Market

คาดSETอ่อนตัวหาแนวรับ 1,640-1,650 จุด  กังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.25% อย่างน้อย 2 ครั้ง
15 ก.พ. 2566

คาดหุ้นไทยอ่อนตัวลงหาแนวรับ 1,640 - 1,650 จุด หลังตัวเลขเงินเฟ้อ CPI สหรัฐเดือน ม.ค. สูงกว่าคาด กังวลเฟดขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% อีกอย่างน้อย 2 ครั้ง แนะเลือกซื้อเป็นรายตัวหุ้นงบดี เชียร์  BCH-ROJNA

 

บล.กรุงศรี ประเมินแนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้ คาดว่าดัชนีจะอ่อนตัวลงในแนวรับ 1,640 - 1,650 จุด ตามความกังวล เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% อีกอย่างน้อย 2 ครั้งในการประชุมเดือนมี.ค.และพ.ค. หลังตัวเลขเงินเฟ้อ CPI สหรัฐเดือน ม.ค. สูงกว่าคาด โดย เพิ่มขึ้น 6.4%เมื่อเทียบกับปีก่อน 

 

นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบที่อ่อนตัวลงจากข่าวสหรัฐเตรียมระบายน้ำมันจากคลังสำรองรวมถึง เงินทุนต่างชาติที่ยังขายต่อเนื่อง ยังคงกดดันภาวะตลาด จึงเน้นลงทุนแบบ เลือกซื้อเป็นรายตัวต่อไป

 

กลยุทธ์การลงทุน แนะเลือกซื้อเป็นรายตัวในหุ้นที่คาดว่างบจะออกมาดี เช่น BEM BTS CENTEL ERW AAV BA CPALL CRC CBG PLANB VGI SIRI AP ORI SNNP SPA AU SISB HUMAN BE8 และหุ้นที่ได้รับอานิสงส์ราคาพลังงานอ่อนตัวลง เช่น  GPSC BGRIM GULF ROJNA SCGP SCC 

 

หุ้นแนะนำวันนี้

 

BCH (ราคาเป้าหมาย 26 บาท) คาดผลประกอบการจะพลิกทำกำไรตั้งแต่ ไตรมาส 4/65 เบื้องต้นคาดมีกำไรสุทธิไตรมาส 4/65 ที่ 406 ล้านบาท เทียบกับไตรมาส 3/65 ที่ขาดทุน 403 ล้านบาท และยังมี Upside จากการเพิ่มค่ารักษาประกันสังคมซึ่งปรับราคาทุกๆ 2 ปี (ครบกำหนดปีที่ผ่านมารอแค่ปรับราคา)

 

ROJNA (ราคาเป้าหมาย 7 บาท) คาดผลประกอบการพลิกมีกำไรปกติที่ 109 ล้านบาทในไตรมาส 4/65 จากที่ขาดทุน 422 ล้านบาท ในไตรมาส 3/65 จากยอดขายที่ดินแลมียอดโอนที่เร่งตัวขึ้น ขณะที่ธุรกิจโรงไฟฟ้าได้ประโยชน์จากราคาต้นทุนพลังงานลดลง ขณะที่ราคาขายไฟฟ้าปรับขึ้นตามค่า Ft

ประเด็นสำคัญวันนี้

  (-) เงินเฟ้อสหรัฐลดลงต่อเนื่องในเดือน ม.ค. แต่โดยรวมยังสูงกว่าที่ตลาดคาดไว้: โดย Headline CPI ลดลงสู่ระดับ 6.4% จาก 6.5% แต่สูงกว่าที่ Consensus คาดไว้ที่ 6.2% เช่นเดียวกับ Core CPI ลดลงสู่ระดับ 5.6% จาก 5.7% ในเดือน ม.ค. สูงกว่าที่ Consensus คาดไว้ที่ 5.5% 

  (-) ครม. เห็นชอบเก็บค่าเหยียบแผ่นดินคาดเริ่ม 1 มิ.ย. นี้: ครม. เห็นชอบให้เก็บค่าธรรมเนียมการท่องเที่ยวภายในประเทศของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ หรือ ค่าเหยียบแผ่นดิน โดยช่องทางทางอากาศ 300 บาทต่อคน ช่องทางทางบกและน้ำ 150 บาทต่อคนต่อ เป็น Sentiment ลบต่อกลุ่มท่องเที่ยวแต่คาดผลกระทบจำกัดเนื่องจากรายจ่าย 350 บาท ไม่มีนัยสำคัญต่อการท่องเที่ยว

  (-) รัฐเสนอลดค่าการตลาดกลุ่มน้ำมันเบนซินเป็นลบกับกลุ่มธุรกิจปั๊มน้ำมัน: กบง. มีมติให้ลดค่าการตลาดน้ำมันดีเซลและเบนซินให้มีค่าเฉลี่ยที่ 2 บาทต่อลิตรจากปัจจุบันมีค่าการตลาดเฉลี่ยที่ 3.2 บาทต่อลิตร การลดค่าการตลาดดังกล่าวจะส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันเบนซินลดลง 0.90-1.20 บาทต่อลิตร เป็นลบโดยตรงต่อผู้ประกอบการค้าปลีกน้ำมัน นำโดย OR PTG ESSO BCP และ SUSCO
 

Copyrights © 2021 All Rights Reserved by Clubhoon.com