Market

คาด SET ปรับขึ้น ตอบรับเงินเฟ้อสหรัฐ ก.ค.ต่ำกว่าคาด ลดแรงกดดันเฟดเร่งขึ้นดบ. -ระวังแรงขายก่อนหยุดยาว 3 วัน
11 ส.ค. 2565

หุ้นไทยวันนี้ คาด SET ปรับตัวขึ้น รับข่าวตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐ ก.ค. เพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาด หวังเฟดจะชะลอการขึ้นดอกเบี้ยอาจเห็นขึ้น 0.5% เป็นบวกกับฟันด์โฟลทและยังมีแรงซื้อหุ้นดักงบฯไตรมาส 2  ฝั่งไทย กนง.ขึ้นดอกเบี้ยตามคาด 0.25%กดเงินบาทอ่อนตัวแรง เตือนระวังแรงขายลดเสี่ยงก่อนวันหยุดยาว 3 วัน

 

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ (11 ส.ค.) นักวิเคราะห์จากบล.กรุงศรี  ประเมิน SET ปรับตัวขึ้น 1,625 - 1,630 จุด ตอบรับตัวเลขวัดเงินเฟ้อ CPI สหรัฐเดือนก.ค.เพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดโดย +8.5% YoY จึงคาดหวังว่า FED จะชะลอการเร่งขึ้นดอกเบี้ย (โดย Fedwatch ให้น้ำหนักขึ้นดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุม 20-21 ก.ย.) ซึ่งเป็นบวกต่อกระแส Fund flow นอกจากนี้แรงซื้อหุ้นงบ Q2/65 เติบโตยังคงเป็นแรงหนุนดัชนีในช่วงนี้ อย่างไรก็ตามให้ระวังแรงขายลดความเสี่ยงก่อนหยุดยาว 3 วันที่จะกดให้ดัชนีสลับอ่อนตัวลง

 

กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy แนะนำหุ้น KBANK BBL SCB TTB  ได้อานิสงส์ดอกเบี้ยขาขึ้น  และ KCE HANA DELTA อานิสงส์หุ้นกลุ่ม Tech ฟื้นตัวขึ้น ส่วนกลุ่มหุ้นที่คาดว่างบฯไตรมาส 2 (2Q22) เติบโต CKP GFPT SPRC  CENTEL JMART JMT

 

หุ้นแนะนำวันนี้

 

-IVL (ซื้อ/เป้า 60 บาท) ประกาศงบ 2Q22 ดีเกินคาดมีกำไรสุทธิ 20,278 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 44%qoq และ 143%yoy สูงกว่าที่เราและตลาดคาดไว้ 45% และ 40% ตามลำดับ โดยมียอดขายที่สูงขึ้นและ Spread ของ MTBE ที่พุ่งแตะระดับ 888$/ton สูงสุดเป็นประวัติการณ์เป็นปัจจัยหนุน

 

-BANPU (ซื้อ/เป้า 17 บาท) มีกำไรสุทธิ 2Q22 ที่ 1.28 หมื่นล้านบาทเพิ่มขึ้น 25%จากไตรมาสก่อนหน้า (qoq) และ 865%จากช่วงเดียวกันปีก่อน (yoy) มากกว่าที่เราและ Consensus คาดไว้ 27% และ 37% ปัจจัยหนุนมาจากราคาขายถ่านหินเพิ่มสูงขึ้นทั้งในอินโดฯ และ ออสเตรเลียเช่นเดียวกับราคาก๊าซในสหรัฐปรับตัวขึ้นเช่นกัน

 

ประเด็นสำคัญวันนี้

 

(+) คลายกังวลเฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ยหลังเงินเฟ้อสหรัฐต่ำกว่าคาด : สหรัฐรายงานตัวเลขเงินเฟ้อทั่วไปเดือน ก.ค.ลดลงสู่ระดับ 8.5% จาก 9.1% ในเดือน มิ.ย. และต่ำกว่าที่ Consensus คาดไว้ที่ 8.7% ส่วนอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานทรงตัวที่ระดับ 5.9% แต่ต่ำกว่าที่ Consensus คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 6.1% ปัจจัยนี้ทำให้ความน่าจะเป็นที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 0.75% มีน้ำหนักเพียง 38.5% และมีโอกาสที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 0.5% เพิ่มขึ้นเป็น 61.5%

 

(+) ราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 1.43 ดอลลาร์ จากสต๊อกน้ำมันเบนซินในสหรัฐลดลง: ราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 1.43 ดอลลาร์ หรือ 1.6% ปิดที่ 91.93 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากสต็อกน้ำมันเบนซินของสหรัฐลดลง  5 ล้านบาร์เรลมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 500,000 บาร์เรล นับเป็นการลดลงมากที่สุดในรอบ 10 เดือน สะท้อนดีมานด์พลังงานในสหรัฐที่ค่อยๆ ฟื้นตัว

 

(+/-) แบงก์ชาติขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 4 ปี แต่เป็นที่รับรู้อยู่แล้ว: คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติ 6:1 ให้ปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% จาก 0.50% เป็น 0.75% โดยมีเป้าหมายเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ เราให้น้ำหนักเป็นกลางเนื่องจากตลาดรับรู้ไปแล้ว ประกอบกับมติ 6:1 สะท้อนให้เห็นแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยจะเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป (คาดปีนี้ขึ้นดอกเบี้ยอีก 2 ครั้ง ครั้งละ 0.25%)

Copyrights © 2021 All Rights Reserved by Clubhoon.com