บมจ. เกียรติธนาขนส่ง เซ็นสัญญากับ PTTOR รับงานขนส่งก๊าซ LNG เป็นเวลา 5 ปี มูลค่ากว่า 270 ล้านบาท พร้อมเตรียมงบลงทุนกว่า 140 ล้านบาท เพื่อต่อรถบรรทุกใหม่รับการเติบโต และเตรียมเพิ่มจำนวนรถบรรทุกระหว่างสัญญาอีกกว่า 20% ซึ่งจะนับเป็นฟลีทขนส่ง LNG ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ ทยอยรับรู้รายได้ตุลาคม 2565

นางสาวมินตรา มนต์เสรีนุสรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เกียรติธนาขนส่ง จำกัด (มหาชน) หรือ KIAT ผู้นำในการให้บริการด้านการขนส่งวัตถุอันตรายและสินค้าพิเศษ ที่เน้นความปลอดภัยและความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง เปิดเผยว่า ล่าสุด บริษัทฯ ได้ลงนามในสัญญางานขนส่งก๊าซธรรมชาติเหลว หรือ LNG (Liquefied Natural Gas) สำหรับภาคอุตสาหกรรม ร่วมกับ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน)  หรือ PTTOR ซึ่งเป็นงานขนส่ง LNG จาก PTT LNG Terminal ไปยังลูกค้าภาคอุตสาหกรรมทั่วประเทศ เป็นระยะเวลา 5 ปี มูลค่ากว่า 270 ล้านบาท  โดยจะเริ่มการขนส่งดังกล่าวในเดือนตุลาคม 2556 ซึ่งจะนับเป็นฟลีทขนส่ง LNG ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศในขณะนี้

“จากการเซ็นสัญญาร่วมกับ PTTOR ซึ่งเป็นองค์กรชั้นนำที่ให้ความสำคัญด้านความปลอดภัยสูงสุด ต้องใช้รถขนส่งที่ออกแบบและสร้างตามมาตรฐานสากล ผ่านการตรวจสอบจากกรมธุรกิจพลังงานและกรมการขนส่งทางบก รวมทั้งใช้พนักงานขับรถบรรทุกขนส่งที่มีใบอนุญาตขับขี่ประเภทที่ 4 และการอบรมด้านความปลอดภัยเฉพาะทาง ทำให้เกียรติธนาขนส่งได้รับความไว้วางใจอย่างต่อเนื่อง โดย

“ไประเทศไทยได้มีการนำเข้า LNG มาใช้ตั้งแต่ปี 2554 โดยข้อมูลจาก PTT Trading พบว่าปัจจุบันมีปริมาณการนำเข้า LNG ถึงประมาณ 6 ล้านตันต่อปี และยังคงมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เราได้เตรียมงบลงทุนกว่า 140 ล้านบาท เพื่อต่อรถบรรทุกใหม่รับการเติบโต และเตรียมเพิ่มจำนวนรถบรรทุกระหว่างสัญญาอีกกว่า 20% ซึ่งจะนับเป็นฟลีทขนส่ง LNG ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ ทยอยรับรู้รายได้ตุลาคม 2565 นอกจากการขนส่ง LNG แล้วเรายังมีงานขนส่งน้ำมันดิบและน้ำมันเตาให้กับบริษัทในเครือปตท.อีกเช่นกัน”  นางสาวมินตรา กล่าว

อนึ่ง ก๊าซธรรมชาติเหลว หรือ LNG นับเป็นหนึ่งในพลังงานทางเลือกที่เป็นพลังงานสะอาดและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ปัจจุบันได้รับความนิยมในการใช้งานเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยนำไปใช้ประโยชน์ด้านพลังงาน เช่น ใช้ในการผลิตไฟฟ้า เป็นเชื้อเพลิงในโรงงานอุตสาหกรรม รวมทั้งเป็นเชื้อเพลิงในยานพาหนะ ซึ่งตลาดโลกต่างให้การยอมรับว่า LNG จะเป็นอีกทางเลือกใหม่ของพลังงานสำหรับภาคอุตสาหกรรมและการขนส่งของประเทศ สำหรับในประเทศไทยสัดส่วนการใช้งานจากกระทรวงพลังงานล่าสุดก๊าซธรรมชาติถูกนำไปเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้ามากที่สุด กว่า 57% และรองลงมาคือนำไปแยกส่วนประกอบเพื่อใช้เป็นวัตถุดิบตั้งต้นของปิโตรเคมี 23% นอกจากนี้ยังนำไปใช้เป็นเชื้อเพลิงในโรงงานอุตสาหกรรม และภาคขนส่ง (NGV) 17% และ 3% ตามลำดับ