หุ้นไทยวันนี้ แนวโน้มปรับตัวไหลลง แรงกดดันเงินเฟ้อสหรัฐ มิ.ย. พุ่งสูงถึง 9.1% แรงเกินคาด คาดเฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ทั้งรอบก.ค.และก.ย.นี้ แนวโน้มดอลลาร์แข็งค่า บวกกับจีนกลับมาล็อกดาวน์อีก ด้านราคาน้ำมันยังผันผวน ประธานาธิบดีสหรัฐ "โจ ไบเดน" กดดันกลุ่มโอเปคผลิตน้ำมันเพิ่ม แนะเล่นหุ้น Defensive ช่วงตลาดผันผวน วันนี้ TISCO โชว์งบ 2Q
แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ (14 ก.ค.) นักวิเคราะห์จาก บล.กรุงศรี ประเมิน SET ปรับตัวลงแนวรับ 1,530 - 1,540 จุด หลังตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐพุ่งสูงสุดในรอบ 40 ปี โดย CPI เดือนมิ.ย. ขึ้นทะยาน +9.1% จากช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) ส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) มีแนวโน้มเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ย ทั้งนี้ Fedwatch tool คาดว่าจะขึ้นดอกเบี้ยครั้งละ 0.75% ในการประชุม 27 ก.ค. และ 21 ก.ย. นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบที่ทรุดตัวลงแรงรวมถึง Covid-19 ในจีนที่เร่งตัวขึ้นอาจทำให้จีนกลับมาล็อกดาวน์อีกครั้งซึ่งเป็นแรงกดดันดัชนี
กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy แนะนำหุ้น GPSC BGRIM GULF RATCH SCGP SCC ได้อานิสงส์ราคาน้ำมันดิบอ่อนตัวลง ส่วน BDMS BH BCH CHG ได้ผลบวกจากแนวโน้มยอดผู้ติดเชื้อ Covid-19 สูงขึ้น และ BEM BTS INTUCH ADVANC หุ้น Defensive ในช่วงตลาดผันผวน
หุ้นแนะนำวันนี้
- GPSC (ซื้อ/ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 72 บาท) แรงกดดันต่อต้นทุนพลังงานเริ่มลดลงหลังจากแนวโน้มของราคาน้ำมันดิบเริ่มชะลอตัวเป็น Sentiment บวกกับโรงไฟฟ้าประกอบกับมีประเด็นเรื่องการปรับขึ้นค่า Ft ให้เก็งกำไรเป็นบวกกับผู้ประกอบการที่มีสัดส่วนของโรงไฟฟ้า SPP และมีกลุ่มลูกค้าที่เป็นภาคอุตสาหกรรมสูง
- CPALL (ซื้อ/ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 74.50 บาท) ได้ผลบวกจากการปรับขึ้นราคาสินค้าช่วยหนุนรายได้และมาร์จิ้นให้เพิ่มขึ้น ด้านแรงกดดันต่อกำลังซื้อของประชาชนในประเทศลดลง หลังจากราคาน้ำมันดิบเริ่มชะลอตัวและรัฐตึงราคาดีเซลในประเทศไปอีก 3 เดือน
ประเด็นสำคัญวันนี้
(-) เงินเฟ้อสหรัฐพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 40 ปี กดดันเฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ย : สหรัฐรายงานอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือน มิ.ย. เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 9.1% จาก 8.6% ในเดือน พ.ค. และสูงกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ 8.8% นับเป็นระดับอัตราเงินเฟ้อสูงสุดในรอบ 40 ปี อย่างไรก็ตามในส่วนของอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานปรับตัวลงเล็กน้อยเป็น 5.9% จาก 6% ในเดือน พ.ค. แตะยังสูงกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ 5.8%
(-) น้ำมันดิบผันผวนรุนแรงจากหลายปัจจัยลบรุมกดดัน : เมื่อคืนราคาน้ำมันดิบ WTI กลับมาปิดบวก 46 เซนต์ แต่วันก่อนหน้า (วันอังคาร) ราคาน้ำมันดิบร่วงแรงกว่า 8 ดอลลาร์ และเป็นสาเหตุให้ราคาน้ำมันดิบ WTI ลงมาซื้อขายที่ระดับต่ำกว่า 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในปัจจุบัน เป็นผลจาก 1) กังวลภาวะเศรษฐกิจถดถอยกดดันดีมานด์(ความต้องการอุปโภคบริโภค) , 2) กังวลจีนกลับมาล็อกดาวน์รอบใหม่ , 3) ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่า, และ 4) กังวล "โจ ไบเดน" กดดันกลุ่ม OPEC เพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันดิบ
(+/-) วันนี้ติดตาม TISCO ประกาศงบจับสัญญาณทิศทางผลกำไรของกลุ่มธนาคารในงวดไตรมาส 2 (2Q22) : TISCO จะเป็นผู้ประกอบการธนาคารรายแรกที่จะทำการประกาศงบ 2Q22 ออกมาในวันนี้ โดยผลกำไรของ TISCO จะช่วยบ่งชี้ทิศทางของกลุ่มธนาคารที่จะทยอยประกาศงบออกมาทั้งหมดในสัปดาห์หน้า เบื้องต้นเราคาดว่า TISCO จะมีกำไรสุทธิ 2Q22 ประมาณ 1,687 ล้านบาท ลดลง 6%เทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (qoq) แต่เพิ่มขึ้น 1.3% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน (yoy)