Market

ผมเป็นแพะ  คำสารภาพ `เกรียงไกร ศิระวณิชการ`
14 มี.ค. 2565

"เกรียงไกร" ยันไม่ได้เป็นต้นเหตุทุบหุ้น A5  ขายแค่ 3% ของจำนวน 1,024 ล้านหุ้นที่ซื้อขายวันแรก รับถูกจับให้เป็นแพะรับบาปของคนบางกลุ่ม แจงเหตุผลลาออกไม่ได้ถูกกดดัน แค่ป้องกันความขัดแย้งทางผลประโยชน์ หลังเข้าถือหุ้นมาสเตอร์คูล 

 

นายเกรียงไกร ศิระวณิชการ อดีตประธานกรรมการ บริษัท แอสเซท ไฟว์ กรุ๊ป จํากัด (มหาชน) และในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 2 ได้ออกมาชี้แจงข้อเท็จจริง หลังตกเป็นจำเลยสังคม ถูกวิพากษ์วิจารณ์ ว่าเป็นต้นเหตุทำให้ราคาหุ้น A5 ปรับตัวลดลงอย่างรุนแรง กรณีขายหุ้น A5 จำนวน 35 ล้านหุ้น ในวันแรกที่กลับมาซื้อได้อีกครั้งเมื่อ 7 มี.ค.ที่ผ่านมา

 

นายเกรียงไกร ยืนยัน ว่า ไม่ได้เป็นต้นเหตุที่ทำให้ราคาหุ้น A5 ปรับตัวลดลงอย่างหนัก แต่ตกเป็นเครื่องมือของกลุ่มบุลคลบางกลุ่มโยนความผิดให้ หลังจากราคาหุ้นที่ปรับตัวลดลง ซึ่งหุ้นที่ขายออกไปเป็นเพียงแค่ 35 ล้านหุ้น และเป็นเพียงส่วนน้อยคิดเป็นเพียง 3% ของจำนวนหุ้นที่ซื้อขายในวันแรก คือ 1,024 ล้านหุ้น จึงไม่ได้เป็นสาเหตุให้ราคาหุ้นปรับตัวลดลง และปัจจุบันตน ก็ยังถือหุ้น A 5 อยู่ 22% และจะไม่ขายออกมาผ่านตลาดหลักทรัพย์อีก เพื่อความสบายใจ แต่หากในอนาคตมีผู้สนใจก็จะพิจารณาซื้อขายโดยตรง

 

สำหรับเหตุผลที่ขาย เนื่องจาก ราคาหุ้น A5 ในวันแรกสูงกว่าปัจจัยพื้นฐาน เมื่อเทียบกับหุ้นในกลุ่มเดียวกัน โดยดูจาก P/E, P/BV และ Dividend และการขายหุ้นก็เป็นสิทธิ โดยชอบธรรมของผู้ถือหุ้นทุกราย ไม่มีกฎเกณฑ์ข้อใดห้ามการขายหุ้นของกรรมการบริษัท และยืนยันว่าไม่ได้เกี่ยวข้อง และไม่รู้จักกับกลุ่มคนในตลาดหุ้นที่จะเข้ามาทำราคาแต่อย่างใด

 

มีคนพยายามทำราคาแล้วหุ้นไม่ขึ้น ก็เลยหาคนรับผิดชอบ ทำให้ผมต้องออกมาชี้แจงด้วยตัวเอง ยืนยันว่า ผมไม่เคยเจอ หรือรู้จักคนที่ในวงการก็พูดถึงในทางที่ไม่ดี ผมเห็นจากการทำโฆษณาประชาสัมพันธ์ ทั้งการปล่อยข่าว นำบทวิเคราะห์ มาชี้นำราคาเป้าหมายผ่านกรุ๊ปไลน์ต่างๆ ซึ่งผมไม่สบายใจในเรื่องนี้ และพร้อมจะให้ข้อมูลกับก.ล.ต.จากข่าวที่ปรากฎออกมา ” นายเกรียงไกร กล่าว

 

ส่วนเหตุผลการลาออกจากตำแหน่งประธานบอร์ด ได้ชี้แจงต่อคณะกรรมการบริษัท และแสดงเจตนาอย่างชัดเจนก่อนหุ้น A5 จะกลับมาซื้อขาย หลังจากที่ได้เข้าถือหุ้นใหญ่ใน บมจ. มาสเตอร์คูล อินเตอร์เนชั่นแนล  หรือ KOOL เมื่อเดือนมกราคม 65 เพราะเกรงว่าอาจมีความขัดแย้งในเรื่องผลประโยชน์ของทั้ง 2 บริษัท จึงแจ้งลาออก ยืนยันว่าไม่มีใครมากดดัน และไม่ได้ขัดแย้งกับกลุ่มผู้บริหาร A 5 แต่อย่างใด 


 
อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า A5 เป็นบริษัทที่ดี มีฐานะการเงินแข็งแกร่ง มีทิศทางการเติบโตที่ชัดเจน คณะผู้บริหารเป็นคนรุ่นใหม่ที่มองประโยชน์ของบริษัทเป็นสำคัญ ในอนาคตบริษัทมีโอกาสจะเติบโตกว่านี้อีกมาก

 

ขณะเดียวกัน นายศุภโชค ปัญจทรัพย์ กรรมการผู้จัดการ ได้ชี้แจงผ่านตลาดหลักทรัพย์ว่า นายเกรียงไกร ไม่ได้มีความขัดแย้งใดๆ ภายในคณะกรรมการบริษัท เหตุผลที่นายเกรียงไกรแสดงความประสงค์ลาออก เนื่องจากมีภารกิจอื่น และเพื่อป้องกันปัญหาความขัดแย้งทางผลประโยชน์ที่อาจจะเกิดขึ้นระหว่างบริษัทฯ และบริษัทอื่น ๆ ที่นายเกรียงไกร เป็นกรรมการและผู้ถือหุ้นใหญ่ เนื่องจากมีธุรกิจบางส่วนที่อาจจะแข่งขันกัน 

Copyrights © 2021 All Rights Reserved by Clubhoon.com