Market

หุ้นถุงมือยาง STGT เด้ง 8%สวนตลาดร่วง รับโควิดพันธุ์แอฟริกาใต้ แต่ราคายังต่ำจองที่ 34 บาท
26 พ.ย 2564

บมจ. ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) หรือ STGT หุ้นถุงมือยาง  ราคาพุ่งกระฉุดกว่า 8% สวนตลาดหุ้นรูดหนักกว่า 1.5% พิษโควิดพันธุ์แอฟริกาใต้ฉุดหุ้นทั่วโลก  บล. เมย์แบงก์ ชี้ไตรมาส 4 แนวโน้มกำไรลด แนะนำ “ถือ”

 

วันนี้ (26พ.ย.) รอบเช้าหุ้นของบมจ. ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) หรือ STGT  เป็นหุ้นตัวเดียวใน Top 10 Most Active  Value ปรับตัวเด้งขึ้นแรงถึง 8.04%  มาอยู่ที่ 30.25 บาท เพิ่มขึ้น 2.25 บาทจากราคาปิดวันก่อน โดยแตะสูงสุดที่ 30.75 บาท และต่ำสุดที่ราคาเปิด 28.25 บาท ขณะที่ภาพรวมตลาดหุ้นปรับตัวลดลงแรงราว 1.5% จากดัชนีเมื่อวานนี้ โดยดัชนีเคลื่อนไหวระดับ 1,624 จุด ในช่วงท้ายตลาดรอบเช้า เนื่องจากมีปัจจัยลบการแพร่ระบาดของโควิดสายพันธุ์ใหม่แอฟริกาใต้กระทบต่อตลาดหุ้นทั่วโลกรวมถึงไทย

 

อย่างไรก็ตาม การปรับตัวขึ้นของราคาหุ้น STGT ยังอยู่ต่ำกว่าราคาจองที่ 34 บาท โดยเพิ่งเข้าตลาดหุ้นวันแรก 3 ก.ค. ที่ผ่านมา

 

ด้าน บล. เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย)  วิเคราะห์ว่า หลังจากผลดำเนินงานไตรมาส 3 ที่ผ่านมา STGT กำไรสุทธิ 4.5 พันล้านบาท ลดลง  37.7%  จากไตรมาสก่อนหน้า (QoQ)  และเพิ่มขึ้นเพียง +2.9%จากช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) ต่ำกว่าตลาดคาด 15% หลักๆมาจาก (1) ราคาถุงมือเฉลี่ย (ASP) ลดลงต่อเนื่องอีก -35.8% QoQ เป็น 46.7 เหรียญ/ 1,000 ชิ้น เป็นไปตามภาวะตลาด กดดันให้อัตรากำไรขั้นต้นลดลงมีนัยสำคัญจาก 66.7% ไตรมาสก่อนสู่ 51.5% ลดลง 2 ไตรมาสติดๆ (2) ปริมาณส่งมอบสินค้าทำได้ 7 พันล้านชิ้น ต่ำกว่าคาด 11% จากการขาดแคลนตู้สินค้าส่งไปยังเส้นทางสหรัฐ  ไตรมาส 4 ยังต้องเผชิญกับทิศทางราคาถุงมือเฉลี่ยจะลดลงต่ออีก 25% QoQ   ทำให้คาดกำไรยังคงเป็นขาลงอีกไตรมาส และยังมีปัจจัยฝั่งอุปสงค์ที่ลดความร้อนแรงลงจากพัฒนาการด้านวัคซีน COVID-19 และด้านยารักษายังคงเป็นปัจจัยภายนอกที่ควบคุมไม่ได้ของอุตสาหกรรมถุงมือยาง

 

ผู้บริหาร STGT พบนักวิเคราะห์ ยอมรับว่า ไตรมาส 4 นี้ ยังเหนื่อย แต่มีลุ้นเจอจุดต่ำสุดในเดือน ธ.ค.  เนื่องจากตลาดถุงมือยางธรรมชาติที่ STGT เป็นเจ้าตลาดนั้น อุตสาหกรรมมีการขยายกำลังการผลิตเล็กน้อย ขณะที่ต้นทุนน้ำยางขึ้น ดังนั้น การแข่งขันด้านราคาน่าจะเบาบางลงได้ ส่วนถุงมือยางสังเคราะห์ (NBR) ต้นทุนน้ำยางลดลง แต่ราคาขายลดลงในอัตราช้ากว่า ฝั่งผู้ประกอบการจีนบางรายเริ่มขาดทุนแล้ว ผู้บริหารจึงเชื่อว่า อุตสาหกรรมอาจใกล้เข้าสู่สมดุลแล้ว และราคา ASP ในปี 2565 จะไม่ลงไปสู่ระดับก่อน COVID-19 แพร่ระบาดในปี 2562 ที่ 19 เหรียญ/ 1,000 ชิ้น เพราะพฤติกรรม new normal ใช้ถุงมือยางในร้านอาหาร โรงแรม โรงภาพยนต์ เป็นต้น ผู้บริหารตั้งเป้ายอดขาย 43,000 ล้านชิ้น  เพิ่มขึ้น 60% จากปีนี้  แม้ว่าจะมีสัญญาระยะยาวเพียง 10% เพราะลูกค้าส่วนใหญ่ยังรอดูสถานการณ์ราคา ASP อยู่ก็ตาม

 

บล.เมย์แบงก์ คาดไตรมาส 4/64 STGT จะมีกำไรปกติ 3.8 พันล้านบาท -19.7% QoQ ทำให้งวดปี 2564 กำไรปกติมีแนวโน้มสูงกว่าประมาณการ 5% ที่คาดไว้ 24,833 ล้านบาท  แต่ในปี 2565 อยู่ระหว่างพิจารณาทบทวน   อย่างไรก็ดี ค่า median ของ P/E กลุ่มผู้ผลิตถุงมือยางได้ ล่าสุดได้ลดลงเหลือ 4.4 เท่า ทำให้ราคาเหมาะสมใหม่ roll-over ปีหน้าจะอยู่ที่ 30.00 บาท จึงแนะนำ “ถือ” ตามเดิม

 

-------------------------

ติดตามข่าวสาร ความรู้ทางการเงิน-การลงทุนได้ที่

Facebook : Clubhoon

Website : www.Clubhoon.com

Twitter : www.twitter.com/Clubhoon1

 

Copyrights © 2021 All Rights Reserved by Clubhoon.com