OR เผยภาพรวมผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกของปี 2566 มีรายได้ขายและบริการ385,122 ล้านบาท ลดลง 4.9% จากไตรมาสแรกปีนี้ (QoQ)และลดลง 58% เทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) ส่วนกำไรสุทธิ 5,732 ล้านบาท ลดลง 4,681 ล้านบาท หรือลดลง 58% YoY ส่วนครึ่งปีหลัง มุ่งสร้างความแข็งแกร่งของธุรกิจหลัก ขยายธุรกิจไปในอุตสาหกรรมใหม่ ๆพร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจในต่างประเทศ และศึกษาธุรกิจเพื่อสุขภาพและความงาม เพื่อสร้างการเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน
นายดิษทัต ปันยารชุน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีกจำกัด (มหาชน) หรือ OR เปิดเผย ถึงภาพรวมผลการดำเนินงานครึ่งแรกของปี 2566 ถือเป็นช่วงเวลาแห่งความท้าทายท่ามกลางหลายปัจจัยเสี่ยงทั้งจากในประเทศ และต่างประเทศ ระดับราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับลดลงจากความกังวลต่อสภาวะการถดถอยของเศรษฐกิจในหลายประเทศ โดยไตรมาส 2 ปี 2566 OR มีรายได้ขายและบริการจำนวน 187,708 ล้านบาท ลดลง 9,706 ล้านบาทจากไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) มีกำไรสุทธิ จำนวน 2,757 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสก่อน 218 ล้านบาท
ส่วนผลการดำเนินงานครึ่งแรกของปี 2566 OR มีรายได้ขายและบริการ 385,122 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน3,600 ล้านบาท หรือลดลง 4.9% และ 58% YoY และมีกำไรสุทธิจำนวน 5,732 ล้านบาท ลดลง 4,681 ล้านบาทหรือลดลง 58% YoY เนื่องจากช่วงปีก่อนมีกำไรขั้นต้นเฉลี่ยสูงกว่าปกติ จากราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ผันผวนจากวิกฤตรัสเซีย-ยูเครนสำหรับ OR ยังคงมุ่งเน้นการสร้างความแข็งแรงของธุรกิจหลัก (Core Business) เพื่อเป็นฐานสำหรับการเติบโตในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นการผลักดันการสร้างยอดขาย และกำไรในกลุ่มผลิตภัณฑ์ของกลุ่ม Energy Solution อาทิ ยางมะตอย น้ำมันอากาศยานหรือผลิตภัณฑ์หล่อลื่น PTT Lubricants
สำหรับการดำเนินธุรกิจของ OR ครึ่งปีหลัง นายดิษทัต กล่าวว่า ยังมีปัจจัยที่อาจส่งผลการดำเนินการของ OR คือสภาพเศรษฐกิจที่คาดว่าจะเติบโตทั้งจากการท่องเที่ยวที่ดีขึ้นต่อเนื่องการบริโภคภาคเอกชนที่ขยายตัว ตามการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว จึงคาดว่าผลการดำเนินงานครึ่งปีหลังในกลุ่มธุรกิจ Mobility จะปรับตัวดีขึ้นตามการเติบโตของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ส่วนกลุ่มธุรกิจ Lifestyle โดยเฉพาะ Café Amazon ยังสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่องจากแผนการขยายสาขา เช่นเดียวกับกลุ่มธุรกิจ Global ที่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจของหลาย ๆ ประเทศในภูมิภาคนี้หลังจาก COVID ช่วยให้ปริมาณขายน้ำมันและ Café Amazon เติบโตขึ้นในทุกประเทศเป็นสัญญาณบวก
ทั้งนี้ OR ยังคงมุ่งแสวงหาพันธมิตรที่มีศักยภาพเพื่อแสวงหาโอกาสทางธุรกิจร่วมกันในการขยายธุรกิจในต่างประเทศอย่างมั่นคง และได้เริ่มนำแบรนด์ไทยที่มีศักยภาพไปทดลองในตลาดต่างประเทศแล้ว เช่น การนำแบรนด์ “อ๊อตเทริ วอชแอนด์ดราย” Otteri wash & dry ไปเปิดสาขาแรกใน PTT Station สาขา Chbar Ampov ถือเป็นการนำพันธมิตรของ OR ไปบุกเบิกตลาดร้านสะดวกซักในประเทศกัมพูชา เป็นไปตามพันธกิจในการสร้างทางเลือกสำหรับการดำเนินชีวิตแบบครบวงจรเพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตทุกรูปแบบของผู้บริโภค และยังช่วยเพิ่มความหลากหลายทางธุรกิจให้กับเครือข่ายสถานีบริการ พีทีที สเตชั่น ในประเทศกัมพูชา
นอกจากนี้ ในครึ่งปีหลัง OR จะมุ่งเน้นการลงทุนที่สามารถต่อยอด Value Chain อย่างชัดเจนตามพันธกิจของ OR ได้ในระยะยาว และการสร้าง Synergy ร่วมทั้งจากภายในและภายนอกกลุ่ม ปตท. รวมทั้งยังอยู่ระหว่างการพิจารณาโอกาสการลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายด้านสุขภาพ และ ความงาม (Health & Beauty) ซึ่งเป็นธุรกิจที่ตอบโจทย์กระแสหลัก เรื่องการเข้าสู่สังคมสูงวัย (Aging Society) และกลุ่มประชากรในวัยทำงานที่จะถือเป็นกลุ่มหลักของคนในประเทศ ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีแนวโน้มของการใส่ใจสุขภาพ และความงาม โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษาและพัฒนารูปแบบของการดำเนินธุรกิจที่เหมาะสม และอีกอุตสาหกรรมที่เป็นกลุ่มเป้าหมายคือด้านการท่องเที่ยวและที่พัก (Tourism & Accommodation) ซึ่งทั้ง 2 กลุ่มสอดคล้องกับพันธกิจด้าน All Lifestyle ของ OR ที่ต้องการเสนอสินค้าและบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค รวมทั้งจะเดินหน้าขับเคลื่อนกลยุทธ์ขยายธุรกิจในกลุ่มธุรกิจ Global มุ่งเสริมความแข็งแกร่งของการดำเนินธุรกิจในต่างประเทศที่ OR ดำเนินการอยู่ โดยเพิ่มความหลากหลายในการดำเนินธุรกิจ และร่วมกับพันธมิตรในการขยายธุรกิจออกไปในต่างประเทศ ตลอดจนหาโอกาสในการสร้างการเติบโตผ่านการลงทุนใหม่ในรูปแบบต่างๆที่มีศักยภาพ โดยประเทศยุทธศาสตร์ในการดำเนินธุรกิจที่สำคัญของ OR คือประเทศกัมพูชาที่เปรียบเสมือนเป็นบ้านหลังที่ 2 รองจากประเทศไทย
และเร็วๆ นี้ OR จะเปิดตัวแอปพลิเคชัน “เอ็กซ์พลอร์” (xplORe) ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งของการอำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตประจำวันของผู้บริโภคอย่างเป็นทางการ อีกทั้งยังมีแผนเปิดตัวสถานีบริการ พีทีที สเตชั่น flagship station ที่จะเป็นต้นแบบสถานีบริการในอนาคตนำเสนอทั้งจุดบริการเติมน้ำมัน และ สถานีอัดประจุไฟฟ้า (Seamless Mobility) พร้อมด้วยพื้นที่ค้าปลีกขนาดใหญ่และหลากหลายตอบโจทย์ความต้องการทุกรูปแบบ (All Lifestyles)และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมผ่านการใช้พลังงานสะอาดด้วยการติดตั้ง Solar Rooftop สะท้อนภาพ OR Ecosystem ที่ตอบโจทย์ด้าน Mobility & Lifestyle และรูปแบบการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน