บ้านปู ปี 65 ชูแผนดิจิทัลเร่งทรานส์ฟอร์มธุรกิจ ตั้งเป้ารายได้โตต่อเนื่องปี 64 จากยอดขายถ่านหินและก๊าซ รับอานิสงส์ราคาปรับตัวสูง เตรียมงบลงทุน 1.3 พันล้านดอลลาร์ หรือ 4.3 หมื่นล้านบาท เน้นลงทุนพลังงานไฟฟ้า 700 ล้านดอลลาร์ รองรับแผนซื้อโรงไฟฟ้าหลายโครงการ และลงทุนธุรกิจก๊าซ 500 ล้านดอลล์ เจรจาซื้อแหล่งก๊าซในสหรัฐ
นางสมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านพลังงานที่หลากหลายในระดับนานาชาติ เปิดเผยว่า ทิศทางปี 2565 นี้ รายได้ยังเติบโตต่อเนื่องจากปี 2564 ที่มีรายได้รวม 134,990 ล้านบาท ซึ่งจะมาจาก 2 ธุรกิจหลัก ได้แก่ธุรกิจถ่านหินคาดว่าจะทำยอดขายถ่านหินได้จำนวน 42-43 ล้านตันในปีนี้ ท่ามกลางราคาถ่านหินมีความผันผวน โดยเฉพาะในช่วงที่เกิดสงครามรัสเซีย-ยูเครน ก็หวังว่าจะทำราคาขายได้ที่ระดับสูงสุด ส่วนธุรกิจก๊าซธรรมชาติคาดยอดขายใกล้เคียงปีที่แล้วจำนวน 2.46 แสนล้านลูกบาศก์ฟุต หรือ 700 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน
ในส่วนของแผนลงทุน ปีนี้ตั้งงบลงทุนจำนวน 1,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 43,000 ล้านบาท) แบ่งเป็นลงทุนธุรกิจก๊าซฯ 500 ล้านดอลลาร์ โดยขณะนี้กำลังเรจาเข้าซื้อแหล่งก๊าซในสหรัฐ ธุรกิจพลังงานไฟฟ้า 700 ล้านดอลลาร์ฯ (แยกเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน 400 ล้านดอลลาร์ฯ และโรงไฟฟ้าพลังงานก๊าซ 300 ล้านดอลลาร์) และลงทุนเทคโนโลยีพลังงานอีก 100 ล้านดอลลาร์
"แผนการเข้าซื้อกิจการโรงไฟฟ้ามีหลายโครงการ คาดว่าปีนี้จะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้นใกล้เคียงกับปีก่อนที่มีจำนวนเพิ่มขึ้น 841 เมกะวัตต์ และยังเตรียมเข้าลงทุนเหมืองแร่อื่นที่เกี่ยวข้องกับพลังงาน อย่างนิกเกิล ลิเธียม อลูมิเนียมในออสเตรเลีย และอินโดนีเซีย"นางสมฤดีกล่าว
ทั้งนี้ ปี 2564 บ้านปูสามารถสร้างกระแสเงินสดและผลกำไรได้อย่างแข็งแกร่ง มีรายได้จากการขายรวม 4,124 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 131,861 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 1,841 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 58,870 ล้านบาท) คิดเป็นร้อยละ 81 โดยมีกำไรก่อนหักภาษี ดอกเบี้ย ค่าเสื่อมและค่าใช้จ่ายตัดจ่าย (EBITDA) รวม 1,778 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 56,846 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นร้อยละ 216 จากปีก่อนหน้า และมีกำไรสุทธิ 304 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 9,719 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าร้อยละ 643 อันเป็นผลจากการฟื้นตัวของภาคเศรษฐกิจ ส่งผลให้ราคาพลังงานทั่วโลกที่ปรับตัวสูงขึ้นจากความต้องการใช้พลังงาน ทั้งก๊าซธรรมชาติและถ่านหิน ตลอดจนแหล่งรายได้ใหม่ ๆ จากการเร่งขยายพอร์ตพลังงานที่สะอาดขึ้นในประเทศยุทธศาสตร์สำคัญต่าง ๆ อย่างก้าวกระโดด
“ทิศทางต่อจากนี้ บ้านปูยังคงเดินหน้า Transformation ภายใต้กลยุทธ์ Greener & Smarter และการยึดมั่นในหลัก ESG เรามั่นใจว่า ประสบการณ์และการเรียนรู้จากช่วงเวลาแห่งความท้าทายตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ทำให้บ้านปูสามารถเพิ่มอัตราเร่งกระบวนการ Digital Transformation ซึ่งนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน ควบคู่ไปกับการขยายพอร์ตฟอลิโอพลังงานที่สะอาดขึ้นได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เพื่อการบรรลุเป้าหมาย EBITDA จากธุรกิจพลังงานที่สะอาดและธุรกิจเทคโนโลยีพลังงานขึ้นมากกว่า 50% และเป้าหมายกำลังการผลิตไฟฟ้า 6,100 เมกะวัตต์ ภายในปี 2568” นางสมฤดี กล่าวปิดท้าย