หุ้นไทยดิ่งหนัก ถึง 20 จุด ผวาโควิดพันธุ์ใหม่ "โอไมครอน" จากแอฟริกา ฉุดดัชนีหลุดแนวรับ 1,600 จุด ต่างชาติ - กองทุน เทขายหนัก รวมกัน 7 พันกว่าล้าน
ตลาดหุ้นไทยวันนี้ ยังคงปรับตัวลดลงอย่างรุนแรง ต่อเนื่องจากเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว โดยมีแรงขายกระหน่ำเข้าในอย่างหนักในลักษณะ Panic Sell ในหุ้นกลุ่มเปิดเมือง กลุ่มแบงก์ขนาดใหญ่ และพลังงาน จากความกังวลสถานการณ์โควิดทั่วโลกที่เกิดความเสี่ยงจากสายพันธุ์โอไมครอนจากแอฟริกา ถึงแม้ตลาดหุ้นทั่วโลกจะทยอยปรับตัวสูงขึ้นจากการคลายความกังวลแล้วก็ตาม
ทำให้ดัชนีทรุดลงหนัก โดยระหว่างวันลงไปแตะจุดต่ำสุดที่ 1,587.78 จุด ก่อนจะมาปิดที่ 1,589.69 จุด ลดลงไปถึง 20.92 จุด หรือ 1.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขายมากถึง 115,806.02 ล้านบาท
ขณะที่ มีแรงซื้อเงกำไรหุ้นที่คาดว่าจะได้ผลบวกจากการแพร่ระบาดโควิด โดยเฉพาะหุ้งถุงมือยาง STGT บวกขึ้นมา 1.75 บาท ปิดที่ 32.50 บาท ควงคู่บริษัทแม่ STA บวกขึ้นมา 0.75 บาท ปิดที่ 32 บาท หุ้นโรงพยาบาล BCH หรือ บริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน) บวกขึ้นมา 0.80 บาท ปิดที่ 21.70 บาท และที่ดีดตัวร้อนแรง คือ DELTA บวกขึ้นมา 24.00 บาท มาปิดที่ 442.00 บาท
โดยวันนี้ นักลงทุนต่างชาติ และนักลงทุนสถาบัน พร้อมใจกันเทขายออกมาจำนวน โดยนักลงทุนต่างชาติ ขายสุทธิกว่า 4,370.36 ล้านบาท นักลงทุนสถาบัน ขายสุทธิ 3,368.48 ล้านบาท และบัฐชีบริษัทหลักทรัพย์ ขายสุทธิ 1,070.54 ล้านบาท ในขณะที่ นักลงทุนในประเทศลุยซื้อสุทธิมากถึง 8,809.38 ล้านบาท
โดย 5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายมากสุด
1.KBANK ลดลงถึง 6 บาท มาปิดที่ 136.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 8,665.46 ล้านบาท
2.AOT ปรับตัวลดลง 3.25 บาท มาปิดที่ 59.75 บาท มูลค่าการซื้อขาย 5,895.14 ล้านบาท
3.SCB ปรับตัวลดลง 3.50 บาท มาปิดที่ 123.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 3,719.39 ล้านบาท
4.PTT ลดลง 1.00 บาท มาปิดที่ 36.00 บาท มูลค่าการซื้อขาย 2,771.91 ล้านบาท
5.BBL ลดลงถึง 4.50 บาท มาปิดที่ 117.00 บาท มูลค่าการซื้อขาย 2,674.28 ล้านบาท
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (30 พ.ย.) นักวิเคราะห์ บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) มองว่า หากดัชนีฯยืนได้แถว 1,690-1,580 จุด มีโอกาสเทคนิคเคิลรีบาวด์ได้ ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 1,600-1,620 จุด โดยปัจจัยที่ยังต้องติดตาม คือสถานการณ์ความคืบหน้าของโควิดสายพันธุ์"โอไมครอน" และการประชุมกลุ่มโอเปกพลัส ในวันที่ 2 ธ.ค.นี้ ซึ่งจะมีผลต่อหุ้นในกลุ่มพลังงาน รวมถึงการประชุม ครม. ว่าจะมีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจปลายปีนี้หรือไม่
-------------------------
ติดตามข่าวสาร ความรู้ทางการเงิน-การลงทุนได้ที่
Facebook : Clubhoon
Website : www.Clubhoon.com
Twitter : www.twitter.com/Clubhoon1