื้นตัวหรือรีบาวด์ได้ โดยแม้ตลาดอาจมีแรงกดดันจากภาวะสงครามที่เกิดขึ้นในอิสราเอล และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของสหรัฐที่เร่งตัวขึ้นอีก ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าหลังถ้อยแถลงประธาน FED ที่ตลาดมองจะยังคงดอกเบี้ยในการประชุมครั้งหน้า แต่ยังมีปัจจัยบวกจากความคาดหวังจีนเตรียมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงินรวม 1 ล้านล้านหยวน รวมถึงคาดยังมีแรงซื้อเก็งกำไรในหุ้นกลุ่มพลังงานเข้ามาช่วยหนุนดัชนี กลยุทธ์ลงทุนจึงมองเป็น “โอกาสซื้อลงทุน”
โฟกัสหุ้นวันนี้
AOT ได้ประโยชน์จากเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจท่องเที่ยวไทย เนื่องจากนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นจะทำให้กำไรเพิ่มขึ้น (+YoY, +QoQ) ใน 4QFY66-1QFY67 ขณะที่ช่วงสั้นมองราคาหุ้นปรับลงสะท้อนปัจจัยลบแล้ว อีกทั้งหากเทียบ YTD ราคาหุ้นยังตามหลังหุ้นอื่นๆ ในกลุ่มท่องเที่ยว
BEM คาดกำไร 3Q66 จะปรับตัวดีขึ้น QoQ และ YoY ตามโมเมนตัมปริมาณรถที่ใช้ทางด่วนและจำนวนผู้โดยสาร MRT ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ขณะที่ทั้งปี 2566 คาดมีกำไรสุทธิที่ 3.9 พันลบ. เติบโตเด่น 60.6%YoY