Market

InnovestX คาด SET ลุ้น กนง. ลดดอกเบี้ย 
25 มิ.ย. 2568

แนวโน้มตลาดวันนี้ (25 มิ.ย.) บล. อินโนเวสท์ เอกซ์ คาดตลาดแกว่งตัวขึ้น แต่มีโอกาสชะลอตัวที่แนวต้าน 1112/1120 ส่วนการอ่อนตัวลงมีแนวรับที่ 1095/1066 ความหวังในการหยุดยิงอิสราเอล-อิหร่านยังหนุนตลาดหุ้นโลก แม้ว่าปัจจุบันจะยังไม่สามารถหยุดยิงได้เด็ดขาดทันทีปัจจัยในประเทศ ติดตามการประชุม กนง. ในวันนี้ INVX คาดลดดอกเบี้ย รวมถึงการสลับเปลี่ยนกองทุน ThaiESGX โค้งสุดท้ายสิ้นเดือน

 

ประเด็นสำคัญ

• ปธน. ทรัมป์ เรียกร้องอิสราเอลให้หยุดทิ้งระเบิดในอิหร่านทันที โดยทั้งอิสราเอลและอิหร่านต่างกล่าวหากันและกันว่ามีการละเมิดข้อตกลง มองความเสี่ยงในตะวันออกกลางยังไม่อาจวางใจได้

 

• บ่ายวันนี้ติดตามการประชุมนโยบายการเงินของ กนง. ครั้งที่ 3/2568 ซึ่งตลาดคาดจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.75% ส่วนเราคาด กนง. จะลดดอกเบี้ยในครั้งนี้ 25bps และจะลดอีกครั้งในปีนี้

 

• ตลท. ประกาศยกเลิกมาตรการชั่วคราวเพื่อลดความผันผวนในตลาด SET, mai และ TFEX โดยจะปรับ Floor และ Ceiling กลับมาสู่กรอบ 30% และ Dynamic Price Band รายหลักทรัพย์กลับมาสู่กรอบ 10% มีผลตั้งแต่วันนี้ (25 มิ.ย. 68) เป็นต้นไป

 

• ครม. เห็นชอบมาตรการกระตุ้น ศก. วงเงิน 1.15 แสนลบ. โดยเน้นลงทุนโครงสร้างพื้นฐานกว่า 80% ตามด้วยกระตุ้นท่องเที่ยว (อนุมัติโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่งวงเงิน 1,750 ลบ. คาดเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนและจองสิทธิ 1 ก.ค. และใช้สิทธิได้ 4 ก.ค. – 31 ต.ค. 68) คาดดัน GDP ขยายตัว 0.4% ทั้งนี้เรามองหุ้นที่ได้ประโยชน์ระยะสั้น แนะนำ SCC SCCC STECON CK ERW AAV

 

• ส.อ.ท. เผยยอดส่งออกรถยนต์ พ.ค. 68 ที่ 81,071 คัน ลดลง 9.2%YoY ส่วนยอดขายในประเทศอยู่ที่ 52,229 คัน เพิ่มขึ้น 4.7%YoY จาก EV ที่ราคาจับต้องได้ คงแนะนำหลีกเลี่ยงการลงทุนในกลุ่มยานยนต์ (AH SAT STANLY รวมทั้ง NYT)

 

• TRIS ปรับลดมุมมองการเติบโตสินเชื่อกลุ่มจำนำทะเบียนรถในปี 2568 ลงเหลือ 5-10% จากเดิมที่เคยคาดไว้ 10-15% เนื่องจากผู้ประกอบการระมัดระวังเพื่อรักษาคุณภาพสินเชื่อ ท่ามกลาง ศก. ที่อ่อนไหว ขณะที่ความสามารถการชำระหนี้ยังคงเปราะบาง

 

 กลยุทธ์การลงทุน

ช่วงสั้นมอง SET แกว่งตัวผันผวนต่อ หลังเผชิญปัจจัยลบทั้งภายนอกและภายในประเทศ ปัจจัยภายนอกติดตามสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง, ข้อตกลงการค้าเพิ่มเติมและการการแจ้งอัตราภาษีแบบฝ่ายเดียวของสหรัฐฯ ต่อประเทศคู่ค้าอื่นๆ ส่วนปัจจัยภายในติดตามความไม่แน่นอนทางการเมืองและปัญหาความขัดแย้งไทย-กัมพูชา อย่างไรก็ดีเราประเมิน SET ที่บริเวณต่ำกว่า 1100 จุด คิดเป็น PER ปี 2568 ต่ำกว่า 12 เท่า ยังเป็นจุดที่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนระยะกลาง-ยาว แต่เป็นลักษณะของการทยอยสะสม กลยุทธ์ลงทุนคงแนะนำให้ “Selective Buy”

 

Daily top picks

ERW: ราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นจากโครงการเที่ยวคนละครึ่ง คาดว่าผู้ประกอบการที่มีรายได้จากนักท่องเที่ยวไทยและจีนจะได้อานิสงส์มากที่สุด โดย ERW มีสัดส่วนรายได้ 28% ของรายได้โรงแรมมาจากนักท่องเที่ยวไทยและ 10% จากจีน คาดว่าครึ่งปีหลังการดำเนินงานจะฟื้น บริษัทยังคงเป้าการเติบโตสูงของกลุ่มโรงแรมบัดเจ็ท HOP INN ไว้ที่ 23% จากการขยายโรงแรมอย่างต่อเนื่อง 

 

CPALL: ราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นระยะสั้นจากการฟื้นตัวตามภาพรวมของตลาด กำไร 2Q68 คาดจะเติบโต YoY และปี 2568 จะเติบโตดีที่สุดในกลุ่มที่ 19%YoY (กลุ่ม 5%YoY) และซื้อขาย PER 2568F ที่ 16 เท่า (กลุ่ม 17 เท่า) ส่วนการประกาศโครงการซื้อหุ้นคืน (ไม่เกิน 1.67% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด) ตั้งแต่วันที่ 16 พ.ค.-14 พ.ย. 68 จะช่วยจำกัด Downside ของราคาหุ้น 

 

 

 

 

 

Copyrights © 2021 All Rights Reserved by Clubhoon.com