Market

ASIAN แจ่ม รายได้ 2565 โต 17.7%  จ่ายปันผลอีก 0.40 บาท มั่นใจปี66 ยังไปได้สวย 
2 มี.ค. 2566

"เอเชี่ยนซี คอร์ปอเรชั่น" ประกาศงบปี 65 รายได้สดใส 11,164 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.7% จากธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงและทูน่า ขณะที่กำไร ลดลงเล็กน้อย เดินหน้าจ่ายปันผล 0.40 บาทต่อหุ้น คาดปี 66 ยังโตได้ต่อ ทุ่มงบลงทุนขยายกำลังการผลิตอีก 1,371 ล้านบาท 

 

นายเอกกมล ประสพผลสุจริต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการเงินบริษัท เอเชี่ยนซี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ASIAN ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายอาหารแช่เยือกแข็ง อาหารสัตว์น้ำ ทูน่า และอาหารสัตว์เลี้ยง เปิดเผยผลประกอบการปี 2565 ว่า บริษัทฯ มีรายได้อยู่ที่ 11,164 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.7% จากปีก่อน โดยส่วนใหญ่มาจากธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงและปลาป่นที่เติบโตถึง 46%  และธุรกิจทูน่าที่สูงขึ้น 21% ขณะที่ธุรกิจอาหารสัตว์น้ำรายได้ลดลง 27% และธุรกิจอาหารแช่แข็งลดลงเล็กน้อยที่ 3% 


ขณะที่กำไรสุทธิส่วนของบริษัทอยู่ที่ 979 ล้านบาท ลดลง 6% จากปีก่อน คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 1.2 บาท ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นลดลงมาอยู่ที่ 18.2% จากปีก่อนที่ 19.7% เนื่องจากราคาต้นทุนวัตถุดิบสูงขึ้น ขณะที่ปริมาณการขายอาหารสัตว์น้ำที่ลดลง 


“ปี 2565 เป็นปีที่ดีของธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง ทางกลุ่มได้แยกธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงและปลาป่น อีกทั้งธุรกิจทูน่าออกไป โดยดำเนินการภายใต้บริษัทลูก บริษัท เอเชี่ยน อะไลอันซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ที่เพิ่งจดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อ 1 พฤศจิกายน 65 ที่ผ่านมา เนื่องจากบริษัทฯ มีแผนงานขยายกำลังการผลิตอีก 3-4 ปีข้างหน้า เพราะคาดว่าความต้องการอาหารสัตว์เลี้ยง ทั้งในตลาดกลุ่มผู้เลี้ยงสัตว์ในประเทศ และตลาดเอเชียจะเติบโตได้อีกมาก อีกทั้งบริษัทฯ ได้เริ่มการสร้างแบรนด์อาหารสัตว์เลี้ยงเอง คือ ‘มองชู’ และ ‘ฮาจิโกะ’ ” นายเอกกมล กล่าว


ทั้งนี้ คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติกำหนดจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานงวดครึ่งหลังของปี 2565 ในอัตรา 0.40 บาทต่อหุ้น กำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิรับปันผลวันที่ 9 พฤษภาคม 2566 และจะจ่ายเงินปันผลวันที่ 24 พฤษภาคม  2566


สำหรับเป้าหมายปี 2566 มองว่า ผลประกอบการยังคงการเติบโตได้ แม้ว่าสัญญาณชะลอตัวในช่วงไตรมาสแรกของปี แต่คาดว่ากำลังซื้อจะเริ่มมีการฟื้นตัวดีขึ้นภายในครึ่งปีหลัง 2566 


หากมองการเติบโตของรายได้แบ่งตามประเภทธุรกิจ คาดว่า ธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงจะเติบโตได้มากกว่า 15% จากปีก่อน เนื่องจากความต้องการของตลาดโลกยังมีการเติบโตต่อเนื่อง เช่นเดียวกับธุรกิจทูน่าที่คาดว่าจะโตได้ 12% จากปีก่อน แม้ต้นทุนจะมีการปรับตัวสูงขึ้น แต่ความต้องการยังมีต่อเนื่องโดยเฉพาะจากตลาดประเทศกลุ่มตะวันออกกลาง สำหรับธุรกิจอาหารสัตว์น้ำ คาดว่ารายได้ปีนี้จะสามารถกลับไปอยู่ในระดับเดียวกับปี 2564 ได้ และธุรกิจอาหารทะเลแช่เยือกแข็งมีแนวโน้มอ่อนตัวจากปีก่อน 10% จากที่คาดว่าตลาดสหรัฐอเมริกายังไม่มีการฟื้นตัวภายในปีนี้

 
ทั้งนี้ ปี 2566 บริษัทฯ ตั้งงบลงทุนไว้ที่ 1,371 ล้านบาท สำหรับใช้ 3 โครงการคือ งบผูกพันสำหรับขยายกำลังการผลิตและคลังสินค้าอัตโนมัติแห่งที่ 2 ในธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงจำนวน 1,173 ล้านบาท และลงทุนสายการผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงแบบเม็ดและเปลี่ยนเครื่องกำเนิดไอน้ำ (Boiler) ใหม่จำนวน 54 ล้านบาท และใช้ลงทุนในโครงการผลิตกระแสไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์จำนวน 144 ล้านบาท 
 

Copyrights © 2021 All Rights Reserved by Clubhoon.com