Market

THAI เผยไตรมาส 4 มีกำไร 1.1 หมื่นลบ.  ส่งผลให้ทั้งปีขาดทุนลดลงเหลือ 252 ลบ. ดีกว่าแผนฟื้นฟูคาดไว้ ปี 66 ลุยแผนเดินหน้ารายได้
24 ก.พ. 2566

การบินไทย โชว์Q4/65 พลิกมีกำไรจากการดำเนินงาน 8.8 พันล้านบาท ดีต่อเนื่อง 2 ไตรมาส สอดรับทิศทางอุตสาหกรรมบินและท่องเที่ยวคืนชีพ และการปรับโครงสร้างธุรกิจและต้นทุนตามแผนฟื้นฟูกิจการ  หนุนกำไรสุทธิ 1.1 หมื่นล้านบาท ส่วนผลดำเนินงานบริษัทและบริษัทย่อยปี 65  ขาดทุนสุทธิ 252 ล้านบาท หรือหุ้นละ 0.12 บาท  อยู่ในระดับที่ดีกว่าประมาณการในแผนฟื้นฟูฯ  ระบุปี 66 เดินหน้าเพิ่มความถี่เที่ยวบินต่างประเทศ รองรับแนวโน้มการเดินทางที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ตลอดจนเร่งขยายขนาดฝูงบินจากปัจจุบัน 64 ลำ ให้เพียงพอต่อแผนเส้นทางบินและจำนวนเที่ยวบิน มุ่งหารายได้ตามแผนฯ

 

บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI ประกาศผลการดำเนินงานสำหรับปี 2565 สิ้นสุด 31 ธันวาคม 2565 โดยในไตรมาสที่ 4 ของปี บริษัทฯมีรายได้ไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว 36,902 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า 367% มีค่าใช้จ่ายไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว 28,020 ล้านบาท และมีกำไรจากการดำเนินงานไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว (EBIT) 8,882 ล้านบาท ดีกว่าปีก่อนหน้าซึ่งขาดทุน 2,579 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทฯมีกำไรจากการดำเนินงานติดต่อกัน 2 ไตรมาสตั้งแต่ไตรมาสที่ 3 ของปี 2565 เป็นต้นมา จากการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของอุตสาหกรรมการบินและการท่องเที่ยว การปรับโครงสร้างทางธุรกิจและต้นทุนตามแผนฟื้นฟูกิจการ โดยมีกำไรสุทธิ 11,154 ล้านบาท และมีกำไรก่อนหักต้นทุนทางการเงิน ภาษีเงินได้ ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) จากการดำเนินงาน 11,061 ล้านบาท ดีกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 660%

 

ในส่วนของผลการดำเนินงานสำหรับปี 2565 สิ้นสุด 31 ธันวาคม 2565 บริษัทฯมีรายได้ไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว 97,514 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 341% จากปี 2564  จากกิจกรรมขนส่งผู้โดยสาร สินค้าและไปรษณียภัณฑ์ที่เติบโตสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ มีค่าใช้จ่ายไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว 86,307 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 127% จากปี 2564 จากค่าใช้จ่ายผันแปรในส่วนน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานที่มีการปรับราคาขึ้นไปอยู่ในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และต้นทุนการบริการในกิจกรรมขนส่งด้วยปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้น โดยเป็น EBIT เป็นเงิน 11,207 ล้านบาท ดีกว่าปี 2564 ที่ขาดทุน 15,906 ล้านบาท และมี EBITDA จากการดำเนินงานหลังหักเงินสดจ่ายหนี้สินตามสัญญาเช่าเครื่องบิน 19,689 ล้านบาท ดีกว่าประมาณการตามแผนฟื้นฟูกิจการ ซึ่งเป็นหนึ่งในเงื่อนไขความสำเร็จของแผนฟื้นฟูกิจการที่ระบุว่าบริษัทฯต้องมี EBITDA จากการดำเนินงานหลังหักเงินสดจ่ายหนี้สินตามสัญญาเช่าเครื่องบินไม่น้อยกว่า 20,000 ล้านบาทในรอบ 12 เดือนก่อนหน้าที่จะรายงานผลถึงผลสำเร็จของการฟื้นฟูกิจการ 

 

จากผลการดำเนินงานของบริษัทย่อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริษัท ไทยสมายล์แอร์เวย์ จำกัด ซึ่งมีผลการดำเนินงานขาดทุน 4,248 ล้านบาท และรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียวสุทธิของบริษัทฯและบริษัทย่อยสุทธิที่เป็นรายได้ 1,187 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการกลับรายงานผลขาดทุนจากการด้อยค่าของสินทรัพย์ กำไรจากการขายสินทรัพย์ การขาดทุนจากการปรับโครงสร้างหนี้และขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศจากการตีมูลค่าทางบัญชีอันเป็นผลจากการอ่อนค่าของเงินบาท และต้นทุนทางการเงินตามมาตรฐานการรายงานทางการเงิน ฉบับที่ 9 (TFRS 9) 11,148 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทฯและบริษัทย่อยขาดทุนสุทธิ 252 ล้านบาท หรือคิดเป็นขาดทุนต่อหุ้น 0.12 บาท อย่างไรก็ตามผลการดำเนินงานดังกล่าวยังอยู่ในระดับที่ดีกว่าประมาณการในแผนฟื้นฟูกิจการ  ในขณะที่ปี 2564 มีกำไรต่อหุ้น 25.25 บาท 

 

ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2565 เปรียบเทียบกับวันที่ 31 ธันวาคม 2564 บริษัทฯและบริษัทย่อยมีสินทรัพย์รวม 198,178 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.9% มีหนี้สินรวม 269,202 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16% ส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทฯและบริษัทย่อยติดลบจำนวน 71,024 ล้านบาท ลดลง 227 ล้านบาท ในขณะที่ส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทฯติดลบ 63,493 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 3,165 ล้านบาท มีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดจำนวน 34,540 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29,025 ล้านบาท อันเป็นผลจากการดำเนินธุรกิจเป็นสำคัญ 
 

ในปี 2565 บริษัทฯและบริษัทย่อย มีปริมาณการผลิต (ASK) เพิ่มขึ้นจากปี 2564 ร้อยละ 243% และมีปริมาณการขนส่งผู้โดยสาร (RPK) เพิ่มขึ้นถึง 1,118% มีอัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) เฉลี่ย 67.9% สูงกว่าปี 2564 ซึ่งเฉลี่ยเท่ากับ 19.1% มีจำนวนผู้โดยสารที่ทำการขนส่งรวมทั้งสิ้น 9.01 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 449% มีปริมาณการผลิตด้านการขนส่งสินค้า (ADTK) สูงกว่าปีก่อน 249% ปริมาณการขนส่งสินค้า (RFTK) สูงกว่าปีก่อน 134% อัตราส่วนการขนส่งสินค้า (Freight Load Factor) เฉลี่ยเท่ากับ 63.1% 
 

ปัจจุบันบริษัทฯและบริษัทย่อยมีอากาศยานที่ใช้ทำการบินรวมทั้งสิ้น 64 ลำ และในตารางการบินฤดูร้อน ปี 2566 ให้บริการเที่ยวบินสู่ 39 เส้นทางบินทั่วโลก พร้อมเพิ่มความถี่เที่ยวบินในเส้นทางบินยุโรป ออสเตรเลีย เอเชีย อาทิ โตเกียว (นาริตะ และฮาเนดะ) โอซากา โซล ไทเป ฮ่องกง สิงคโปร์ กัลกัตตา มุมไบ เป็นต้น และกลับมาให้บริการเส้นทางบินเพิ่มเติมในเส้นทางประเทศจีนในช่วงต้นปีได้แก่ ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ คุนหมิง เฉิงตู กวางโจว เพื่อรองรับการเดินทางที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนเร่งขยายขนาดฝูงบินให้เพียงพอต่อแผนเส้นทางบินและจำนวนเที่ยวบิน เพื่อบรรลุเป้าหมายการหารายได้ตามแผนฟื้นฟูกิจการของบริษัทฯ นำไปสู่ความเจริญอย่างยั่งยืนในอนาคตต่อไป

 

ทั้งนี้ ผู้สอบบัญชีได้รับรองงบการเงินของบริษัทฯและบริษัทย่อยประจำปี 2565 โดยไม่มีเงื่อนไข
 

Copyrights © 2021 All Rights Reserved by Clubhoon.com