Market

CBG-KBANK 2หุ้นเด่น ในมุมมองของ บล.คันทรี่ กรุ๊ป 
25 ต.ค. 2564

บล.คันทรี่ กรุ๊ป มองหุ้นธีมเปิดประเทศ ตอบรับการประกาศเปิดประเทศมากแล้ว เหลือเฉพาะหุ้นเรือเกลือ BBL BEM BJC CPALL CPN ที่ยังตอบสนองช้า แนะซื้อ CBG KBANK

บล.คันทรี่ กรุ๊ป มองว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาหุ้นที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากมาตรการของรัฐบาล ในแผนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยไม่ต้องกักตัวครอบคลุม 46 ประเทศและสามารถเดินทางได้ทุกพื้นที่ของประเทศไทย วิ่งตอบรับกระแสข่าวดังกล่าวไปมากแล้ว

ความเห็นของบล.คันทรี่ กรุ๊ป มองว่า การประกาศเปิดประเทศ ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี แต่ยังไม่สามารถคาดหวังผลบวกต่อกำไรบริษัทจดทะเบียน หรือเศรษฐกิจได้อย่างมีนัยยะสำคัญ เนื่องจากประเทศจีน ที่มีสัดส่วนของนักท่องเที่ยวอันดับ 1 (28% ของนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมดในปี 19) ยังเข้มงวดในการเดินทางออกนอกประเทศ เพราะยังพบการระบาดในประเทศ

ขณะเดียวกันแม้สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศจะคลี่คลายมากขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงก่อนหน้า แต่การติดเชื้อต่อวันก็ยังอยู่ในระดับสูงราว 9,000 – 10,000 ด้านการฉีดวัคซีน เข็มแรกและเข็มสองครอบคลุมราว 54.6% และ 37.9% ของประชากรทั้งหมด หากเทียบกับประเทศใกล้เคียง อาทิ เกาหลีใต้ (78.6% , 68.8%) มาเลเซีย(78.3% , 72.8%) ญี่ปุ่น (76.6% , 69%) เรียงจากเข็มแรกและเข็มสอง 

เราเชื่อ ว่าการตัดสินใจเดินทางมาท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ก็ย่อมจะต้องพิจารณาทั้งด้านการติดเชื้อ และการกระจายวัคซีน ซึ่งจะเห็นว่าประเทศอื่นๆ ยังบริหารจัดการเรื่องโควิด ได้ดีกว่าประเทศไทย 

ส่วนอุตสาหกรรมที่ได้ประโยชน์อันดับแรกได้แก่ สนามบิน (AOT) อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นปัจจุบันมีส่วนลดจากสิ้นปี 19 เพียง 11% บ่งชี้ว่าราคาหุ้นตอบรับเชิงบวกไปพอสมควร ขณะที่เชิงผลประกอบการปี 22 คาดจะมีกำไรเพียง 2.9 พันล้านบาท หากเทียบกับปี 19 มีกำไรถึง 2.5 หมื่นล้านบาท สวนทางกับราคาหุ้นที่มีส่วนลดเพียง 11% 

ส่วนอุตสาหกรรมได้ประโยชน์ทางอ้อมได้แก่ หุ้นกลุ่มค้าปลีก BJC- CPALL กลุ่มโรงแรม CENTEL - ERW - MINT กลุ่มศูนย์การค้า CPN รถไฟฟ้า BTS - BEM กลุ่มธนาคาร BBL- KBANK - SCB 

อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นต่างก็ปรับตัวขึ้นมาระดับนึง บ่งชี้ว่าราคาหุ้นก็ได้ตอบรับต่อแผนการเปิดประเทศ รวมถึงผ่อนคลายมาตรการมาแล้วระดับนึง แต่ประเภทหุ้น Laggard หรือหุ้นที่ปรับตัวขึ้นช้ากว่าหุ้นเปิดเมืองตัวอื่น ได้แก่ BBL - BEM - BJC - CPALL - CPN 

ส่วนปัจจัยสัปดาห์นี้หลักๆ เป็นเรื่องของผลประกอบการในประเทศ ซึ่งน่าจะออกมาใกล้เคียงกับนักวิเคราะห์ประเมินไว้ จึงคาดหวังแรงหนุนเชิงบวกต่อการลงทุนได้ยาก

สำหรับหุ้นที่ฝ่ายวิจัย แนะนำซื้อ ได้แก่ 

- CBG ราคาเป้าหมาย 159 บาท เพราะคาดผลประกอบการไตรมาส3/64 จะเป็นจุดต่ำสุดของปี ที่ 655 ล้านบาท ลดลง -32%ทั้งระยะเดียวกันปีก่อน และเทียบกับไตรมาส เนื่องจากการลดลงของรายได้ในทุกๆ ประเทศที่ค้าขายซึ่งเป็นผลจากการระบาดโควิด-19 ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นลดลงเมทีอเยบกับช่วงเดียวกันปีก่อน จากต้นทุนน้ำตาลและอลูมิเนียมที่สูงขึ้น อย่างไรก็ตามคาดไตรมาส4/64 จะเริ่มฟื้นตัวเมื่อเทียบต่อไตรมาส ขณะที่ราคาหุ้นได้ปรับฐานลงมาจากจุดสูงสุด 22% เชื่อว่าสะท้อนผลประกอบการไตรมาส3/64ไปแล้ว

- KBANK ราคาเป้าหมาย 174 บาท มองว่ากำไรจะฟื้นตัวในไตรมาส4/64 เป็นต้นไป จากการขยายสินเชื่อกลุ่มธุรกิจและ SME หลังจากคลายล็อกดาวน์ รวมทั้งได้ประโยชน์จากการเปิดประเทศในปีหน้า เนื่องจากมีพอร์ตสินเชื่อ SME และสินเชื่อที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวสูง

.

#Clubhoon
ติดตามข้อมูลข่าวสารดีๆ ได้ที่ 
เวบไซต์ https://www.clubhoon.com/ 
เพจ https://www.facebook.com/Clubhoon 

 

Copyrights © 2021 All Rights Reserved by Clubhoon.com