โบรกฯ แนะซื้อ ETC ให้เป้า 5.85 บาท ชี้เป็นตัวเต็งประมูลโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรม มีโอกาสชนะประมูล 5โครงการ ซึ่งจะหนุนให้กำไรสุทธิของ ETC มีโอกาสเติบโตอย่างมีนัยสำคัญในช่วง 3 ปีข้างหน้า ส่งผลต่อกำไรจากหลักร้อยล้าน สู่ระดับ 1 พันล้านบาท ในปี 2569
หุ้น ETC หรือ บริษัท เอิร์ธ เท็ค เอนไวรอนเมนท์ จำกัด (มหาชน) กลายเป็นหุ้นเนื้อหอม ที่นักวิเคราะห์ต่างแนะนำซื้อ หลังเข้าร่วมประมูลโรงไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงขยะอุตสาหกรรม เพราะถูกคาดหมายว่าจะเป็นตัวเต็งในการชนะประมูลอย่างน้อย 5 โครงการ และจะส่งผลต่อกำไรจากหลักร้อยล้าน สู่ระดับ 1 พันล้านบาท ในปี 2569
ในมุมมองของ บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) เพิ่งจะออกบทวิเคราะห์สดๆ ร้อนๆ ให้ความเห็นว่า ETC กำลังจะเข้าสู่โหมดการเติบโตแบบก้าวกระโดด เพราะคาดว่ามีโอกาสสูงจะชนะประมูลโรงไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงขยะอุตสาหกรรม อย่างน้อย 5 โครงการ จากที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายทั้ง 10 โครงการ ซึ่งคาดจะประกาศผลผู้ชนะโครงการช่วงเดือนมีนาคม ถึงต้นเดือนเมษายน
โดย ETC ถือเป็นตัวเต็งที่สำคัญ เนื่องจากผ่านเข้ารอบสุดท้ายมากถึง 10 โครงการ คิดเป็น 42% ของผู้เข้ารอบทั้งหมด สะท้อนโอกาสสูงที่จะได้รับการคัดเลือกในครั้งนี้ โดยเราประเมิน ETC มีความพร้อมสูงทั้ง 3 ด้าน คือ 1) มีประสบการณ์ที่โดดเด่นกว่าคู่แข่ง โดยมีโครงการปัจจุบันที่ดำเนินการเช่นนี้อยู่แล้วและสร้างผลตอบแทนที่ดี 2) มีความได้เปรียบด้านแหล่งเชื้อเพลิงสูงกว่าคู่แข่งอย่างมีนัยสำคัญเนื่องจาก บริษัทแม่ (บริษัท เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน จำกัด (มหาชน) หรือ BWG) เป็นผู้บริหารจัดการขยะอุตสาหกรรมรายใหญ่ของประเทศ ซึ่งมีการเตรียมความพร้อมเรื่องโรงงานผลิตแท่งพลังงานจากขยะอุตสาหกรรม (SRF) และ 3) มีการเตรียมความพร้อมทางการเงินแม้ในกรณี best case หากชนะทั้ง 10 โครงการ
จากความได้เปรียบของ ETC คาดว่าจะส่งผลให้โอกาสชนะประมูลครั้งนี้มีสูง โดยจากสมมติฐาน ประเมินโรงไฟฟ้าขยะ 1 โรงจะสร้างกำไรเฉลี่ยราว 176 ล้านบาทต่อปีในช่วง 8 ปีแรก ซึ่งในช่วงนี้จะได้รับ อัตรารับซื้อไฟฟ้าในรูปแบบ FiT พิเศษ (FiT premium) 0.70 บาท/ หน่วย และได้สิทธิประโยชน์ทางภาษีอีกด้วย
ดังนั้น หากพิจารณากรณีฐานที่ ETC ชนะประมูล 50% (5 โครงการ) จะพบว่ากำไรสุทธิจะเร่งตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากปี 2565 ที่ 131 ล้านบาท ขึ้นสู่ระดับ 1,020 ล้านบาท ในปี 2569 ซึ่งโรงไฟฟ้าทั้งหมดทำงานเต็มปี โดยเรานำมูลค่าดังกล่าวมาคิดลดด้วยอัตรา 5.3% อิงสเปรดกับหุ้นกู้เอกชนเรต BBB- อายุ3 ปีและใช้ระดับ PE ที่เหมาะสม 15 เท่า มี premium จากโรงไฟฟ้าพลังงานทางเลือกอื่นๆ ซึ่งได้ผลตอบแทนต่ำจะได้ราคาคาดหวังปี 2566 ที่ 5.85 บาท/ หุ้น
อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีปัจจัยเสี่ยง หากความล่าช้าของการประกาศผลประมูล และ ความล่าช้าของการก่อสร้างในส่วนโรงไฟฟ้าของ ETC หรือ โรงผลิต SRF ของ BWG จะส่งผลต่อประมาณการได้ ซึ่งผู้บริหาร ETC เชื่อว่าจะเปิดโครงการก่อสร้างได้พร้อมๆ กัน เนื่องจากโรงไฟฟ้าที่ประมูลครั้งนี้ ตั้งอยู่ในเขตนิคมอุตสาหกรรม
และมีลักษณะคล้ายกับโรงไฟฟ้าปัจจุบันของบริษัทอยู่แล้ว ทำให้ง่ายต่อการจัดการ