“CPNREIT” เปิดยุทธศาสตร์และแผนลงทุน เล็งช้อปห้างฯอีก 2 แห่ง มูลค่าลงทุน 2 หมื่นลบ เติมเข้ากองทรัสต์ มั่นใจรักษาผลตอบแทนเงินปันผล 9% และเตรียมโรดโชว์พบนักลงทุนต่างชาติในสิงคโปร์-ฮ่องกง ช่วงกลางปีนี้ พร้อมวางเป้าหมาย 4 ปี เพิ่มมูลค่าทรัพย์สินประเภทศูนย์การค้าให้เติบโตอีก 40,000 ล้านบาท และผลักดัน Market Cap เพิ่มขึ้นอีก 20,000-30,000 ล้านบาท ส่วนแผนระยะยาว 8 ปี ปักธงเพิ่มขนาดสินทรัพย์เป็นสองเท่า (Double Asset Size) ผ่านการลงทุนในศูนย์การค้าใหม่ทุก 2 ปี เพื่อเสริมแกร่งผลตอบแทนให้นักลงทุน
นางสาวนภารัตน์ ศรีวรรณวิทย์ กรรมการ บริษัท ซีพีเอ็น รีท แมเนจเมนท์ จำกัด ผู้จัดการ “ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ CPN รีเทล โกรท” หรือ CPNREIT เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจค้าปลีกและบริการในปี 2568 มีแนวโน้มเติบโต 3-5% คิดเป็นมูลค่าประมาณ 4.4 ล้านล้านบาท โดยมีปัจจัยหลักจากการส่งเสริมและสนับสนุนอย่างต่อเนื่องจากภาครัฐฯควบคู่ไปกับการเติบโตของภาคการท่องเที่ยวและสินค้าแฟชั่น ซึ่งจะช่วยผลักดันให้ธุรกิจค้าปลีกและบริการ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ แต่ก็ยังคงมีความท้าทายจากนโยบายภาษีตอบโต้ (Reciprocal Tariff) ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยอย่างไรก็ตาม CPNREIT ยังคงมุ่งมั่นสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับการสนับสนุนอย่างแข็งแกร่งจาก บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา (CPN) ที่พร้อมนำทรัพย์สินเข้ากองเพื่อสร้างการเติบโตไปพร้อม ๆ กัน โดยยังมีอีกกว่า 30 แห่ง ที่จะให้กองทรัสต์ฯ เลือกลงทุน ซึ่งจะให้ความสำคัญกับคุณภาพและผลประกอบการของศูนย์การค้า ควบคู่ไปกับการวางแผนลงทุนในทรัพย์สินที่มีศักยภาพอย่างต่อเนื่อง เพื่อขยายขนาดสินทรัพย์ เพิ่มมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Cap) และเสริมสร้างความมั่นคงของผลตอบแทนในระยะยาว โดยมีแผนจะเติมทรัพย์สินเข้ากองฯอีกอย่างน้อยๆ 2 แห่ง มูลค่าลงทุนอีก 2 0,000 ล้านบาท ปัจจุบัน CPNREIT อยู่ระหว่างพิจารณาศูนย์การค้าทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด อาทิ เซ็นทรัล เวสต์เกต เซ็นทรัล อีสต์วิล เซ็นทรัล พระราม 9 เซ็นทรัลชลบุรี เซ็นทรัลโคราช ทั้งนี้ กองทรัสต์สร้างกระแสรายได้เติบโต 3-4%
“ CPNREIT มุ่งสู่การเป็นผู้นำกองทรัสต์ค้าปลีกในภูมิภาค โดยเป้าหมายระยะกลางในช่วง 4 ปีข้างหน้า (2568-2571) CPNREIT ตั้งเป้าที่จะเพิ่มมูลค่าทรัพย์สินประเภทศูนย์การค้าประมาณ 40,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Cap) เพิ่มขึ้นราว 20,000-30,000 ล้านบาท จากปัจจุบันอยู่ที่กว่า 42,000 ล้านบาท เพิ่มเป็น 62,000 -72,000 ล้านบาท ในอีก 4 ปีข้างหน้า การดำเนินการนี้สอดคล้องกับแผนระยะยาวของ CPNREIT ที่ต้องการเพิ่มขนาดสินทรัพย์เป็นสองเท่าภายใน 8 ปี โดยมีแผนการลงทุนในศูนย์การค้าใหม่เพิ่มเติมทุก ๆ 2 ปี ซึ่งตอนนี้มีลิสต์ราว 4-5 แห่ง เพื่อสร้างการเติบโตของรายได้และผลตอบแทนที่ยั่งยืนให้แก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์ในระยะยาว โดยปัจจุบัน ผลตอบแทนจากเงินปันผลอยู่ระดับ 9% ”
นางสาวนภารัตน์ กล่าวเพิ่มว่า ปัจจุบันผู้ถือหน่วยลงทุนของ ‘CPNREIT‘ จะเป็น CPN สัดส่วน 40% ส่วน นักลงทุนต่างชาติอยู่ที่ 5% จากที่เคยถือสูงสุดสัดส่วนที่ 10% ทั้งนี้มีแผนที่จะลดโชว์นักลงทุนต่างชาติในเดือนหน้าที่สิงคโปร์และฮ่องกงเนื่องจากเป็นตลาดที่มีกลุ่มนักลงทุนที่มีความต้องการลงทุนสินทรัพย์ดังกล่าวอยู่มาก
ในช่วงที่ผ่านมา กองทรัสต์ฯ ได้มุ่งมั่นพัฒนา และยกระดับทรัพย์สินหลักทั้ง 3 แห่งอย่างต่อเนื่อง ได้แก่
1.) โครงการเซ็นทรัล ปิ่นเกล้า ภายหลังการต่อสัญญาเช่าอีก 15 ปี ได้มีการปรับโฉมครั้งใหญ่ (Transformation) เพื่อตอบสนองกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูง (Affluent Demographic) โดยมีงบประมาณลงทุนในส่วนของ CPNREIT ประมาณ 1,100 ล้านบาท และคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 3 ปี 2568
2.) โครงการเซ็นทรัล เชียงใหม่ แอร์พอร์ต ได้มีการพลิกโฉมภูมิทัศน์ค้าปลีก (Retail Landscape) และยกระดับ Master Planning ใหม่ และยังมีการขยายโซนกาดหลวง (Indoor Local Market) ที่ขนาดใหญ่เพิ่มขึ้น 3 เท่า รวมเป็น 10,000 ตร.ม. และสร้างโซน Hug Craft & Northern Village เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว และมีแผนพัฒนาโรงแรมและคอนโดมิเนียมในอนาคต โดยมีงบประมาณลงทุนในส่วนของ CPNREIT ประมาณ 800 ล้านบาท และคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 2 ปี 2569
และ 3.) โครงการเซ็นทรัล มารีนา ได้ประกาศปรับโฉมเป็น "Central Marina Outlet" เอาท์เล็ทแห่งใหม่ล่าสุดในภาคตะวันออก พร้อมตั้งเป้าจำนวนผู้เข้าใช้บริการที่ 30,000-35,000 คนต่อวัน