ตลาดหลักทรัพย์ มั่นใจมาตรการติดเบรก ปรับช่วงซิลลิ่ง-ฟลอร์แคบลง 15% เพียงพอตั้งรับหุ้นไทยผันผวนจากปัจจัยสงครามตะวันออกกลาง หลังช่วงเช้านี้ราคาน้ำมันโลกขึ้น 2% ตลาดหุ้นเอเซียเปิดร่วงรุนแรงไม่มาก ระบุติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด ช่วยคัดกรองข่าวสารให้นักลงทุนก่อนตัดสินใจ ย้ำหากตลาดร่วงไม่รุนแรง พร้อมยกเลิกมาตรการฯ ก่อน 27 มิ.ย. นี้
เช้าวันนี้ ( 23 มิ.ย.2568) เวลา 9.00 น. นายอัสสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) แถลงข่าวก่อนตลาดหุ้นไทยเปิดทำการ กล่าวว่า จากสถานการณ์สงครามตะวันออกกลาง เพิ่มความวิตกกังวลต่อความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก นอกเหนือจากปัจจัยสงครามภาษีทรัมป์ ท่ามกลางข้อมูลข่าวสารต่างๆที่ออกมามากมาย ทำให้ยังขาดความชัดเจนในการประเมินสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอีก ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจซื้อขายในตลาดหุ้นของผู้ลงทุนได้ เมื่อค่ำวานนี้ (22 มิ.ย.) คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงได้ประกาศมาตรการชั่วคราวปรับเกณฑ์ Ceiling & Floor และ Dynamic Price Band ลงเหลือ 15% เพื่อลดความผันผวนในการซื้อขาย จากสถานการณ์ความรุนแรงดังกล่าว และเพื่อให้นักลงทุนมีเวลาในการตัดสินใจวิเคราะห์ข้อมูลให้ดีก่อนตัดสินใจลงทุน อย่างไรก็ตาม จากการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเมื่อเข้านี้ พบว่า ตลาดหุ้นเอเซีย ‘ญี่ปุ่น-เกาหลี‘ เปิดตลาดปรับตัวลดลง20 จุด ขณะที่ราคาน้ำมันโลกพิ่มขึ้น 2% ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ฯ เชื่อว่า มาตรการที่ออกมา เพียงพอรองรับสำหรับตลาดหุ้นไทย และหากตลาดฯพิจารณาแล้วเห็นว่า ตลาดหุ้นมีความผันผวนน้อยลง แลพผู้ลงทุนมีข้อมูลที่เพียงพอ ซึ่งจะไม่เกิดผลกระทบมากต่อตลาดนัก คณะกรรมการ ตลท. ได้ มอบอำนาจให้ผู้จัดการ ตลท. สามารถพิจารณายกเลิกมาตรการดังกล่าวได้ก่อนวันที่ 27 ม.ย. นี้ อย่างไรก็ตาม ตลาดหลักทรัพย์ ยังติดตามข้อมูลต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด ซึ่งวันนี้ยังไม่มีพัฒนาการที่ชัดเจน ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ต้องค่อย ๆ วิเคราะห์แต่ละเหตุการณ์ ก่อนที่จะเพิ่มหรือลดมาตรการใด ๆ เพื่อความเหมาะสม“
นายอัสสเดช กล่า ยอมรับว่า “วันนี้มีการเปลี่ยนแปลงต่างๆ เกิดขึ้นเร็วมาก หน้าที่ของตลาดหลักทรัพย์ฯ ช่วยเป็นตัวกรองข่าวเพื่อมาสื่อสารให้แก่นักลงทุน ซึ่งคงไม่ได้มีการชี้นำเหตุการณ์แต่อย่างใด จึงอยากฝากบอกนักลงทุนต้องใจเย็น ในสถานการณ์ปัจจุบันบางทีต้องกลั่นกรองข้อมูลในตลาดก่อนตัดสินใจในการลงทุน” ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ กล่าว