ลือดีลควบรวม ทรู -ดีแทค เป็นหมัน ผู้ใหญ่ในรัฐบาลไม่ปลื้ม หวั่นประชาชนเสียประโยชน์ ด้านบอร์ด ทรู-ดีแทค เลื่อนจัดประชุมผู้ถือหุ้นร่วมระหว่างทรู และดีแทค ในการพิจารณาเรื่องการควบบริษัท
แหล่งข่าวจากกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจสื่อสาร เปิดเผยว่า ดีลการควบรวมระหว่างบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE และผู้ถือหุ้นของบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ DTAC มีแนวโน้มว่าอาจจะไม่เกิดขึ้น เนื่องจากมีกระแสข่าวลือในแวดวงผู้ประกอบการธุรกิจสื่อสาร ระบุว่าผู้ใหญ่ในรัฐบาล ไม่เห็นด้วยกับดีลนี้ เพื่อป้องการผูกขาดธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคม เพราะหากการควบรวมสำเร็จ จะเหลือผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในตลาดเจ้าหลักๆ เพียง 2 ราย คือ ทรู คอร์ปอเรชั่น และ เอไอเอส ซึ่งจะทำให้ประชาชน ในฐานะผู้บริโภคเสียประโยชน์ ขาดทางเลือกในการเลือกใช้บริการ และอาจทำให้ค่าบริการที่แพงขึ้น
ซึ่งปัจจุบันทรู มีผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ 33.3 ล้านราย และดีแทค มีผู้ใช้บริการ 20.3 ล้านราย หากควบรวมสำเร็จ ทรู จะขึ้นเป็นผู้นำในตลาด ด้วยจำนวนผู้ใช้บริการมากถึง 53.6 ล้านราย ขณะที่ เอไอเอส มีจำนวนผู้ใช้บริการ 43.2 ล้านราย
โดยได้ส่งผ่านความคิดเห็นเรื่องนี้ไปยัง คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ หรือบอร์ด กสทช.ไปแล้ว
ในขณะเดียวกัน บอร์ด กสทช. หลังได้รับสัญญาณ ก็ได้ยืดเวลาในการพิจาณาเรื่องดังกล่าว โดยอ้างรายละเอียด 6 ประเด็นที่ให้สำนักงาน กสทช.วิเคราะห์ข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อประวิงเวลาออกไป ประกอบด้วย
1.วิเคราะห์โครงสร้างการรวมธุรกิจของทรูและดีแทคโดยให้รวมถึงผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมทั้งหมดที่ทรูและดีแทคและ New Co ซึ่งเป็นชื่อบริษัทใหม่หากมีการควบรวม มีอำนาจควบคุม
2.วิเคราะห์ผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นต่อการบริหารจัดการ การดำเนินธุรกิจ การแข่งขันในตลาดของผู้รับใบอนุญาตการประกอบกิจการโทรคมนาคมที่บริษัท New Co เข้าเป็นผู้มีอำนาจควบคุม
3.วิเคราะห์ผลดีอันเกิดจากการประหยัดเนื่องจากขนาดอย่างเป็นรูปธรรมและแนวทางในการส่งต่อผลดีดังกล่าวไปยังผู้บริโภคอย่างประเมินได้ชัดเจน
4.วิเคราะห์การถือครองคลื่นของบริษัท New Co ว่าก่อให้เกิดการได้เปรียบและมีผลต่อการแข่งขันในตลาดหรือไม่อย่างไร 5.วิเคราะห์แนวทางในการลดอัตราค่าบริการ การรักษาคุณภาพการบริการเพื่อลดผลกระทบต่อผู้บริโภคในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว
6. วิเคราะห์มาตรการการส่งเสริม MVNO หรือบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบโครงข่ายเสมือน และเสนอแนวทางในการปรับปรุงกฎเกณฑ์ เพื่อให้ MVNO สามารถเกิด คงอยู่ และแข่งขันได้ในตลาดเพื่อเพิ่มระดับการแข่งขันให้สูงขึ้น รวมทั้งทางเลือกให้ผู้บริโภค
โดยบอร์ด กสทช. มองว่าข้อมูลดังกล่าวมีความจำเป็นสำหรับการออกแบบมาตรการเพื่อป้องกันการผูกขาดตลาดโทรคมนาคม หรือการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรมซึ่งเป็นหน้าที่โดยตรงในการกำกับดูแลของ กสทช. ตามกฎหมายโดยให้สำนักงาน กสทช. รายงานความคืบหน้าของการดำเนินงานที่มอบหมายต่อ กสทช. โดยเร็ว
ขณะที่เมื่อช่วงค่ำวานนี้( 30 ส.ค.) บอร์ดของ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) ได้รายงานต่อตลาดหลักทรัพย์ ว่า คณะกรรมการบริษัท ได้มีมติพิจารณาขยายเวลาการจัดประชุมผู้ถือหุ้นร่วมระหว่างผู้ถือหุ้นของบริษัท ทรู และผู้ถือหุ้นของดีแทค เพื่อพิจารณาเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการควบบริษัท ตามบทบัญญัติของมาตรา 148 แห่งพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจํากัด พ.ศ. 2535 (รวมทั้งที่ได้แก้ไขเพิ่มเติม) จากเดิมที่กำหนดประชุมผู้ถือหุ้นในวาระดังกล่าวในวันที่ 3 ตุลาคมที่จะถึงนี้
โดยให้เหตุผลว่า เนื่องจาก กสทช. ยังคงอยู่ในระหว่างการพิจารณาการรวมธุรกิจระหว่างทรู และ ดีแทค จึงทําให้ ทรู และดีแทค อาจไม่สามารถจัดประชุมผู้ถือหุ้นร่วมเพื่อพิจารณาเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการควบบริษัทได้ ภายใน 6 เดือนนับจากวันที่ที่ประชุมของทรูและดีแทค มีมติอนุมัติการควบบริษัท