Market

ไฟแนนซ์-ลิสซิ่งจับตาเฮียริ่ง สคบ. ทิศทางเพดานดอกเบี้ยรถมือสอง-จยย.จบยังไง
15 ธ.ค. 2564

จับตาการทำประชาพิจารณ์(เฮียริ่ง) ของ สคบ.เกี่ยวกับเพดานดอกเบี้ยรถยนต์มือสอง-จยย. พรุ่งนี้ หวั่นกระทบหุ้นไฟแนนซ์-ลิสซิ่ง

 

นับเป็นข่าวหนึ่งที่ร้อนแรงในแวดวงการเงิน ถึงการจัดทำประชาพิจารณ์ของสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค(สคบ.) เกี่ยวกับร่างประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญาเรื่องให้ธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์ รถจักรยานยนต์ เป็นธุรกิจที่ควบคุมสัญญา พ.ศ..... ที่ถูกจับตาดูมาตลอด เนื่องจากเป็นการพูดถึงการกำหนดเพดานดอกเบี้ยสำหรับรถยนต์ใหม่ รถยนต์มือสอง และรถจักรยานยนต์ ซึ่งที่ผ่านมา ไม่ได้มีการกำหนดดอกเบี้ยที่แน่ชัดทำให้หลายครั้งปรากฎว่า คนซื้อทนแบกรักดอกเบี้ยต่อไปไม่ไหวต้องยอมปล่อยให้รถถูกยึดคืนไป

 

การทำเฮียริ่งครั้งแรกเมื่อเดือนตุลาคม ที่ผ่านมา ก็สร้างปรากฎการณ์ในแวดวงไฟแนนซ์ สะท้อนผ่านราคาหุ้นบางตัวที่มีสัดส่วนสินเชื่อเช่าซื้อ โดยเฉพาะสินเชื่อรถยนต์มือสองและรถจักรยานยนต์จำนวนมาก ถูกแรงเทขายออกมา

 

ส่วนการทำเฮียริ่งครั้งที่ 2 ที่จะจัดขึ้นในวันพรุ่งนี้(16 ธ.ค.64) เกี่ยวกับร่างประกาศ ซึ่งเป็นการจัดเฮียริ่งเป็นครั้งที่ 2 สคบ.จะแยกเพดานดอกเบี้ยเป็น 2 กลุ่ม คือ เพดาน 15% ต่อปี สำหรับรถยนต์ใหม่ และเพดาน 20% ต่อปี สำหรับรถยนต์มือสอง และรถจักรยานยนต์ แต่จะไม่มีผลต่อสินเชื่อรถแทรกเตอร์ และเครื่องจักรกลการเกษตร และห้ามเก็บหนี้ส่วนที่เหลือในกรณีที่ผู้เช่าซื้อใช้สิทธิเลิกสัญญาด้วยการส่งมอบรถ(คืนรถจบหนี้)

 

ก่อนการทำเฮียริ่งครั้งนี้ ก็มีความพยายามเรียกร้องให้มีการขยายเพดานขึ้นไปอีกผ่านทางคณะกรรมการร่วมฯ 3 สถาบัน (กกร.) โดยมองว่า อัตราเพดานดอกเบี้ยรถยนต์มือสองและรถจักรยานยนต์ที่ 20%ต่อปี นั้นต่ำเกินไป และอาจจะส่งผลกระทบต่อตลาด ห่วงกระทบซัพพลายเชน

 

โบรกฯ มองไฟแนนซ์-ลิสซิ่งได้เวลาปรับตัว

 

ด้าน บล.ดีบีเอส วิคเกอร์ส(ประเทศไทย) มองว่า ปัจจุบันเรื่องเพดานอัตราดอกเบี้ยของสินเชื่อเช่าซื้อยังไม่ได้ข้อสรุปที่แน่ชัด ส่วนการทำเฮียริ่งในรอบที่ 2 นี้ ประเด็นสำคัญอยู่ที่การกำหนดเพดานรถยนต์มือสองและรถจักรยานยนต์ไว้ที่ 20% ต่อปี ทำให้บริษัทไฟแนนซ์ และลิสซิ่งต่างๆ ต้องเร่งปรับตัวรองรับเพดานดอกเบี้ยใหม่ที่มีโอกาสนำมาใช้แล้วทำให้ Yield & Spread ลดลง รวมถึงการขยายไปยังธุรกิจอื่นๆ เช่น การเป็นนายหน้าขายประกัน สินเชื่อเช่าซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าและสินเชื่ออื่นๆ อาทิ กรณีของ บมจ.ศรีสวัสด์ คอร์ปอเรชั่น (SAWAD) ที่จะเปิดตัวสินเชื่อเช่าซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าในไตรมาสแรกปีหน้า

 

บล.ดีบีเอส แนะนำให้คงน้ำหนักการลงทุน ปัจจัยกดดันระยะสั้น คือ เกณฑ์เพดานดอกเบี้ยสินเชื่อเช่าซื้อใหม่ที่ต่ำลงจากเดิม ขณะที่ปัจจัยหนุนระยะกลาง-ยาว คือ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการปรับตัวไปหาธุรกิจที่สร้างรายได้และกำไรเพิ่มเติมเข้ามาของบริษัทไฟแนนซ์ใหญ่ๆ เช่น MTC, SAWAD, TIDLOR เป็นต้น คาดว่า กำไรสุทธิของไฟแนนซ์ใหญ่จะยังเติบโตได้ดีในปี 65 เพียงแต่ไม่ได้สูงมากเหมือนช่วงก่อนโควิด ส่วนหนึ่งมาจากฐานกำไรที่สูงขึ้นด้วย

------------------
ติดตามข่าวสาร ความรู้ทางการเงิน-การลงทุนได้ที่
Facebook : Clubhoon
Website : www.Clubhoon.com
Twitter : www.twitter.com/Clubhoon1

 

Copyrights © 2021 All Rights Reserved by Clubhoon.com