หุ้นกลุ่มชิ้นส่วนรถยนต์ อนาคตสดใส หลังยอดผลิตรถยนต์ในปี 2564 โตทะลุเป้า โบรกเกอร์ให้น้ำหนัก OVERWEIGHT ยก AH เป็น Top pick กลุ่ม ให้ราคาเป้าหมาย 34.40 บาท 

ในมุมมองของ บล.หยวนต้า ให้น้ำหนักการลงทุน “มากกว่าตลาด”  หรือ OVERWEIGHT เพราะมองว่าผลประกอบการของหุ้นในกลุ่มชิ้นส่วนรถยนต์ ยังคงเติบโตแข็งแกร่ง หลังยอดผลิตรถยนต์ของอุตสาหกรรมปี 2564 อยู่ที่ 1,685,705 คัน เพิ่มขึ้น 18% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ดีกว่าประมาณการที่ฝ่ายวิจัยคาดการณ์ไว้ที่ 1,650,000 คัน และประเมินว่าในปี 2565 ยอดผลิตรถยนต์จะโตเพิ่มขึ้น 7%

สัญญานการฟื้นตัวของยอดผลิตรถยนต์ ทำให้คาดการณ์ว่ากลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ ที่อยู่ภายใต้ประเมินของฝ่ายวิจัย ในปี 2564 จะมีกำไร 3,937 ล้านบาท เติบโต 86% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน และปี 2565 จะมีกำไร 4,428 ล้านบาท เติบโต 14% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน

ขณะที่ภาพระยะยาวกำลังก้าวสู่ทศวรรษแห่งยานยนต์ไฟฟ้า ที่รัฐบาลตั้งเป้าจะให้เป็น Product Champion ตัวใหม่ และสนับสนุนให้เป็นฐานการผลิตที่สำคัญของโลก แม้ภาพรวมจะมองว่าเป็น Business Disruption สำหรับผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์สันดาป แต่ก็พบว่ามีหลายบริษัทที่ไม่ถูกกระทบ และยังมีโอกาสในการเติบโต 

ในมุมมองบล.หยวนต้า แนะนำ “ซื้อ” AH ให้ราคามูลค่าพื้นฐานไว้ที่ 34.40 บาท โดยเลือกเป็น Top pick กลุ่มยานยนต์  ด้วยราคาหุ้นที่ซื้อขายด้วย P/E ที่ถูกกว่ากลุ่ม และหุ้นที่คาดว่าจะเติบโตไปตามเทรน EV ได้แก่ STANLY ให้ราคาเป้าหมาย 217 บาท และ IRC ราคาเป้าหมาย 20.90 บาท และ IHL ราคาเป้าหมาย 5.10 บาท

ด้านบล.เคทีบีเอส มอง SAT เป็นหุ้นที่โดดเด่นในกลุ่ม ให้ราคาเป้าหมาย 25 บาท คาดการณ์กำไรปกติปี 2564 ไว้ที่ 1,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 170% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน  ส่วนปี 2565 กำไรปกติจะเติบโตได้ต่อเนื่องเป็น 1,100 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ตามแนวโน้มยอดผลิตรถยนต์ที่เพิ่มขึ้น และจะได้ผลบวกจากคำสั่งซื้อใหม่