Market

อินโนเวสท์ เอกซ์  คาด SET ชะลอการลง คลังเสนอแผนเข้า ครม.
15 ต.ค. 2568

แนวโน้มตลาดวันนี้ (15 ต.ค.) บล. อินโนเวสท์ เอกซ์ คาดตลาดไซด์เวย์ แต่ที่แนวรับมีโอกาสชะลอการลง สัญญาณสงครามการค้ากลับมา หลังจีนประกาศคว่ำบาตรบริษัทในสหรัฐฯ 5 แห่งที่เป็นบริษัทในเครือของ Hanwha Ocean จากเกาหลีใต้ สร้างความกดดันสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีนรอบใหม่ ส่วนคลังเตรียมเสนอ Action Plan เข้า ครม. เศรษฐกิจหนุน ทางเทคนิคที่ 1255/1245 มีโอกาสชะลอการลงสั้นได้ แต่หากทิศทางยังเป็นบวกแกว่งขึ้นไม่ควรอ่อนตัวลงหลุดต่ำกว่าบริเวณนี้อีกแล้ว แนวต้านประเมินไว้ที่ 1273/1280

 

ประเด็นสำคัญ

• ติดตามการประชุม ครม. เศรษฐกิจในวันนี้ (15 ต.ค.) เวลา 10:00 น. คาดคลังจะเสนอแนวทางขับเคลื่อน ศก. ไทยสำหรับช่วง 4 เดือนนี้, พิจารณามาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวช่วงปลายปี-เร่งเบิกจ่ายงบสัมมนา, การเร่งรัดการเบิกจ่ายงบ 1Q69FY (ต.ค.-ธ.ค. 2568), การเจรจาภาษีการค้ากับสหรัฐฯ และการเจรจา FTA

 

• ธปท. ชี้แจง รมว. คลังสาเหตุเงินเฟ้อเฉลี่ย 12 เดือนที่ +0.5% ต่ำกว่ากรอบเป้าหมายที่ 1-3% กดดันจากราคาพลังงานและอาหารลดลง และมีแนวโน้มต่ำต่อเนื่องตามราคาน้ำมันโลก แต่ยืนยันไม่ใช่ภาวะเงินฝืด การบริโภคยังเติบโตและค่าจ้างเฉลี่ยครึ่งปีแรกขยายตัว 4.6% ขณะที่ค่าครองชีพยังทรงตัว คาดจะกลับสู่กรอบได้ใน 1Q70

 

• จำนวน นทท. ต่างชาติในสัปดาห์ก่อน (6-12 ต.ค.) ที่ 522,169 คน ชะลอลง 13.6%WoW ลดลงทั้งในกลุ่มระยะใกล้และระยะไกลเนื่องจากสิ้นสุดช่วงวันหยุดยาวในหลายประเทศ เช่น จีน เกาหลีใต้ และอินเดีย ซึ่งเป็นแนวโน้มปกติตามฤดูกาล ส่วนจำนวน นทท. ต่างชาติสะสมทั้งปี 2568 ที่ 25,096,346 คน ลดลง 7.5%YoY

 

• IEA ประเมินตลาดน้ำมันจะเผชิญภาวะอุปทานล้นเกินหนักขึ้น สูงถึง +4MBD หรือราว 4% ของอุปสงค์โลก จาก OPEC+ เพิ่มการผลิตต่อเนื่อง โดยเฉพาะการเพิ่มการผลิตกลับจากมาตรการลดการผลิตแบบสมัครใจ 1.66MBD ขณะที่การเติบโตอุปสงค์มีแนวโน้มชะงัก เป็นลบต่อราคาน้ำมัน มองบวกต่อกลุ่มค้าปลีกน้ำมัน OR และสายการบิน AAV

 

• IMF ปรับเพิ่มคาดการณ์เติบโตเศรษฐกิจโลกปี 2568 ขึ้นเป็น +3.2% (จาก +3.0%) และขยายตัว +3.1% ในปี 2569 หลังพบว่าในช่วงที่ผ่านมาสถานการณ์การเงินมีความทนทานต่อมาตรการภาษีศุลกากรสหรัฐฯ และย้ำเตือนว่าความขัดแย้งทางการค้ารอบใหม่ระหว่างสหรัฐฯ-จีน จะเป็นความเสี่ยงอย่างมีนัยยะฯ ต่อการเติบโต

 

กลยุทธ์การลงทุน

ช่วงสั้นมอง SET มีโอกาสแกว่งตัวไซด์เวย์รอปัจจัยหนุนใหม่ๆ ปัจจัยในประเทศติดตามรัฐบาลมีแผนออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทุกสัปดาห์ซึ่งคาดจะมีส่วนช่วยประคองตลาด ในสัปดาห์นี้คาด รมว. คลังจะเสนอ ครม. พิจารณามาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวเมืองรอง ส่วนปัจจัยต่างประเทศ คาดกรณีสหรัฐฯ ขึ้นภาษีกับจีน 100% มีท่าทีประณีประนอมมากขึ้น ประเมินผลกระทบต่อหุ้นไทยจำกัด แต่ความผันผวนของตลาดมีโอกาสเพิ่มขึ้น ติดตามตัวเลขส่งออก ต.ค. 2568 ของจีนซึ่งตลาดคาด +5.2%YoY สูงขึ้นจากเดือนก่อนที่ +4.4%YoY และตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ อาทิ CPI, PPI และยอดค้าปลีก ก.ย. 2568 แม้ตลาดคาดจะเพิ่มขึ้น MoM แต่การชัตดาวน์หน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐฯ อาจทำให้งดเผยแพร่ได้ซึ่งอาจทำให้ตลาด

 

Daily Top Picks

ADVANC: มีปัจจัยกระตุ้นระยะสั้นจากแนวโน้มกำไร 3Q68 ที่มีโอกาสเติบโตแข็งแกร่ง +31.9%YoY จากรายได้ Mobile คาดโต +4.8%YoY (EPL Bundling) และ Fixed Broadband +7.6%YoY รวมถึงต้นทุนลดจากสัญญาสัมปทานประมาณ 300 ลบ. ประเมินราคาเป้าหมายระยะสั้น 302 บาท

 

CENTEL: มีปัจจัยกระตุ้นระยะสั้นจากมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวของรัฐบาล ราคาหุ้นอ่อนตัวลงไม่สมเหตุสมผล สวนทางกับประกอบการที่ผ่านจุดต่ำสุดแล้วใน 2Q68 กำไร 3Q68 คาดฟื้นตัว +15%QoQ และฟื้นตัวต่อเนื่องถึง 1Q69 จากโรงแรมมัลดีฟส์ที่เข้าสู่ High Season Valuation ยังไม่แพง PER ที่ -1SD เป้าหมายระยะสั้นที่ 31.00 บาท

Copyrights © 2021 All Rights Reserved by Clubhoon.com