CK หนึ่งในหุ้นธุรกิจก่อสร้างที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 จนต้องปิดแคมป์คนงานกว่า 2 เดือน  แต่ได้แรงหนุนจากบริษัทลูกที่มีกำไรดันให้ตัวแม่มีกำไรในไตรมาส 3 กว่า 120 ลบ.

ช่วงไตรมาส 3 ที่ผ่านมา ธุรกิจงานก่อสร้างต่างล้วนได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยเฉพาะในช่วงเดือน ก.ค.-ส.ค. ที่มีการล็อกดาวน์แคมป์คนงาน และปิดไซด์คนงานก่อสร้างในเดือน ก.ค. และได้เริ่มกลับมาเปิดแคมป์คนงานและไซต์ก่อสร้างกันใหม่ในช่วงเดือน ส.ค.-ก.ย. แต่ก็มีข้อจำกัดที่ต้องมีการเข้มงวดในลักษณะ Bubble and Seal ระหว่างแคมป์คนงาน และไซต์งานกก่อสร้าง ส่งผลกระทบโดยตรงต่อผลประกอบการของบริษัทต่างๆ ในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่ง บริษัท ช.การช่าง จำกัด(มหาชน) หรือ CK ก็เป็นหนึ่งในนั้น

บล.เมย์แบงก์กิมเอ็ง มองว่า แม้ว่าผลประกอบการในไตรมาส 3 ของ CK จะได้รับผลกระทบจากโควิด-19 แต่ CK จะได้แรงหนุนจากบริษัทลูก คือ บริษัทซีเค พาวเวอร์ จำกัด(มหาชน) หรือ CKP และบริษัท ทีทีดับบลิว จำกัด(มหาชน) หรือ TTW โดยได้ปันผลจาก TTW จำนวน 232 ล้านบาท และส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุน CKP+BEM จำนวน 330 ล้านบาท ทำให้มีกำไรสุทธิประคองตัวที่ 118 ล้านบาท ไม่ขาดทุน ซึ่งลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 85% และลดลงจากช่วงไตรมาสก่อนหน้า 63%

อย่างไรก็ตาม CK  มีศักยภาพจะได้งานขนาดใหญ่หลายๆ โครงการในอนาคต คือ โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ งานโยธา 7.87 หมื่นล้านบาท โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตกและงานเดินรถ 1.27 แสนล้านบาท และโรงไฟฟ้าหลวงพระบาง 1,410 MW จะมีงานก่อสร้างประมาณ 8.5 หมื่นล้านบาท จะช่วยเติม Backlog ปัจจุบันที่ 2.8 หมื่นล้านบาท และมีงานรอลงนามอีก 4.6 หมื่นล้านบาท  คือ รถไฟทางคู่ สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ 2 สัญญา

บล.เมย์แบงก์กิมเอ็ง มองราคาที่เหมาะสมของ CK ที่ 24 บาท

ด้าน บล.หยวนต้า มองว่า ไตรมาส 3 นี้ CK จะมีกำไรปกติ 127 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 77% หรือลดลงจากช่วงไตรมาสก่อนหน้า 27.5% ซึ่งเป็นเพราะผลกระทบจากการปิดแคมป์คนงานราว 1-1.5 เดือน ส่งผลให้รายได้ลดลงกว่า 2.2 พันล้านบาท แม้ว่าผลประกอบการธุรกิจรับเหมาก่อสร้างจะได้รับผลกระทบจากงานที่มีระยะเวลาจำกัด แต่ CK ก็ยังได้รับแรงหนุนที่ดีจากกำไรเงินลงทุน โดยเฉพาะจาก CKP ที่คาดว่า มีกำไรราว 315 ล้านบาท ขณะเดียวกันยังได้รับเงินปันผลจาก TTW ราว 232 ล้านบาท

ส่วนในช่วงปลายปีนี้ CK มีโอกาสมีงานใหม่เข้าในมือระดับแสนล้านบาท จากปัจจุบันที่มีงานในมืออยู่ 2.8 หมื่นล้านบาท จากงาน 1) โรงไฟฟ้าพลังน้ำหลวงพระบาง วงเงินราว 1 แสนล้านบาท 2) งานรถไฟทางคู่สายใหม่ เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ที่บริษัทเป็นผู้เสนอราคาต่ำสุดพร้อมพันธมิตร ในสัญญาที่ 2 และ 3 คาดว่าจะได้รับราว 2.6 หมื่นล้านบาท โดยงานที่มีโอกาสเป็นงานใหม่ในปี 2565 คือ งานรถไฟฟ้าสายสีม่วง ส้ม สีแดงส่วนต่อขยาย มอเตอร์เวย์ และงานสนามบิน

บล.หยวนต้า มองราคาที่เหมาะสมของ CK ในปี 2565 ที่ 27 บาท

---------

ติดตามข่าวสาร ความรู้ทางการเงิน-การลงทุนได้ที่

Facebook : Clubhoon

Website : www.Clubhoon.com

Twitter : www.twitter.com/Clubhoon1