บริทาเนีย เทรดวันแรกยืนเหนือจอง 18.10% ดันวอลุ่มติดอันดับหนึ่ง พบ 2 เซียนหุ้น "เสี่ยปู่-นเรศ งามอภิชน" ถือหุ้น ด้านซีอีโอหญิง เตรียมนำเงินพัฒนาโครงการบ้านแนวราบอีก 9 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 1.08 หมื่นล้านบาทในปีหน้า พร้อมขยายทำเลไประยอง-อุดรฯ   พร้อมแบ่งส่วนหนึ่งชำระหนี้ และเป็นเงินทุนหมุนเวียน ผลดำเนินงาน 9 เดือน รายได้โต50%

หุ้น BRI หรือ บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) ผู้พัฒนาโครงที่อยู่อาศัยแนวราบ บริษัทลูกของ บมจ..ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ เข้าทำการซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ ราคาร้อนแรงเปิดตลาดที่ 11.00 บาท จากราคาIPO ที่ 10.50 บาทต่อหุ้น หลังจากนั้นเริ่มมีแรงซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะช่วงท้ายตลาด ดันราคาขยับขึ้นมาอย่างต่อเนื่องและขึ้นไปปิดราคาสูงสุดของวันที่ 12.40 บาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.90 บาท หรือ 18.10% ด้วยมูลค่าการซื้อขายมากถึง 4,870 ล้านบาท ติดอันดับหนึ่งหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด

ทั้งนี้เมื่อเปิดดูโครงสร้างผู้ถือหุ้น BRI ถือว่าไม่ธรรมดา เพราะมีเซียนหุ้นชื่อดัง 2 คน ถือหุ้นตัวนี้อยู่ โดยนายสมพงษ์ ชลคดีดำรงกุล หรือเสี่ยปู่ เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ลำดับที่ 4 โดยถือหุ้นอยู่ 5.05 ล้านหุ้น หรือ 0.59%  และนายนเรศ งามอภิชน เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ลำดับที่ 7 ถือหุ้นอยู่ 4 ล้านหุ้น หรือ 0.47% และยังพบว่า สำนักงานประกันสังคม ก็ถือหุ้นตัวนี้อยู่จำนวน 3.98 ล้านหุ้น หรือ 0.47% 

นางศุภลักษณ์ จันทร์พิทักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า  BRI สามารถระดมทุนได้ทั้งสิ้นกว่า 2,652.83 ล้านบาท  ซึ่งบริษัทฯจะนำเงินไปใช้พัฒนาโครงการ ชำระเงินกู้และเป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ โดยในปี 2565 วางแผนพัฒนาโครงการใหม่อีก 9 โครงการ รวมมูลค่าโครงการ 10,800 ล้านบาท เน้นแบรนด์ “บริทาเนีย” และ “แกรนด์ บริทาเนีย” จับกลุ่มลูกค้าระดับกลางและกลางบน ในพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑลและต่างจังหวัด

โดยบริษัทมีแผนจะขยายการเปิดโครงการในจังหวัดใหม่ๆ ได้แก่ ระยองและอุดรธานี ซึ่งระยองถือเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพจากการพัฒนาโครงการระเบียงเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และมีนิคมอุตสาหกรรมอยู่เป็นจังหวัด ส่วนอุดรธานีถือเป็นเมืองเศรษฐกิจชั้นนำของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งมีจำนวนประชากรและกำลังซื้อสูง  

 
ทั้งนี้ บริษัทฯ ก่อตั้งในปี 2559 สามารถสร้างการเติบโตอย่างก้าวกระโดดภายในช่วงเวลา 4-5 ปี พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยจำนวน 21 โครงการ สอดคล้องกับผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง จากปี 2561 ที่มีรายได้รวม 515.47 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเป็น 2,342.09 ล้านบาทในปี 2563 คิดเป็นอัตราเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) 113.16% และใน ส่วนกำไรสุทธิปี 2561 อยู่ที่ 71.65 ล้านบาท และเพิ่มขึ้นเป็น 348.72 ล้านบาทในปี 2563 และงวด 9 เดือนของ 2564 มีกำไรสุทธิ 452.30 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 55.93% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 290.08 ล้านบาท 

 
ล่าสุด ผลดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกของปี 2564 บริษัทมีรายได้รวม 2,808.57 ล้านบาท เติบโต 52.18% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 1,845.59 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิ 452.30 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 55.93% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 290.08 ล้านบาทผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง มาจากการเปิดตัวโครงการเพิ่มขึ้นในทำเลที่ตั้งที่สอดคล้องกับความต้องการซื้อบ้านจัดสรรที่มีอย่างต่อเนื่องจากการขยายตัวของเมือง ระบบสาธารณูโภค และระบบขนส่งมวลชน

นายพงศ์ศักดิ์ พฤกษ์ไพศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย กล่าวว่า บริทาเนียมีการเติบโตอย่างรวดเร็วจากการเปิดโครงการใหม่อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้รายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์และกำไรสุทธิเติบโตอย่างต่อเนื่องเช่นกัน

“BRI มีความสามารถการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้น และอัตรากำไรสุทธิอยู่ในระดับที่ดี การเติบโตอย่างต่อเนื่องของบริษัทฯ ส่งผลให้บริษัทฯ ได้ประโยชน์จาก Economy of Scale ทั้งในด้านการต่อรองราคาวัสดุก่อสร้างจากปริมาณการสั่งซื้อที่สูงขึ้น รวมถึงการบริหารต้นทุนส่วนอื่นๆ ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รวมถึงบริษัทฯ ยังได้รับการสนับสนุนจากบริษัทแม่ (บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้) ในการด้านการรวมคำสั่งซื้อซื้อวัสดุก่อสร้าง ทำให้เกิด Economy of Scale  และการวิจัยพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ของกลุ่ม ORI อีกด้วย “ นายพงศ์ศักดิ์ กล่าว

นายพายุพัด มหาผล กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย กล่าว จากภาพรวมเศรษฐกิจและธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ในช่วงฟื้นตัว รวมถึงการผ่อนปรนมาตรการ LTV โดยธนาคารแห่งประเทศไทย ให้สถาบันการเงินสามารถปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยแก่ผู้กู้ได้เต็ม 100% ของมูลค่าหลักประกัน จะเป็นปัจจัยบวกต่อการเติบโตของภาพรวมอสังหาริมทรัพย์และการขยายโครงการของ บมจ.บริทาเนีย

--------------------------------
ติดตามข่าวสาร ความรู้ทางการเงิน-การลงทุนได้ที่
Facebook : Clubhoon
Website : www.Clubhoon.com
Twitter : www.twitter.com/Clubhoon1