ปัจจัยลบ หวั่นวิตกโอมิครอน หลังยุโรปเริ่มกลับมาล็อกดาวน์ และกระแสเก็บภาษี ถล่มหุ้นไทย ทรุดหนัก 25.93 จุด ต่างชาติ-กองทุนพร้อมใจขายรวมกันเฉียด 5.8 พันล้าน 

ตลาดหุ้นไทยวันนี้เคลื่อนไหวในแดนลบตลอดทั้งวัน จากปัจจัยลบที่เข้ามากดดัน ทั้งปัจจัยภายในเรื่องการเก็บภาษีซื้อขายหุ้น และปัจจัยลบต่างประเทศ จากความวิตกกังวลสถานการณ์แพร่ระบาดไวรัสโควิดสายพันธุ์โอไมครอนในยุโรป ทำให้กลับมาใช้มาตรการคุมเข้ม และมีการทยอยล็อกดาวน์ในหลายประเทศ ส่งผลให้มีแรงขายเข้ามาจำนวนมาก นำโดยกลุ่มแบงก์ และพลังงาน ทำให้ระหว่างวันดัชนีไหลลงลึกไปแตะจุดต่ำสุดที่ 1,612.96 จุด ก่อนมามาปิดตลาดที่ 1,615.80 จุด ลดลง 25.93 จุด หรือ 1.58% มูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้น 82,357.88 ล้านบาท

โดยวันนี้ นักลงทุนต่างชาติ และกองทุน พร้อมใจกันเทขาย โดยกองทุนขายสุทธิ 2,965.51 ล้านบาท ต่างชาติเทขายสุทธิ 2,905.48 ล้านบาท ในขณะที่นักลงทุนในประเทศ รับมาเต็มๆ ซื้อสุทธิ 5,716.54 ล้านบาท และชัญชีโบรกเกอร์ ซื้อสุทธิ 154.45 ล้านบาท

สำหรับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายมากสุด 5 อันดับแรก ประกอบด้วย

EA มูลค่าการซื้อขาย 4,078.92 ล้านบาท  ปิดที่ 93.00 บาท ลดลง 0.25 บาท 
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 3,538.06 ล้านบาท ปิดที่ 136.50 บาท ลดลง 4.50 บาท 
SCB มูลค่าการซื้อขาย 2,307.45 ล้านบาท ปิดที่ 122.00 บาท ลดลง 3.00 บาท 
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,230.60 ล้านบาท ปิดที่ 58.75 บาท ลดลง 1.75 บาท 
JMT มูลค่าการซื้อขาย 2,028.21 ล้านบาท ปิดที่ 66.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท

สำหรับแนวโน้มวันพรุ่งนี้ (21 ธ.ค.) นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ดัชนีจะยังคงพักตัว ให้แนวรับ 1,607 -1,600 ส่วนแนวต้าน 1,625-1,630 จุด

โดยประเด็นที่ต้องติดตาม คือ การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่าจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มหรือไม่ และมาตรการสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้า
 

--------------------------------
ติดตามข่าวสาร ความรู้ทางการเงิน-การลงทุนได้ที่
Facebook : Clubhoon
Website : www.Clubhoon.com
Twitter : www.twitter.com/Clubhoon1