หุ้นไทยวันนี้ กรุงศรีฯมองเกมการเมืองพักนายกฯ "บิ๊กตู่" กระทบตลาดหุ้นค่อนข้างน้อย คาดราคาน้ำมันดีดตัว หนุนแรงซื้อหุ้นพลังงาน พยุงตลาด บวกกับต่างชาติยังซื้อต่อเนื่อง ตลาดยังจับจ้องเฟดส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยและการทำ QT ต่อเนื่องในปลายสัปดาห์นี้ แนะเล่นหุ้นธีมพลังงานรับน้ำมันขึ้น แบงก์รับดอกเบี้ยขึ้น และหุ้นรับผลบวกเปิดเมือง ชูหุ้นเด่น PTTEP GFPT
แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ (25 ส.ค.) นักวิเคราะห์ประเมิน SET แกว่งตัว 1,620 - 1,640 จุด ดัชนียังคงได้แรงหนุนจากกลุ่มพลังงานตามราคาน้ำมันดิบที่ดีดตัวขึ้นตอบรับสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลงและความไม่แน่นอนข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน นอกจากนี้ยังได้แรงบวกจาก Fund flow ต่างชาติที่ไหลเข้าต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามความกังวลเศรษฐกิจโลกถดถอยจากการเร่งขึ้นดอกเบี้ยของธ.กลางทั่วโลกเพื่อสกัดเงินเฟ้อจะกดดันให้ดัชนีสลับอ่อนตัวลง
ในช่วงวันที่ 25-27 ส.ค.การประชุมประจำปีเฟด ติดตามภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ ทิศทางอัตราดอกเบี้ย การปรับลดขนาดงบดุล (QT)
กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy แนะนำหุ้น PTTEP TOP IVL SPRC BANPU รับอานิสงส์ราคาน้ำมันดิบฟื้นตัวขึ้นและถ่านหินทรงตัวระดับสูง ส่วน KBANK BBL SCB KTB TTB BLA อานิสงส์ดอกเบี้ยขาขึ้น และ BDMS BH AOT AAV BA CENTEL ERW MINT CPN AMATA SPA อานิสงส์การเปิดเมือง
หุ้นแนะนำวันนี้
-PTTEP (ซื้อ/ราคาเป้าหมาย 185 บาท) ได้ Sentiment บวกราคาน้ำมันดิบพุ่งแรง ส่วนแนวโน้มไตรมาส 3 (3Q22) คาดกำไรยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากการเพิ่มขึ้นของปริมาณและราคาขาย ขณะที่ Hedging loss คาดว่าจะลดลงและอาจพลิกเป็นบวกได้หากราคาน้ำมันดิบ Brent ต่ำกว่าระดับ 102 ดอลลาร์/บาร์เรล
-GFPT (ซื้อ/ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 19 บาท) ราคาไก่ยังปรับตัวขึ้นและทรงตัวอยู่ในระดับสูง แนวโน้มงบ 3Q22 ขยายตัวต่อเนื่องจาก High season และแนวโน้มของต้นทุนวัตถุดิบที่ทยอยลดลง
ประเด็นสำคัญวันนี้
(-) ศาลฯ รับคำร้องปมนายกฯ 8 ปี และสั่งให้นายกฯ หยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว: วานนี้ที่ประชุมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีมติ 5 ต่อ 4 เสียง ให้รับคำร้องเพื่อวินิจฉัยเกี่ยวกับวาระการดำรงตำแหน่งครบ 8 ปีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พร้อมสั่งให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่เป็นการชั่วคราว จนกว่าจะมีคำวินิจฉัย เรามองผลกระทบต่อการบริหารประเทศและ Sentiment การลงทุนในกรอบจำกัด เนื่องจากรัฐบาลสามารถแต่งตั้งรองนายก ขึ้นมาทำหน้าที่รักษาการแทนได้
(-) ตลาดให้น้ำหนักเฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.75% เพิ่มมากขึ้น: จากการใช้เครื่องมือที่เรียกว่า Fed watch tool พบว่าความน่าจะเป็นที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมเดือน ก.ย. ค่อยๆ สูงขึ้นโดยล่าสุดมีความน่าจะเป็นที่ 60.5% เพิ่มขึ้นจาก 53% ในวันก่อนหน้า ในทางตรงกันข้ามความน่าจะเป็นที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 0.5% ก็ค่อยๆ ลดลง สะท้อนมุมมองของตลาดที่มีก่อนเฟดประชุมประจำปีว่าเฟดจะยังเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อไป
(+) น้ำมันดิบปรับขึ้นต่อเนื่องตอบรับตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลง: ราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 1.15 ดอลลาร์ (+1.2%) ปิดที่ระดับ 94.89 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจาก EIA รายงานสต๊อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐลดลง 3.3 ล้านบาร์เรลมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 9.3 แสนบาร์เรล ส่วนการเจรจานิวเคลียร์อิหร่านยังล่าช้าเนื่องจากสหรัฐยังไม่พิจารณาข้อเสนอของอิหร่าน