กลุ่มซีพี ประกาศกำไรปี 64 กำไรรวมกัน 3.82 หมื่นล้าน ลดลง 23% เหตุผลประทบโควิด ธุรกิจร้านสะดวกซื้อรายได้หด ธุรกิจสื่อสารเผชิญผลขาดทุน เผยยอดจ่านปันผลทั้งกลุ่ม 1.86 หมื่นล้าน

ภายหลังสิ้นสุดฤดูประกาศผลการดำเนินงานปี 2564 ของบริษัทจดทะเบียน ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พบว่า 4 บริษัท ในกลุ่มซีพีของเจ้าสัว "ธนินท์ เจียรวนนท์" กำไรรวมกันลดลงเหลือ 38,272.04 ล้านบาท หรือลดลง 23.05%เมื่อเทียบกับปีก่อน ที่มีกำไรรวมกัน 49,735.84 ล้านบาท เพราะต้องเผชิญวิกฤตโควิด-19 ทำให้ผู้บริโภคเปลี่ยนพฤติกรรม

1. บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF

ผู้ประกอบธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหาร มีกำไรสุทธิ 13,028.25 ล้านบาท ลดลง 49.93% ล้านบาท จากปีก่อนที่มีกำไร 26,022.38 ล้านบาท เนื่องจากประเทศไทยและประเทศเวียดนาม ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด-19 และมาตรการปิดเมืองเพื่อควบคุมการระบาดของโรค ซึ่งกระทบกำลังซื้อของผู้บริโภคและต้นทุนในการดำเนินงานของบริษัท เป็นผลทำให้รายได้จากการขายลดลง 13% จากปีก่อน เหลือจำนวน 512,704 ล้านบาท 

2. บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL 

ผู้ประกอบธุรกิจร้านสะดวกซื้อภายใต้เครื่องหมายการค้า 7-Eleven มีกำไรสุทธิ 12,985.48 ล้านบาท ลดลง 19.36% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไร 16,102.41 ล้านบาท จากพิษโควิด ทำให้ร้าน 7-Eleven ในพื้นที่สีแดง ถูกจำกัดเวลาเปิด จากเดิมที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมง ประกอบกับผู้บริโภคปรับเปลี่ยนพฤติกรรม

3. บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE

ผู้ประกอบกิจการโทรศัพท์มือถือ มีผลขาดทุนสุทธิ 1,428.41 ล้านบาท เทียบช่วงเดียวเทียบกับกำไร 1,048.39 ล้านบาท ในปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นกำไรที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวจากการขายหน่วยลงทุน DIF จำนวน 3.4 พันล้านบาทในปี 2563

4. บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) หรือ MAKRO

เป็นเพียงบริษัทเดียวที่กำไรเพิ่มขึ้น โดยมีกำไรสุทธิ 13,686.72 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 108.52% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไร 6,562.66 ล้านบาท ซึ่งกำไรที่เพิ่มขึ้นเป็นผลจากการรวมกิจการของโลตัสเข้ามา ซึ่งทำให้เกิดกำไรทางบัญชีจากการรวมธุรกิจ 6,714 ล้านบาท 

แม้กำไรโดยรวมกลุ่มซีพีจะลดลง แต่ก็มีการจ่ายปันผลสำหรับผลการดำเนินงานปี 2564 ทุกบริษัท ยอดรวมทั้งสิ้น 18,627.25 ล้านบาท โดย CPF ปันผล 0.72 บาท รวมเป็นเงิน 5,597.30 ล้านบาท, MAKRO ปันผล 0.72 บาท รวมเงินปันผล 5,306 ล้านบาท ,CPALL จ่ายปันผลหุ้นละ 0.6 บาท รวมเป็นเงิน 5,389.86 ล้านบาท และ TRUE แม้จะขาดทุน ก็ยังจ่ายปันผลหุ้นละ 0.07 บาท เป็นเงิน 2,334.09 ล้านบาท